กรุงเทพฯ, ภูมิภาค 10 ส.ค.-รัฐบาลมั่นใจดูแลสถานการณ์น้ำได้ ปีนี้ไม่หนักเหมือนปี 54 ด้านอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ยืนยันข่าวจะมีพายุเข้าไทย 3-4 ลูก ไม่เป็นความจริง
นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา และนายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. ชี้แจงการบริหารจัดการแบบบูรณาการแก้วิกฤติน้ำท่วมในห้วงฤดูฝนปี 2561ว่าภาพรวมการบริหารจัดการน้ำปีนี้ มีการป้องกันแก้ปัญหาดีกว่าเดิม มีแนวทางปฏิบัติและแผนรับมือชัดเจน ทั้งการเตรียมการล่วงหน้าก่อนเข้าฤดูฝน วางแผนเฝ้าระวัง ป้องกัน และเผชิญเหตุสอดคล้องกับสถานการณ์ และบูรณาการข้อมูลพยากรณ์อากาศ สภาพฝน สถานการณ์น้ำ แจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยง ตั้งศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ
ส่วนเขื่อนใหญ่ที่อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวังมี 8 เขื่อน คือ เขื่อนน้ำพุง ลำปาว จุฬาภรณ์ อุบลรัตน์ วชิราลงกรณ์ ปราณบุรี น้ำอูน และเขื่อนแก่งกระจาน โดยเขื่อนน้ำอูน สกลนคร และแก่งกระจาน เพชรบุรี มีปริมาณน้ำเกิน 100% ซึ่งได้สั่งระบายน้ำ และช่วยเหลือผู้ที่อยู่ท้ายน้ำ โดยมีผู้ว่าเป็นศูนย์กลางรับผิดชอบ ยืนยันเขื่อนขนาดใหญ่ ยังรับน้ำได้ และการระบายอยู่ในเกณฑ์ควบคุม หากฝนตกลงมามาก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังบางพื้นที่ แต่ไม่มีน้ำท่วมใหญ่หรือท่วมนานนับเดือน ขณะเดียวกัน ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนกข่าวที่ว่าจะมีพายุเข้าไทย 3-4 ลูก เพราะไม่จริง และปริมาณฝน รวมถึงความรุนแรง จะไม่มากเท่าปี 54
ด้านจิสด้า ระบุการตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียม พบมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำของ อ.ท่ายาง บ้านลาด และแก่งกระจาน จากน้ำไหลล้นทางระบายน้ำล้นลงสู่แม่น้ำเพชรบุรี และอาจมีน้ำท่วมพื้นที่ริม 2 ฝั่งลำน้ำเพิ่มได้อีกใน อ.แก่งกระจาน ท่ายาง บ้านลาด บ้านแหลม และ อ.เมือง ก่อนไหลลงสู่ทะเล หากมีการระบายน้ำเพิ่ม
ส่วนที่หนองคาย ฝนที่ตกต่อเนื่อง ทำให้มีน้ำล้นออกจากลำห้วย และเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือน พื้นที่เกษตรของชาวบ้านใน ต.เซิม อ.โพนพิสัย 5 หมู่บ้านได้รับผลกระทบ น้ำท่วมถนน การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก
ขณะที่พื้นที่หมู่ 5 อ.ลำทับ จ.กระบี่ เกิดพายุหมุน ทำให้โครงหลังคาเหล็ก โรงเก็บปุ๋ย ของร้านขายปุ๋ยขนาดใหญ่พังลงมาทั้งหลัง เจ้าของร้านเล่าว่า พายุพัดถล่มเพียง 1 นาที แต่ทำให้โครงหลังคาปลิวไปตามแรงลม โชคดีขณะเกิดเหตุไม่มีคนอยู่.-สำนักข่าวไทย