ภูมิภาค 10 ส.ค. – ทั่วประเทศยังมีฝนตกหนักบางแห่ง เกิดน้ำท่วมหลายพื้นที่ เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยและเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
น้ำป่าจากเทือกเขาสูง ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน พื้นที่ตำบลเชี่ยวเหลียง, บ้านนา และบางหิน อ.กะเปอร์ จ.ระนอง เป็นครั้งที่ 2 หลังเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานเร่งเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย และเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากช่วงสายนี้น้ำทะเลจะหนุน เข้าไปสมทบ ทำให้การระบายน้ำช้าลง
ที่อำเภอเขาพนม จ.กระบี่ ทหารเข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายทรัพย์สินไปไว้บนที่สูง หลังระดับน้ำคลองสินปุน ซึ่งรับน้ำจากอำเภอลำทับและทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง เอ่อท่วมบ้านเรือนและถนนเข้าหมู่บ้านหลายจุด ชาวบ้านกว่า 30 ครัวเรือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอก
ที่ลำเซบาย ช่วงไหลผ่าน อ.ป่าติ้ว และคำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมนาข้าว เป็นบริเวณกว้าง และล่าสุดไหลเข้าท่วมถนนจาก ต. นาคำ อ.คำเขื่อนแก้ว ไป ต.สร้างถ่อน้อย อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร เป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร
ระดับแม่น้ำโขงไหลที่ผ่าน จ.หนองคาย เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังน้ำจากลำน้ำสาขาไหลลงแม่น้ำโขงมากยิ่งขึ้น ทำให้น้ำโขงไหลช้า และเอ่อเข้าท่วมหลายพื้นที่ เป็นบริเวณกว้างมากขึ้น
ศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ รายงานว่าวันนี้ถึงวันที่ 15 ส.ค.นี้ การกระจายของฝนจะลดลง แต่ยังคงตกหนักบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้
แม่น้ำสายสำคัญ พื้นที่ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ภาคกลางและใต้ ระดับปานกลางถึงน้ำมาก ขณะที่แม่น้ำโขง ระดับน้ำลดลงต่ำกว่าตลิ่ง .- สำนักข่าวไทย