กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – หอการค้าไทย เผย วันแม่ปี 2561 คึกคักที่สุดในรอบ 6ปี สัญญาณคนใช้จ่ายมากขึ้น
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัย หอการค้าไทย เปิดเผยว่า จากการสำรวจทัศนคติและพฤติกรรมของประชาชนเกี่ยวกับวันแม่ 2561 คาดมีปริมาณเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจช่วงวันแม่ปีนี้ 13,746.8 ล้านบาท หรือขยายตัวร้อยละ 5.3 เป็นการขยายตัวสูงที่สุดในรอบ 6 ปี โดยงบประมาณในการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 77.7 เพราะประชาชนเห็นว่าเป็นวันพิเศษ มีรายได้เพิ่มขึ้นและเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจกำลังจะดีขึ้น ถือเป็นสัญญาณบวก ว่าประชาชนมีความพร้อมในการใช้จ่ายมากขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจปีนี้ขยายตัวเกินร้อยละ 4.5 แม้จะมีสงครามการค้าจีนสหรัฐ ขณะที่การส่งออกและการท่องเที่ยว เชื่อว่าจะกลับมาคึกคักอีกครั้งในช่วงไตรมาสสี่
สำหรับของขวัญยอดนิยมในการซื้อให้คุณแม่หลังนี้อันดับที่หนึ่งคือเงินสดและทองคำ เฉลี่ย 4,778.9 บาท รองลงมา คือ พวงมาลัยและดอกไม้ เฉลี่ย 325.6 บาท และอันดับสาม คือ เครื่องบำรุงร่างกาย เฉลี่ย 1,612.7 บาท
ส่วนกิจกรรมที่นิยมทำในวันแม่ อันดับหนึ่งคือพาแม่ไปทำบุญ รองลงมาคือพาแม่ไปทานข้าว อันดับสามคือพาไปเที่ยวต่างจังหวัด โดยคาดว่าจะไปสองถึงสามวัน โดยนิยมท่องเที่ยวในภูมิภาคของตนเอง จังหวัดยอดนิยมได้แก่ กรุงเทพฯ ขอนแก่นชลบุรี เชียงใหม่ และภูเก็ต ขณะที่บางส่วนนิยมไปต่างประเทศมากขึ้นประเทศที่นิยมไปได้แก่ เกาหลี ญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง สิงคโปร์มาเลเซีย และเยอรมัน
สิ่งที่คุณแม่ต้องการจากลูก อันดับหนึ่งคืออยากให้ลูกเป็นคนดี รองลงมาคืออยากให้ลูกรักมากๆ และอยากให้ลูกกอดตามลำดับ ส่วนสิ่งที่ลูกจะทำในวันแม่ คือการมอบดอกไม้และกลับเท้าแม่ สวมกอดแม่และบอกรักแม่ ทำตามสิ่งที่แม่เคยขอไว้ตามลำดับ ด้านถ้อยคำที่จะพูดกับแม่คือขอให้สุขภาพแข็งแรง ขอให้อายุยืนยาวและขอให้มีความสุขตามลำดับ สำหรับผู้ที่ไม่ได้ไปพบมากในช่วงวันแม่นิยมพูดคุยผ่านทาง LINE มากขึ้นถึงร้อยละ 55 รองลงมาคือโทรไปพูดคุยร้อยละ 30
นอกจากนี้ยังมีการสำรวจการวางแผนการเกษียณอายุพบว่ามีผู้วางแผน เกษียณอายุสูงขึ้น โดยเฉลี่ยเป็นผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปซึ่งการวางแผนการเงินนิยมซื้อประกันชีวิตและประกันสุขภาพมากที่สุด รองลงมาคือการฝากเงินกับสถาบันการเงิน และลงทุนในกองทุน ตามลำดับ. – สำนักข่าวไทย