สำนักงาน กกต. 8 ส.ค.- “หม่อมเต่า” นำทีมยื่นจดตั้งพรรค “รวมพลังประชาชาติไทย” ย้ำไม่ใช่ร่างทรง “สุเทพ” หนุน “พล.อ.ประยุทธ์” นั่งเก้าอี้นายกฯ ชี้มีลูก 2 คน การเมืองคนละทาง เพราะเลี้ยงลูกให้อิสระทางความคิด
เมื่อเวลา 09.30 น. ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ว่าที่หัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย นำทีมกรรมการบริหารพรรค ยื่นขอจัดตั้งพรรคการเมืองที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และเปิดเผยว่า พรรคมีทุนประเดิม 30.35 ล้านบาท และผู้ร่วมก่อตั้ง 607 คน ต่อจากนี้เป็นขั้นตอนการหาสมาชิกเป็นการภายใน จนกว่าจะมีการปลดล็อคทางการเมือง จึงจะขับเคลื่อนกิจกรรมอื่นได้ ที่ผ่านมาผู้ก่อตั้งพรรคได้พูดคุยต่อเนื่องถึงยุทธศาสตร์ การกำหนดนโยบาย และสาเหตุที่มีกรรมการบริหารพรรคเพียง 7 คน เป็นเพราะว่ายังไม่ทราบว่าใครจะรับผิดชอบอะไร เนื่องจากพรรคเพิ่งก่อตั้ง หากมีการพูดคุยเรื่องแนวนโยบายพรรคจนได้ข้อสรุปแล้ว อาจมีการขยายจำนวนผู้บริหารพรรคตามความรับผิดชอบ
ส่วนกรณีของนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ซึ่งเคยมีกระแสข่าวมาตลอดว่าจะเป็นหัวหน้าพรรค แต่กลับไม่มีตำแหน่งใด ๆ ในกรรมการบริหารพรรคนั้น ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวว่า เป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้สื่อคาดการณ์กันไปเอง เพราะในวันประชุมวันแรกตนยังเป็นคนจุดธูปเทียนเลย และนายเอนกก็ไม่ได้มีปัญหาที่ไม่มีตำแหน่ง บอกว่าจะคอยดูการทำงานของตน
เมื่อถามว่าจะชี้แจงอย่างไร เพราะแม้จะเป็นหัวหน้าพรรคแต่อาจถูกมองว่าเป็นได้แค่เงาของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวว่า ไม่มีใครไปเถียงกับนายสุเทพ เพราะเป็นคนหัวแข็ง ซึ่งตนก็หัวแข็งเช่นเดียวกัน แต่อาจจะนิสัยดีกว่า ดังนั้นต้องคุยตกลงต่อรองกัน และในทางเทคนิคตนเป็นผู้มีอำนาจเซ็นชื่อ นายสุเทพ เซ็นอะไรก็ไม่เกิด แต่ตนเซ็นอะไรอยากให้เกิดก็เกิด
ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวถึงกระแสข่าวการดูดส.ส.ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการทาบทามใคร แต่อยู่ในระหว่างการพูดคุย โดยจะเน้นคนรุ่นใหม่ ที่สำคัญคือการกำหนดนโยบายต้องได้รับการยอมรับจากประชาชน ยังมีเวลาไม่น้อยกว่า 7 เดือนจึงไม่ต้องรีบร้อน เมื่อถามว่าทางพรรคสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เป็นนายกฯ ต่อหรือไม่ ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวว่า ทางพรรคสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ แต่ต้องมาจากบัญชีรายชื่อพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง เพราะการจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนนอกเป็นเรื่องยาก ต้องตอบคำถามประชาชนและพรรคที่สนับสนุนให้ได้ว่าทำไมต้องไปถึงขั้นตอนนั้น
“ไม่ได้ขัดข้องขึ้นอยู่กับว่าท่านจะลงปาร์ตี้ลิสต์พรรคไหน ถ้าไม่ลงจะให้หนุนได้อย่างไร และยังไม่สามารถระบุได้ว่าในบัญชีรายชื่อของพรรค รปช.จะทาบทามพล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ แต่ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ไม่มาในระบบปาร์ตี้ลิสต์ ก็จะเป็นเรื่องยาก เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเหมือนการเลือกนายกฯ ไปด้วย ถ้าท่านไม่ลงในรอบแรก แล้วมารอบสองจะตอบพรรคที่หนุนท่านและตอบประชาชนได้อย่างไร” ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าว
ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวว่า ได้เสนอแนวคิดให้ทุกพรรคการเมืองร่วมมือกันทำงาน โดยเปลี่ยนทัศนคติจากการที่มีสองฝ่าย คือรัฐบาลและฝ่ายค้าน ให้กลายเป็นรัฐบาลกับเสียงข้างน้อยร่วมกันทำงาน ต่อรองเพื่อให้ได้โครงการที่ดีที่สุด แต่ไม่ได้หมายความเป็นการฮั้วกัน จนทำลายระบบตรวจสอบถ่วงดุล หากมีใครทำเช่นนั้นครั้งต่อไปก็อย่าเลือกกลับเข้ามา แนวคิดนี้ไม่ใช่รัฐบาลแห่งชาติ
เมื่อถามถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ระบุการเมืองขณะนี้แบ่งเป็นสามก๊ก คือ ฝ่ายที่หนุนนายทักษิณ ชินวัตร ฝ่ายที่หนุน คสช. และ พรรคประชาธิปัตย์ ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยกับบทวิเคราะห์ดังกล่าวประเทศเป็นของทุกคนที่ต้องร่วมกันทำงาน เพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้
ส่วนที่ม.ล.มิ่งมงคล โสณกุล หรือเต่านา บุตรสาวออกมาระบุว่าจะไม่สนับสนุนพรรค รปช.นั้น ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะบุตรของตน 2 คน ก็ชอบการเมืองแตกต่างกัน หม่อมหลวงมิ่งมงคล ชอบน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่วนม.ล.อภิมงคล โสณกุล ก็ยืนยันที่จะอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ การเมืองไม่ใช่เรื่องที่จะคิดแค่ว่ากระโดดลงไปแล้วจะจมน้ำตายหรือเปล่า แต่ยังต้องคิดว่ากระโดดลงไปแล้วเป็นถนนหรือเป็นบ่อด้วย เนื่องจากตลอด 4 ปีที่ผ่านมา หาเสียงในนามพรรคประชาธิปัตย์ทุกวัน จะให้อยู่ดี ๆ ปีที่ 5 ไปลงพรรคอื่นก็คงไม่รอด ทำให้ต้องตัดสินใจอย่างนั้น และตนก็ไม่เคยถาม เพราะยอมรับการตัดสินใจของลูก จึงไม่คิดว่าเป็นปัญหาที่ม.ล.มิ่งมงคล ประกาศไม่หนุนพรรคที่ตนเป็นหัวหน้าพรรค แต่สังคมควรมองว่าเป็นเพราะตนเลี้ยงลูกดี มีความคิดเป็นของตัวเองมากกว่า.-สำนักข่าวไทย