แจ้งวัฒนะ8ส.ค.-ทนายเผย ‘พนม’ อดีต ผอ.พศ.ยังกังวลหากศาลเห็นชอบให้ประกันตัวก็อาจถูกอายัดตัวไปดำเนินคดีคดีอื่นต่อ เพราะโดนตำรวจแจ้งเอาผิดหลายคดี
นายณพล ใบเงิน ทนายความข้าราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ผู้ต้องหาในคดีทุจริตเงินทอนวัด เปิดเผยภายหลังใช้เวลากว่า2 ชั่วโมงในการเข้าเยี่ยมนายพนม ศรศิลป์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และอดีตรองผู้อำนวยการ พศ. รวมทั้งข้าราชการระดับสูงที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีเงินทอนวัด เช่น นายชยพล พงษ์สีดา, นายแก้ว ชิดตะขบ, นายพัฒนา สุอำมาตย์มนตจรี, นายสวัสดิ์ กิตติธีระสิทธิ์ และนางพรเพ็ญ กิติธรางกูร ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ว่า หลังได้เข้าเยี่ยมเป็นครั้งที่ 2 พบว่าทุกคนมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น เนื่องจากสามารถปรับตัวได้บ้างแล้ว โดยทั้งหมดยังคงยืนยันความบริสุทธิ์ ไม่ได้ทำผิดใดๆ ทุกการกระทำปฏิบัติไปตามหน้าที่ในการอนุมัติงบประมาณให้กับวัดต่างๆ และยืนยันจะต่อสู้คดีต่อไป
ทั้งนี้ จากการพูดคุยในเรื่องการต่อสู้คดีวันนี้คงไม่ไปยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลที่คัดค้านการประกันตัวที่ศาลาอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง โดยจะเดินทางไปยื่นอุทธรณ์ในวันศุกร์ที่10 ส.ค.นี้ ที่เป็นวันเดียวกับที่ทั้งหมดจะ ต้องถูกนำตัวไปยื่นฝากขังในผัดที่ 2 แต่ก็พบว่ามีบางคน เช่น นายพัฒนาที่อาจไม่พร้อมขอยื่นอุทธรณ์ เนื่องจากไม่พร้อมเรื่องหลักทรัพย์ที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง กำหนดไว้ในคดีนี้ที่300,00-800,000 บาท
ส่วนคนที่พร้อมเช่น นายพนมและนายแก้ว ก็มีความกังวลหากศาลเห็นชอบให้ประกันตัวก็อาจจะถูกอายัดตัวไปดำเนินคดีในคดีอื่นต่อไป ซึ่งในเรื่องนี้นายพนมก็เข้าใจดี เพราะโดนตำรวจแจ้งเอาผิดหลายคดี แม้ผู้ต้องหาทั้งหมดไม่มีพฤติการณ์หลบหนีหรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน แต่เมื่อมีประเด็นนี้เกิดขึ้นก็ขอพิจารณาอย่างรอบคอบอีกครั้ง
กรณีที่วานนี้ (7ส.ค.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดวินัยข้าราชการร้ายแรง กับนายพนม ระหว่างดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการและผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติปี2556-2558 ในคดีทุจริตเงินอุดหนุนวัดรวม 7 แห่ง เรื่องนี้นายณพล กล่าวว่า ยังไม่ได้แจ้งข้อมูลให้นายพนมรับทราบ และไม่ได้มีการพูดคุยถึงประเด็นนี้ เพราะตนก็ยังไม่เห็นเอกสารใดๆจาก ป.ป.ช.ส่วนตัวก็คงจะขอทำหน้าที่ในส่วนคดีที่รับผิดชอบไปก่อน.-สำนักข่าวไทย