กรุงเทพฯ 7 ส.ค.- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คืนเงินให้ผู้เสียหายที่ถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ และแก๊งโรแมนซ์สแกมหลอกลวง 3 ราย รวมเป็นเงินกว่า 7 แสนบาท พร้อมเร่งตรวจสอบข้อมูลและปราบปรามกลุ่มคนผิวสีที่ก่อเหตุ
พลตำรวจเอกธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อายัดและคืนเงินให้ผู้เสียหายที่ถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ และแก๊งโรแมนซ์สแกม หลอกลวง 3 ราย รวมเป็นเงินกว่า 7 แสนบาท ทำให้ขณะนี้ เจ้าหน้าที่สามารถอายัดเงินคืนให้แก่ผู้เสียหายจากเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ได้แล้ว 118 ราย รวมเป็นเงินกว่า 24 ล้านบาท และคืนเงินให้ผู้เสียหายจากแก๊งโรแมนซ์สแกม 6 ราย รวมเป็นเงินกว่า 1 ล้าน 4 แสนบาท
พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ ยืนยันว่า ปัจจุบันเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ลดน้อยลง แต่แก๊งโรแมนซ์สแกมเพิ่มมากขึ้น มีเหตุเกิดทุกสัปดาห์ ๆ ละ 3-4 คดี โดยเฉพาะ กลุ่มคนผิวสี ที่มักเป็นผู้ก่อเหตุลักษณะนี้ ซึ่งตำรวจกำลังเข้าไปตรวจสอบ เร่งปราบปราม และตรวจสอบเส้นทางทางการเงิน เพื่อเฉลี่ยทรัพย์สินคืนผู้เสียหาย พร้อมแจ้งเตือนหญิงไทย ที่รับจ้างเปิดบัญชี กดเงิน ลงทะเบียนโทรศัพท์ จะถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ จากสถิติการรับแจ้งเหตุคดีคอลเซ็นเตอร์ของศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2560 ถึงวันที่ 6 สิงหาคม 2561 มีทั้งสิ้น 461 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 249 ล้านบาท และรับแจ้งเหตุคดีโรแมนซ์สแกม ตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2561 ถึงวันที่ 6 สิงหาคม 2561 จำนวน 80 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 59 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย