กระทรวงมหาดไทย 6 ส.ค.-รัฐมนตรีมหาดไทย เผย อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี จะได้รับผลกระทบเล็กน้อยจากการระบายน้ำในเขื่อน ส่วน อ.บ้านลาด-เมืองเพชร รับปริมาณน้ำสูงขึ้น เตือนประชาชนนำของขึ้นที่สูง ขณะเดียวกันได้จัดเตรียมจุดอพยพร้อมแล้ว
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการเตรียมรับมือน้ำหลังมีการเร่งระบายน้ำออกจากเขื่อน โดยเฉพาะเขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ว่า ในส่วนการบริหารจัดการน้ำได้ติดตามจากอธิบดีกรมชลประทาน และผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเป็นหลัก ทราบว่าการระบายน้ำขณะนี้กับปริมาณน้ำที่เข้าในเขื่อน ภาพรวมยังน่าพอใจ และเมื่อน้ำไปถึงเขื่อนเพชร จะมีการตัดน้ำออกข้าง ๆ ฉะนั้นผลกระทบต่อพื้นที่ก่อนถึงเขื่อนเพชรบุรี จะมี อ.ท่ายาง ที่ได้รับผลกระทบเล็กน้อย ขณะที่ อ.บ้านลาด และ อ.เมืองเพชรบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ท้ายน้ำมีบริเวณแคบ ปริมาณน้ำจะสูงขึ้น
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม กระทรวงมหาดไทยได้แจ้งเตือนภัยให้ประชาชนนำสิ่งของขึ้นที่สูงในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์ รวมถึงมาตรการป้องกัน โดยให้ท้องถิ่นนำกระสอบทรายเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำทั้ง 4 อำเภอ ได้แก่ อ.ท่ายาง อ.บ้านลาด อ.เมืองเพชรบุรี และอ.แก่งกระจาน เชื่อว่าเหตุการณ์จะไม่รุนแรงเท่าที่ควร และสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ทั้งนี้จะต้องไม่มีปริมาณฝนตกมาเพิ่มขึ้น เพราะจะมีพื้นที่ที่ต้องรับสภาพน้ำท่วมขังมากกว่านี้
“ฝ่ายที่เกี่ยวข้องยืนยันว่า น้ำจะไม่หลาก ซึ่งได้บอกฝ่ายปกครอง ปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัดว่าอย่าประมาท รวมถึงเตรียมแผนอพยพ และกำหนดจุดอพยพให้ชัดเจน หากเกิดสถานการณ์รุนแรง พร้อมประเมินจุดเสี่ยงต่อการท่วม และเตรียมแผนรองรับการส่งข้าว ส่งน้ำ สำหรับประชาชนที่ไม่ยอมออกจากพื้นที่ ให้จัดทหาร อาสาสมัคร (อส.) ตำรวจ ช่วยเฝ้าระวัง ขณะที่สถานการณ์ริมน้ำโขง อาจมีน้ำท่วมขังบ้าง แต่ปริมาณน้ำโขงยังไม่ล้นตลิ่ง โดยมีกรมชลประทานดูแลการสูบและพร่องน้ำอยู่” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย