อย.เตือนอย่าซื้อ “BABYFACE PLUS+” เสี่ยงติดเชื้อหน้าพัง

อย. 6 ส.ค.-อย.ตรวจสอบโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร  BABYFACE PLUS+ อ้างสรรพคุณลวง ช่วยรักษาสิวผ่านสื่ออินสตราแกรม รวมทั้งชื่อผลิตภัณฑ์-ชื่อบริษัทผู้ผลิตที่ระบุบนฉลากไม่ตรงฐานข้อมูล อย.เตือนผู้บริโภคอย่าหลงเชื่อซื้อมาใช้ เสียเงินโดยไม่จำเป็น ยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อเสียโฉม


 

นพ.พูลลาภ ฉันทวิจิตรวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคให้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชื่อ “BABYFACE PLUS+”เลขสารบบอาหาร 16-1-01957-1-0015 ขายผ่านสื่ออินสตราแกรมนั้น ทาง อย. ได้สืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมพบอินสตราแกรมชื่อ “jiboblink” ระบุข้อความ Babyface.officia (รับตัวแทน) วิตามินหน้าเนียน/เจ้าแรกของไทย นำเข้าจากญี่ปุ่น รักษาสิวอักเสบ อุดตัน ผด ผื่นแพ้ ขาว เนียนใส ปลอดภัย100%และยังพบภาพการโฆษณาผลิตภัณฑ์อาหารดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาต เช่น BABYFACE PLUS+ หน้าขาวเนียนใส รักษาสิว ทำให้สิวอุดตันยุบตัว รักษาสิวเรื้อรังขึ้นที่เดิมไม่หายสักที รักษาอาการแพ้ครีม น้ำ ฝุ่น ผิวติดสาร วิตามินจากธรรมชาติ 100% ….ฯลฯ ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 ผู้ใดประสงค์จะโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพหรือสรรพคุณของอาหารทางวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ ทางฉายภาพ ภาพยนตร์หรือทางหนังสือพิมพ์หรือสิ่งพิมพ์อื่นหรือด้วยวิธีอื่นใด เพื่อประโยชน์ในทางการค้า ต้องนำเสียง ภาพ ภาพยนตร์ หรือข้อความที่จะโฆษณาดังกล่าวนั้น ให้ผู้อนุญาตตรวจพิจารณาก่อน เมื่อได้รับอนุญาตแล้วจึงจะโฆษณาได้ 


รองเลขาธิการ อย.กล่าวต่อว่าขณะนี้อย.ได้สั่งระงับการโฆษณาผลิตภัณฑ์อาหารดังกล่าวแล้ว หากไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและให้ปรับรายวันอีกวันละไม่น้อยกว่า 500 บาทแต่ไม่เกิน 1,000 บาทตลอดเวลาที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง 


นอกจากนี้การตรวจสอบฐานข้อมูลของเลขสารบบอาหารดังกล่าวพบข้อมูลการขออนุญาตเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ชื่ออาหาร พี เอ็น ซี ซึ่งไม่ตรงกับชื่อผลิตภัณฑ์อาหาร BABYFACE PLUS+ และอาจเข้าข่ายเป็นอาหารปลอม ผู้ใดผลิต จำหน่าย อาหารปลอมต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปีและปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงหนึ่งแสนบาท ตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 

รองเลขาธิการ อย. กล่าวด้วยว่า ขอเตือนประชาชนอย่าตกเป็นเหยื่อหลง เชื่อซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาใช้โดยเด็ดขาด นอกจากจะเสียเงินโดยไม่มีความจำเป็นแล้ว ยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากการใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว

ซ้ำร้ายถึงขั้นเสียโฉม โดย อย.ยังคงเข้มงวดในการเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เป็นภัยร้ายต่อสังคม โดยเฉพาะทางเว็บไซต์และสื่อออนไลน์อย่างต่อเนื่อง จะไม่ปล่อยให้มีผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมายลอยนวล .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง