ประชาธิปัตย์ 3 ส.ค.- “อภิสิทธิ์” หวัง ปีหน้ามีหลายสิ่งที่ทำให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้ ชี้ ว่าประธานและว่าที่ กกต. เป็นผู้มีประสบการณ์เหมาะสม แต่ต้องเร่งทำความคุ้นเคยกับงาน สร้างความมั่นใจว่าจัดเลือกตั้งเที่ยงธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องในโอกาสครบรอบวันคล้ายวันเกิด 54 ปีของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ วันนี้ (3 ส.ค.) มีบรรดาแกนนำพรรค อาทิ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรค นายมารุต บุนนาค อดีตรองหัวหน้าพรรค และอดีต ส.ส.ของพรรค นำกระเช้าดอกไม้เข้าอวยพรนายอภิสิทธิ์อย่างเนืองแน่น
“ผมไม่อยากได้อะไรเป็นของขวัญวันเกิด เพราะได้ทำในสิ่งที่ตั้งใจทำ สิ่งที่ชอบ มีชีวิตครอบครัวที่มีความสุขอยู่แล้ว แต่ในส่วนของบ้านเมือง อยากให้ประเทศไทยมีโอกาสพ้นจากปัญหาต่าง ๆ มีคววามเจริญก้าวหน้า และตั้งความหวังไว้ว่า ปีหน้าจะมีหลายสิ่งหลายอย่าง ที่ทำให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าได้ ซึ่งหากเป็นไปตามโรดแมป จะมีการเลือกตั้ง ก็หวังว่า ประชาชนจะใช้สิทธิเลือกผู้แทน ให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า
นายอภิสิทธิ์ เห็นว่า ว่าที่ กกต.ส่วนใหญ่ รวมทั้ง ว่าที่ประธาน กกต. ถือเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ และมีคุณสมบัติเหมาะสมแล้ว หลังจากนี้เป็นเรื่องที่จะต้องทำความคุ้นเคยกับงาน เพื่อให้เกิดความมั่นใจในเรื่องของความเที่ยงธรรมในการทำงาน เพราะการเมืองจะเดินไปข้างหน้าได้ จะต้องเริ่มต้นที่การเลือกตั้งเสรี และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึง กรณีที่นายนคร มาฉิม อดีต ส.ส.พิษณุโลก เปิดเผยข้อมูลพาดพิงว่า พรรคประชาธิปัตย์อยู่เบื้องหลังการล้มพรรคการเมืองอื่นว่า เรื่องนี้ไม่กระทบอะไรกับพรรค เพราะได้ยืนยันไปแล้วว่า สิ่งที่นายนครกล่าวหาเป็นเท็จ และต้องไปว่ากันตามกระบวนการยุติธรรม เชื่อว่าประชาชนแยกแยะได้ เพราะนายนครออกไปจากพรรค ตั้งแต่ปี 2556 ไปลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคการเมืองอื่น และตอนนี้กำลังจะไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย
ส่วนกรณีที่มีรายงานว่า พรรคประชารัฐจะทาบทามอดีต ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมงาน 12-13 คนนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พอจะรับทราบมาบ้าง ไม่รู้สึกกังวลอะไร เพราะทุกคนต้องตัดสินใจด้วยตัวเองว่า แนวคิด อุดมการณ์คืออะไร พรรคประชาธิปัตย์ย้ำเสมอว่า อุดมการณ์ยั่งยืนที่สุด หากยึดติดอยู่กับผลประโยชน์เฉพาะหน้า จะไม่ยั่งยืน และเชื่อว่า สิ่งที่ประชาชนรอคอย คือกรอบในการแก้ไขปัญหาที่สะสมมา ว่าจะแก้อย่างไร มากกว่าเรื่องการชิงตัวนักการเมืองกัน .- สำนักข่าวไทย