ทำเนียบฯ 20 ก.ย. – พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบร่างพ.ร.บ.ตลาดขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ…. เพื่อต้องการแยกตลาดทั้ง 2 ประเภทให้ชัดเจน โดยตลาดขายตรงคือการขายสินค้าแบบขายตรงมีการชักชวนบุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่าย โดยตกลงให้ผลประโยชน์ตอบแทนลักษณะแชร์ลูกโซ่ และอาจส่งผลกระทบกับประชาชนจำนวนมาก เพราะขายผ่านตัวแทนออกไปจำหน่ายสินค้ากับลูกค้าโดยตรง จึงต้องกำหนดคุณสมบัติผู้ประกอบธุรกิจให้เข้มงวดมากขึ้น เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือและมีความมั่นคง รวมทั้งการรับประกันสินค้า จึงกำหนดให้จดทะเบียนบริษัทเป็นนิติบุคคล ด้วยทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท ห้ามไม่ให้เป็นบุคคลธรรมดาหรือห้างหุ้นส่วนสามัญ
สำหรับสินค้าตลาดตรง คือ การขายสินค้าผ่านสื่อออนไลน์ สื่อประเภทต่าง ๆ ซึ่งรัฐบาลกำลังให้การสนับสนุน จึงเปิดให้บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลดำเนินการได้ จึงไม่ต้องกำหนดเรื่องการจดทะเบียนธุรกิจ เพื่อส่งเสริมให้เอสเอ็มอี สินค้าโอทอปเติบโตได้มากขึ้น และเพื่อให้การควบคุมดูแลผู้ประกอบการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงกำหนดโทษสำหรับการขายตรงให้คุมเข้มมากขึ้น เพราะกระทบคนจำนวนมาก หากกระทำความผิดโทษปรับ 20,000 บาทต่อวันตลอดระยะเวลาการฝ่าฝืน ขณะที่บุคคลธรรมดากระทำผิดขายตลาดตรง โทษจำคุก 1 ปี หรือปรับสูงสุด 100,000 บาท หรือปรับ 10,000 บาทตลอดระยะเวลากระทำความผิด จึงต้องการให้ผู้ประกอบการเร่งปรับคุณสมบัติให้สอดคล้องกับกฎหมายกำหนดภายใน 60 วัน นับตั้งแต่กฎหมายประกาศบังคับใช้.-สำน้กข่าวไทย