ทำเนียบฯ 20 ก.ย.- เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ชี้ แก้ระเบียบความรับผิดละเมิดเจ้าหน้าที่ เหตุข้อความซ้ำ ย้ำ ยึดอายุความตามพ.ร.บ. ลั่น สามารถเรียกค่าเสียหาย “บุญทรง” ได้ แม้คดีอาญา ยังไม่ตัดสิน
นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีแก้ไขระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2559 ที่มีการตัดเนื้อหาอายุความในข้อ 18 จากฉบับเดิมออก ว่า ระเบียบไม่สามารถกำหนดอายุความได้ เนื่องจากเป็นแค่ระเบียบ การกำหนดอายุความต้องกำหนดโดย พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 เพราะมีผลต่อการจำกัดสิทธิบุคคลในการใช้สิทธิต่างๆ
นายดิสทัต กล่าวว่า ส่วนระเบียบฉบับเดิมนั้น เป็นการเอาข้อความใน พ.ร.บ. มาไว้มาลอกลงในระเบียบ เมื่อซ้ำกันจึงมีการตัดออก แต่เรื่องอายุความไม่ได้หายไป ยังมีอยู่ในมาตรา 10 วรรคสอง ของ พ.ร.บ.ดังกล่าว ที่ให้สิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน มีอายุความ 1 ปี นับตั้งแต่วันที่หน่วยงานรัฐ มีคำสั่งตามความเห็นของกระทรวงการคลัง เรื่องนี้จึงไม่มีอะไรพิสดาร ส่วนที่มีการตัดข้อ 19 จากระเบียบฉบับเดิมออกนั้น เพราะปัจจุบันมีการใช้ตามกฎหมายประมวลวิธีพิจารณาความปกครองอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามถึง กรณีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีพาณิชย์ ระบุว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากมีการเรียกค่าเสียหาย กรณีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ก่อนที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะตัดสิน นายดิสทัต กล่าวว่า เรื่องการเรียกค่าเสียหายกับการดำเนินคดีอาญาในศาลฎีกาฯ เป็นการดำเนินการคนละส่วนกัน
“การเรียกค่าเสียหายเป็นการดำเนินการตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 สามารถดำเนินการควบคู่กันไปได้ ในอดีตเคยมีลักษณะแบบนั้น ส่วนทางผู้ที่ถูกเรียกค่าเสียหายจะต่อสู้อย่างไร ถือเป็นสิทธิ” นายดิสทัต กล่าว .- สำนักข่าวไทย