แนะภาคอุตสาหกรรมดึงภาคเกษตรเพิ่มรายได้

อิมแพค 2 ส.ค.-นายกฯ เปิดงาน Thailand Industry Expo 2018 แนะภาคอุตสาหกรรมดึงภาคการเกษตรเข้ามาร่วมเพื่อเพิ่มรายได้ ย้ำรัฐบาลดูแลคนทั้งประเทศทั้งที่เป็นเสียงส่วนใหญ่และเสียงส่วนน้อย 


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานเปิดงาน Thailand Industry Expo 2018 ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด ” Change to Shift  เปลี่ยนเพื่อปรับ ยกระดับอุตสาหกรรมไทย” ระหว่างวันที่ 2-5 สิงหาคมนี้ ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อแสดงศักยภาพและยกระดับอุตสาหกรรมของประเทศไทยสู่การเป็นอุตสาหกรรม 4.0 ตามนโยบายรัฐบาล ในการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทย จัดโดยกระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา สถาบันการเงิน สถาบันวิจัยและองค์กรระหว่างประเทศ 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเปิดงานวันนี้(2 ส.ค.) ไม่ได้ต้องการหวังผลทางการเมือง แต่ต้องการขับเคลื่อนผลงานของรัฐบาล หลังจากที่ดำเนินงานและปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์ องค์กร การบริหารราชการและกฎหมายหลายฉบับตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง เชื่อมโยงในทุกด้านและในอนาคตต่อไป ตามที่รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์ชาติ มีแผนแม่บทซึ่งกระทรวงและส่วนราชการต่าง ๆ ต้องทำงานตามแผนที่วางไว้ และต้องให้เกิดความต่อเนื่อง ไม่ใช่ทำตามนโยบายของรัฐบาลที่เข้ามาเพียงอย่างเดียว จึงมีความจำเป็นต้องวางยุทธศาตร์ชาติไว้ เช่นเดียวกับการตั้งเป้าหมายอุตสาหกรรมประเทศไทยไปสู่ไทยแลนด์ 4.0


“การตั้งคำนี้ขึ้นมาเพราะเป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ในโลกใบนี้  อย่างไรก็ตาม การจะก้าวสู่ยุค 4.0 จะต้องเริ่มต้นและเริ่มก้าวแรกเสมอ ซึ่งรัฐบาลนี้กำลังขับเคลื่อนกันอยู่ โดยกระทรวงอุตสาหกรรมมีส่วนสำคัญ รวมถึงกลุ่มเอสเอ็มอี การค้าการลงทุนทั้งภาคเล็กและภาคใหญ่ โดยทั้งหมดจะต้องร่วมกันขับเคลื่อนตามแนวทางที่รัฐบาลได้วางไว้ รัฐบาลต้องการดูแลทุกภาคส่วนทั้งภาคการเกษตรที่มีมากกว่า 20  ล้านคน ดึงเข้ามาสู่ห่วงโซ่ เพิ่มรายได้และกระจายรายได้อย่างเหมาะสม โดยภาคอุตสาหกรรมต้องเข้ามาช่วยเหลือภาคเกษตรกรรมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ไม่เช่นนั้นจะนำมาสู่ความขัดแย้งและการขับเคลื่อนประชาธิปไตยที่ไม่ถูกต้อง จึงต้องเห็นใจในส่วนของผู้มีรายได้น้อย ด้วยการสร้างภาพจำแบบใหม่ให้เกษตรกรมีความสุข รวมถึงทุกกลุ่ม ทุกระดับในประเทศ ไม่ให้กลับไปสู่ภาพการปะทะและเรียกผลประโยชน์ให้ตนเอง ซึ่งจะทำให้ประเทศเดินต่อไปไม่ได้ จึงต้องรักษากติกาไว้ให้ได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่ต้องพัฒนาควบคู่ไปกับเทคโนโลยี ที่ในอนาคตจะนำหุ่นยนต์เข้ามาแทนที่แรงงาน ซึ่งโมเดลการพัฒนาประเทศ 4.0 คือโรดแมปการพัฒนาเศรษฐกิจที่ต้องขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยมีดิจิทัลเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อผลักดันให้เดินหน้าไปได้เร็วขึ้น เพราะโลกเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่จะต้องไม่ลืมคนทุกระดับ เพื่อมุ่งหมายให้คนมีชีวิตที่ดีขึ้นทั้งในวันนี้และในอนาคต ขณะที่การหาเสียงของพรรคการเมืองในอนาคตจะต้องมุ่งเน้นนโยบายต่าง ๆ ให้เกิดความชัดเจน ซึ่งทุกคนต้องร่วมกันสนับสนุนการเมืองและประชาธิปไตยที่ถูกต้องและมีธรรมาภิบาล 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นนายกรัฐมนตรีได้สอบถามผู้ร่วมงานว่าเห็นด้วยหรือไม่ที่ทุกคนต้องร่วมมือกันในรูปแบบประชารัฐเพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปสู่ความยั่งยืน ซึ่งผู้ร่วมงานยกมือเห็นด้วย นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า คงไม่มีนายกรัฐมนตรีคนไหนบ้าถามแบบนี้ จนมีคนกล่าวหาว่าตนบ้าอำนาจ ซึ่งความจริงไม่ใช่ เพียงแต่ต้องการสร้างแนวร่วมกับความคิดที่ตนเองได้ทำไปตลอด 4 ปีที่ผ่านมา และนำปัญหาของคนทุกกลุ่มทุกระดับมาแก้ปัญหา ก่อนจะสั่งการไปยังคณะรัฐมนตรี(ครม.) ให้ขับเคลื่อนและดำเนินการออกมาในรูปแบบการปฏิรูปประเทศและแผนยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งเชื่อว่าไม่มีรัฐบาลไหนที่ออกมาพูดและทำความเข้าใจเช่นนี้ ยืนยันคนทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเสียงส่วนใหญ่หรือส่วนน้อยจะต้องได้รับการดูแล ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยอยู่ได้อย่างยั่งยืน และใช้ศักยภาพการเป็นศูนย์กลางอาเซียนยืนอยู่ให้ได้  

“ผมสั่งการในที่ประชุมครม.ทุกครั้งว่าจะต้องเร่งสร้างความเข้าใจให้กับคนทุกกลุ่ม เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งในประเทศและต้องไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต ยืนยันว่าผมและครอบครัวไม่เคยต้องการได้รับผลประโยชน์ใด ๆ ใครจะมาแอบอ้างหรือขอเข้าพบผม ไม่มีเป็นอันขาด หากพบการแอบอ้างให้รีบแจ้งให้ทราบทันที เพราะล่าสุดทราบมาว่า มีการแอบอ้างผมเพื่อขอเข้าพบรัฐมนตรี ซึ่งหากรัฐมนตรีคนใดให้พบจะสั่งปลดทันที เพราะไม่สามารถทำได้ นอกจากนี้ยังมีรองนายกรัฐมนตรีถูกแอบอ้างในลักษณะช่วยเหลือคดีได้  จนสูญเสียเงินไป 5 ล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง จึงขออย่าหลงเชื่อเป็นอันขาด” นายกรัฐมนตรี กล่าว 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังกล่าวเปิดงานนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมนิทรรศการ ซึ่งจัดขึ้นภายในงานโดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 6 โซน เช่น การนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ที่มีนวัตกรรมระดับโลก ในด้านอุตสาหกรรมกลุ่มอาหาร เกษตรแปรรูป ยานยนต์ การแพทย์ การเงิน โลจิสติกส์ โรงงาน รวมทั้งกิจกรรมจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทยและผู้ประกอบการญี่ปุ่น จากเมืองต่างๆ ที่ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรมไว้ รวมถึงบทบาทของมหาวิทยาลัยในการพัฒนากำลังคนเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมด้วย.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสาน-กลาง-ตอ.ฝนตกหนัก กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 30 ก.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วน กทม.-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบน มีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า […]

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนาม ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 29 ก.ค.-เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนามรอบปราสาทตาเหมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ในหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่มีการปะทะรุนแรง และก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุในลักษณะต่างๆ เช่น การขึ้นมาร้องเพลง และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ก็เชิญชวนให้คนไทยมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม โดยยืนยันว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย และได้รับความสนใจจากประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งนี้ บริเวณปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นพื้นที่แรกๆ ที่เกิดเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ด้วยเหตุว่ากัมพูชาพยายามจะเข้ามายึดพื้นที่ปราสาท ซึ่งเป็นจุดสูงได้เปรียบในเชิงจุดยุทธศาสตร์ ก่อนจะเกิดเหตุปะทะในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 และนำมาสู่การเจรจาหยุดยิงโดยรัฐบาล 2 ประเทศ เมื่อวานนี้ จนกระทั่งมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างฝ่ายทหารในพื้นที่ 2 ประเทศในวันนี้ และทำให้เสียงปืนสงบลง.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์หลังข้อตกลงหยุดยิง หลายพื้นที่ยังปะทะเดือด

29 ก.ค.- ย้อนดูไทม์ไลน์ เหตุปะทะในหลายพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ถูกกำหนดในเวลาเที่ยงคืน สมรภูมิสำคัญตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม เดือดถึงขีดสุด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการแย่งชิงพื้นที่ ยิ่ง 30 นาทีสุดท้ายก่อนเดดไลน์ ทหารหน่วยรบพิเศษของไทย เข้าปะทะ “กองกำลัง BHQ” ที่เสริมกำลังเข้ามาอย่างดุเดือด ก่อนที่ไทยจะยึดประสาทตาควายไว้ได้ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง แต่ปรากฏว่าเสียงปืนและระเบิด สงบลงหลังเส้นตายหยุดยิงเพียงไม่นาน ตลอดทั้งคืน ไทยยังถูกกัมพูชา ยิงยั่วยุ ยาวจนถึงเช้า ภาพนี้ทหารไทยได้ถ่ายเวลาจากนาฬิกา ในเวลา 06.29 น. ขณะได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ฝั่งกัมพูชาระดมยิงใส่ฝั่งไทยไว้เป็นหลักฐานว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี ว่าหลังจากมีการหยุดยิง ในเวลา 00.00 น. แล้ว พบว่าในพื้นที่ภูมะเขือ ถูกก่อกวน โดยฝ่ายทหารกัมพูชา มีการยิงปะทะตอบโต้จากทั้งสองฝ่ายจนถึงเช้า พื้นที่ซำแต มีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น จนถึงเวลา 05.30 น. เนื่องจากทหารกัมพูชาไม่ยอมหยุด […]