สำนักงานกกต. 2 ส.ค.-พ.ต.อ.จรุงวิทย์ย้ำไม่ได้วางเส้นสายในการเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้ง หากกกต.ใหม่ไม่พอใจเปลี่ยนได้ เตรียมประชุมวางกรอบเรื่องหาเสียงผ่านโซเชียลมีเดีย ค่าใช้จ่ายเลือกตั้ง
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวว่าสำนักงานกกต.เตรียมความพร้อมรับกกต.ใหม่ ซึ่งเมื่อเข้าปฎิบัติหน้าที่แล้วจะเร่งพิจารณาร่างระเบียบประกาศต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) โดยขณะนี้ได้ปรับรูปแบบของคณะกรรมการที่ทำหน้าที่ยกร่างระเบียบต่าง ๆ ใหม่เพื่อให้การยกร่างเป็นไปด้วยความรวดเร็วขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงรอยต่อ ทางกกต.เก่าได้เตรียมงานต่าง ๆ ไว้
เลขาธิการกกต. กล่าวว่า เมื่อกกต.ใหม่เข้ามาจะสามารถทำงานได้เลย เช่น การคัดเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้งที่ขณะนี้ดำเนินการเสร็จแล้ว และจะส่งไปประกาศตามจังหวัดต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบ คัดค้าน หากพบว่ามีผู้ที่คุณสมบัติไม่เหมาะสมได้รับการคัดเลือก จะได้แก้ไขเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ได้คนที่ดีเข้ามาทำหน้าที่ รวมทั้งจะต้องจัดฝึกอบรมตรวจสอบการเลือกตั้ง การรายงานเหตุต่าง ๆ เรื่องเหล่านี้ต้องอาศัยเวลา จึงทำให้กกต.ชุดปัจจุบันเห็นว่าจำเป็นต้องคัดเลือกไปก่อน
“หากรอให้กกต.ชุดใหม่ดำเนินการและเป็นช่วงใกล้เลือกตั้งอาจเกิดปัญหา และอาจเกิดคำถามว่าทำไมกกต.ชุดเก่าไม่ทำ ยืนยันว่าการคัดเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้งไม่ได้เป็นการวางคนของกกต.ชุดนี้ไว้ เพราะเป็นการสรรหาและคัดเลือกจากทั่วประเทศ จึงเป็นไปไม่ได้ที่เราจะมีคนของเราอยู่ทั่วประเทศ และผู้ตรวจฯ เมื่อเวลาเลือกตั้งเหมือนเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ถ้าหากทำผิดก็ต้องโดนดำเนินคดีได้เหมือนกันและหนักกว่าคนปกติทั่วไป ถ้ากกต.ชุดใหม่เห็นว่าไม่เหมาะสมก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ เพราะกฎหมายมีช่องเรื่องการพ้นจากตำแหน่ง” พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าว
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวถึงกรณีสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ห่วงเรื่องการหาเสียงเลือกตั้งผ่านทางโซเชียลมีเดีย ว่า กกต.ตั้งคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยรองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เลขาธิการกสทช.และผู้เกี่ยวข้องอีกหลายส่วน ซึ่งจะประชุมนัดแรกวันที่ 22 สิงหาคมนี้ โดยจะพิจารณาขอบเขตการหาเสียงผ่านทางโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะการจัดการกับการใส่ร้ายทางโซเชียลมีเดียว่าหากเกิดขึ้นจะลบหรือดำเนินคดีอย่างไร การห้ามหาเสียงหลังเวลา 18.00 น.ก่อนวันเลือกตั้ง ซึ่งจะดูรายละเอียดต่าง ๆ ให้ครอบคลุม
เลขาธิการกกต. กล่าวว่า มีการตั้งคณะกรรมการที่ประกอบไปด้วยตัวแทนของพรรคการเมือง ซึ่งจะนัดหารือเพื่อกำหนดค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งว่าควรจะเป็นเท่าใด แต่ทางสำนักงานเห็นว่าไม่น่าเกินกว่าที่กำหนดไว้เดิมคือ1.5 ล้านบาทต่อคน เนื่องจากตามกฎหมายใหม่กกต.จะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายการหาเสียงในบางเรื่อง เช่น การจัดทำป้ายหาเสียง การจัดสรรเวลาการออกอากาศ แต่ค่าใช้จ่ายที่จะกำหนดจะต้องมีความเท่าเทียมกันระหว่างพรรคการเมืองขนาดใหญ่กับพรรคการเมืองขนาดเล็ก.-สำนักข่าวไทย
