กรุงเทพฯ 2 ส.ค.- พ่อและน้องชาย “ไฮโซเชอรี่” ที่ถูกฆาตกรรมเข้าให้ปากคำตำรวจ สน.โชคชัย พร้อมรับทรัพย์สินผู้ตายที่หายไป
นายอำนวย วิชัยโชติ และนายบัณฑิต ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ พ่อและน้องชาย น.ส.ธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ หรือ เชอรี่ ไฮโซสาวนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ถูกนายอัศยา ชัยภา หรือ โก้ ใช้ไม้เบสบอลทุบศีรษะเสียชีวิตในโรงแรมย่านลาดพร้าว เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย เพื่อให้ปากคำ
นายบัณฑิต บอกว่า มารับทรัพย์สิน กระเป๋า กุญแจ รถเบนซ์ เอกสารบางส่วน ทรัพย์สินที่หายไปเพิ่มเติม มีสร้อยข้อมือ กำไลทอง แหวนทอง เงิน 200,000 บาท ส่วนจำนวนเงิน 2.7 ล้านบาท ไม่ทราบว่ามาจากไหน เพราะตรวจสอบห้องพักก็ไม่พบเงินจำนวนดังกล่าว ด้านนายอำนวย เรียกร้องให้คนร้ายเขามอบตัว ส่วนตัวมองออกตั้งแต่แรกแล้วว่าผู้ชายคนนี้ไม่น่าไว้ใจและรับไม่ได้กับสิ่งที่ทำกับลูกสาว
พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 กล่าวว่า กำลังเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี เบื้องต้นทราบว่าสามารถเดินทางเข้าออกชายแดนได้ โดยใช้ช่องทางธรรมชาติ จึงประสานประเทศเพื่อนบ้านช่วยติดตามตัว ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดี ส่วนจะมีผู้มีอิทธิพลในประเทศเพื่อนบ้านช่วยหลบหนีหรือไม่ จากข้อมูลทราบว่าผู้ต้องหาไม่ค่อยเดินทางไปบริเวณดังกล่าว คงไม่รู้จักหรือสนิทสนมกับผู้มีอิทธิพลมากนัก แต่เชื่อว่าทำกันเป็นขบวนการ เพราะมีผู้ช่วยพาผู้ต้องหาหลบหนี ซึ่งพนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับเพิ่มเติม สำหรับทรัพย์สินผู้ตาย พบว่าบัตรเอทีเอ็ม กระเป๋าสตางค์หายไปด้วย ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรมแห่งหนึ่งในฝั่งกัมพูชา ยืนยันว่ามีคนร้ายอยู่ในภาพดังกล่าว แต่บุคคลที่เดินตามหลัง ยังไม่ขอยืนยันว่าเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุด้วยหรือไม่
ด้าน พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผู้กำกับ สน.โชคชัย กล่าวประเด็นรถเบนซ์ รุ่นอี 220 สีบรอนซ์ ของผู้ตายที่คนร้ายขับหลบหนีไปว่า นำมาเก็บไว้ที่ สน.โชคชัย โดยให้กองพิสูจน์หลักฐานเก็บลายนิ้วมือแฝงทั้งหมดแล้ว และให้พ่อของผู้ตายมายืนยันว่าเป็นคันเดียวกับที่ผู้ตายใช้หรือไม่ ส่วนผลทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ไม้เบสบอล และวัตถุพยานที่เกิดเหตุ จะทราบผลลายนิ้วมืออีก 5-7 วัน ส่วนผลดีเอ็นเอประมาณ 10-14 วัน.-สำนักข่าวไทย