BIG STORY : ไทยประสานกัมพูชาจับแฟนหนุ่มฆ่าไฮโซเชอรี่

กทม. 1 ส.ค.-ตำรวจไทยประสานกัมพูชาจับนายอัศยา ชัยภา อายุ 33 ปี ฆ่า น.ส.ธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ หรือไฮโซเชอรี่ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อายุ 39 ปี หลังพบเบาะแสหนีข้ามแดนซุกบ่อนตรงข้าม จ.จันทบุรี


พล.ต.ต.ธีรพงศ์ วงศ์รัฐพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 ประชุมชุดสืบสวน สน.โชคชัย และกองกำกับการสืบสวนสอบสวนนครบาล 4 เพื่อเร่งรัดติดตามความคืบหน้าการจับกุมนายอัศยา ชัยภา หรือโก้ อายุ 33 ปี แฟนหนุ่มของนางสาวธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ หรือไฮโซเชอรี่ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อายุ 39 ปี กรรมการผู้จัดการบริษัท มหาเกียรติพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และขนส่งรายใหญ่ รวมถึงเป็นเจ้าของกิจการปั๊มน้ำมันอีก 3 แห่ง  

โดยคดีนี้นายอัศยา ชัยภา อายุ 33 ปี เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ โดยถูกกล่าวหาว่าเป็นคนทำร้ายร่างกายนางสาวธิติมาจนเสียชีวิตในห้องพักย่านลาดพร้าว เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจากนั้นศาลอาญาอนุมัติหมายจับนายอัศยา ชัยภา ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและลักทรัพย์ในเวลากลางคืน

ล่าสุดได้ประสานประเทศกัมพูชา เพื่อช่วยติดตามตัว หลังพบเบาะแสว่าหลบหนีเข้าบ่อนการพนันฝั่งกัมพูชา และพบความเคลื่อนไหวย่านอำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ต้องหารายนี้  

ส่วนสาเหตุคาดเกิดจากการทะเลาะวิวาท เนื่องจากผู้ต้องหาติดการพนัน ใช้เงินฟุ่มเฟือย และได้ยืมเงินผู้ตายไปแล้วเป็นจำนวนมากจนฝ่ายหญิงทนไม่ไหว และมีปากเสียงกันก่อนที่ฝ่ายชายจะลงมือทำร้ายจนเสียชีวิต ตรวจสอบนิสัยนายอัศยาพบว่าเป็นคนอารมณ์ร้อนและโมโหร้าย


สำหรับคดีฆาตกรรมไฮโซเชอรี่ เริ่มจากวันที่  26 กรกฎาคม นางสาวธิติมาติดต่อกับเพื่อนๆ ในกลุ่มว่าอยู่ในไซต์งาน วันที่ 27 กรกฎาคม นางสาวธิติมาหายตัวไป และตลอดทั้งวันเลขานุการของนางสาวธิติมาพยายามติดต่อนางสาวธิติมา ทั้งทางไลน์และโทรศัพท์ แต่มีเสียงผู้ชายรับสาย และอ้างว่านางสาวธิติมาไปไซต์งานและไปทำบุญ จากนั้นการติดต่อครั้งสุดท้ายเกิดขึ้น เมื่อเลขานุการของนางสาวธิติมาพยายามติดต่อกับนางสาวธิติมา แต่ปิดเครื่อง จึงได้โทรเข้าเบอร์ของผู้ชายแทน ผู้ชายที่รับสายบอกว่ากำลังจะไปญี่ปุ่น

วันที่ 28 กรกฎาคมเป็นต้นมา ไม่สามารถติดต่อนางสาวธิติมาและผู้ชายได้อีกเลย วันที่  29 ทางบ้านของนางสาวธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ ไปแจ้งความที่ สน.โชคชัย หลังจากไม่สามารถติดต่อนางสาวธิติมาได้

วันที่  30 กรกฎาคม พบว่านางสาวธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ เสียชีวิตในห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว สภาพศพนั่งกับพื้นหน้าฟุบกับขอบเตียง สวมชุดนอนสีเขียว มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งเข้าที่บริเวณขมับขวาจนกะโหลกยุบ ใกล้กันพบไม้เบสบอลเปื้อนเลือดตกอยู่บนเตียง 1 อัน

จากการตรวจสอบในพื้นที่ยังพบว่ารถเบนซ์รุ่นอี 220 สีบรอนซ์ ของผู้ตายถูกคนร้ายขับหลบหนีไป โดยความคืบหน้าจาก สน.โชคชัย พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผกก.สน.โชคชัย บอกกับสำนักข่าวไทยว่า ตอนนี้ได้จัดชุดสืบสวน สน.โชคชัย ร่วมกับชุด บก.น.4 ติดตามตัวนายอัศยา ชัยภา อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 1704/61 ลงวันที่ 31 ก.ค.61 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ตอนนี้สามารถสืบทราบว่านายอัศยาได้หลบหนีไปที่จังหวัดจันทบุรี โดยใช้รถยนต์ยี่ห้อเบนซ์รุ่นอี 220 เลขทะเบียน 6 กฒ 1937 กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีชื่อของ น.ส.ธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ เป็นผู้ครอบครอง โดยได้นำไปจอดไว้ที่อำเภอโป่งน้ำร้อน จากนั้นจึงถอดป้ายทะเบียนรถออก แล้วหลบหนีต่อ


พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ ผู้กำกับการด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี ในฐานะรองโฆษก ตร. เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยถึงกรณีข่าวสะพัดว่านายอัศยา ชัยภา หรือโก้ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีฆ่านางสาวธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ หรือเชอรี่ นักธุรกิจไฮโซสาว เหตุเกิดท้องที่ สน. โชคชัย ตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา หลบหนีไปทางด่านอำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ว่าจากการตรวจสอบไม่พบข้อมูลการเดินทางออกจากประเทศไทยผ่านทางด่านตรวจคนเข้าเมืองของนายอัศยาก่อนและหลังมีหมายจับ แต่ทางตำรวจได้ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังว่ามีการเดินทางเข้าออกผ่านด่านดังกล่าวบ่อยครั้งหรือไม่ ทั้งนี้ เป็นไปได้ที่จะหลบหนีผ่านช่องทางธรรมชาติ ซึ่งยากต่อการตรวจสอบ ยืนยันว่าไม่พบข้อมูลออกทางด่าน ตม.

ล่าสุด พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจันทบุรี ได้เรียกประชุมตำรวจสืบสวน ในส่วนกองบังคับการตำรวจภูธรจันทบุรี ในการวางแผนเตรียมลงพื้นที่ โดยพบรถเบนซ์ รุ่นอี 220 เลขทะเบียน 6 กฒ 1937 กรุงเทพมหานคร ของนางสาวธิติมา จอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ตลาดชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดจันทบุรี บ้านคลองใหญ่ หมู่ 4 ตำบลคลองใหญ่ อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอโป่งน้ำร้อน 30 กิโลเมตร

ขณะที่ตำรวจสืบสวนได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ประจำด่าน ตม. ซึ่งอยู่หน้าด่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด และเป็นช่องทางเดียวที่จะสามารถผ่านข้ามไปยังฝั่งประเทศกัมพูชา ในการตรวจสอบภาพวงจรปิด แต่ไม่ปรากฏภาพนายอัศยา หรือโก้ ผู้ต้องหา ผ่านข้ามมาตรงจุดนี้ จึงได้ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกจากคนในพื้นที่ เบื้องต้นคาดว่านายอัศยา ผู้ต้องหา น่าจะข้ามด่านชายแดน โดยใช้ช่องสุนัขผ่าน หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ช่องหมารอด ซึ่งเป็นช่องทางผิดกฎหมาย โดยเชื่อว่านายอัศยาน่าจะใช้ความคุ้นเคยกับคนในพื้นที่ให้ช่วยพาตัวข้ามผ่านชายแดนยังช่องหมารอด เพื่อหลบหนีเข้าฝั่งประเทศกัมพูชา จากนี้จะได้ดำเนินการประสานความร่วมมือในการนำตัวผู้ต้องหากลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]

“มาริษ” จ่อบินเจนีวา แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี

สวีเดน 24 ส.ค.-“มาริษ” เตรียมบินเจนีวาต่อ แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี-องค์การสิทธิมนุษยชน-กาชาด ย้ำไทยรักสันติ ทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ ฟ้องเขมรใช้ทุ่นระเบิด-โจมตีพลเรือนไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าหลังการเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการแล้วจะเดินทางไปเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการคือ ไปชี้แจงให้กับประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคีให้เข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งกัมพูชาใช้ยุทธศาสตรฺของการใช้ วัตถุระเบิดสังหารบุคคน ที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และอนุสัญญาออตตาวาและในโอกาสนี้จะพบกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่สืทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหาร การละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ของกัมพูชา รวมทั้งการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (icrc )ก็ได้ออกมาพูดชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยอย่างมาก และไม่สนับสนุนให้มีการใช้สงครามข่าวสารในการต่อสู้ โดยใช้พลเรือนเป็นตัวกระทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน ซึ่งในโอกาสนี้ตนจะได้พบปะกับประธาน crc พอดี ซึ่งเคยพบกันที่กรุงเทพมหานครแล้ว และทางประธานทราบว่าตนจะมาเจนีวาก็สามารถมาพูดคุยกันต่อได้ ซึ่งจะได้อธิบายทั้ง 2 ประการเหล่านี้เพราะ icrc เป็นองค์กรหลักที่ดูกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งสามองค์กรที่เราวางกลยุทธ์ จะเข้ามาพูดคุย ชี้แจงก็เพื่อยืนยัน ใน ท่าทีบทบาท ของประเทศไทยที่ชัดเจนว่าเราเป็นประเทศ ที่รักสันติ เราต้องการ แก้ไขปัญหาระหว่างกันอย่างสันติวิธี แต่ต้องมีความจริงใจ […]