BIG STORY : ไทยประสานกัมพูชาจับแฟนหนุ่มฆ่าไฮโซเชอรี่

กทม. 1 ส.ค.-ตำรวจไทยประสานกัมพูชาจับนายอัศยา ชัยภา อายุ 33 ปี ฆ่า น.ส.ธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ หรือไฮโซเชอรี่ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อายุ 39 ปี หลังพบเบาะแสหนีข้ามแดนซุกบ่อนตรงข้าม จ.จันทบุรี


พล.ต.ต.ธีรพงศ์ วงศ์รัฐพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 ประชุมชุดสืบสวน สน.โชคชัย และกองกำกับการสืบสวนสอบสวนนครบาล 4 เพื่อเร่งรัดติดตามความคืบหน้าการจับกุมนายอัศยา ชัยภา หรือโก้ อายุ 33 ปี แฟนหนุ่มของนางสาวธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ หรือไฮโซเชอรี่ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อายุ 39 ปี กรรมการผู้จัดการบริษัท มหาเกียรติพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และขนส่งรายใหญ่ รวมถึงเป็นเจ้าของกิจการปั๊มน้ำมันอีก 3 แห่ง  

โดยคดีนี้นายอัศยา ชัยภา อายุ 33 ปี เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ โดยถูกกล่าวหาว่าเป็นคนทำร้ายร่างกายนางสาวธิติมาจนเสียชีวิตในห้องพักย่านลาดพร้าว เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจากนั้นศาลอาญาอนุมัติหมายจับนายอัศยา ชัยภา ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและลักทรัพย์ในเวลากลางคืน

ล่าสุดได้ประสานประเทศกัมพูชา เพื่อช่วยติดตามตัว หลังพบเบาะแสว่าหลบหนีเข้าบ่อนการพนันฝั่งกัมพูชา และพบความเคลื่อนไหวย่านอำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ต้องหารายนี้  

ส่วนสาเหตุคาดเกิดจากการทะเลาะวิวาท เนื่องจากผู้ต้องหาติดการพนัน ใช้เงินฟุ่มเฟือย และได้ยืมเงินผู้ตายไปแล้วเป็นจำนวนมากจนฝ่ายหญิงทนไม่ไหว และมีปากเสียงกันก่อนที่ฝ่ายชายจะลงมือทำร้ายจนเสียชีวิต ตรวจสอบนิสัยนายอัศยาพบว่าเป็นคนอารมณ์ร้อนและโมโหร้าย


สำหรับคดีฆาตกรรมไฮโซเชอรี่ เริ่มจากวันที่  26 กรกฎาคม นางสาวธิติมาติดต่อกับเพื่อนๆ ในกลุ่มว่าอยู่ในไซต์งาน วันที่ 27 กรกฎาคม นางสาวธิติมาหายตัวไป และตลอดทั้งวันเลขานุการของนางสาวธิติมาพยายามติดต่อนางสาวธิติมา ทั้งทางไลน์และโทรศัพท์ แต่มีเสียงผู้ชายรับสาย และอ้างว่านางสาวธิติมาไปไซต์งานและไปทำบุญ จากนั้นการติดต่อครั้งสุดท้ายเกิดขึ้น เมื่อเลขานุการของนางสาวธิติมาพยายามติดต่อกับนางสาวธิติมา แต่ปิดเครื่อง จึงได้โทรเข้าเบอร์ของผู้ชายแทน ผู้ชายที่รับสายบอกว่ากำลังจะไปญี่ปุ่น

วันที่ 28 กรกฎาคมเป็นต้นมา ไม่สามารถติดต่อนางสาวธิติมาและผู้ชายได้อีกเลย วันที่  29 ทางบ้านของนางสาวธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ ไปแจ้งความที่ สน.โชคชัย หลังจากไม่สามารถติดต่อนางสาวธิติมาได้

วันที่  30 กรกฎาคม พบว่านางสาวธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ เสียชีวิตในห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว สภาพศพนั่งกับพื้นหน้าฟุบกับขอบเตียง สวมชุดนอนสีเขียว มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งเข้าที่บริเวณขมับขวาจนกะโหลกยุบ ใกล้กันพบไม้เบสบอลเปื้อนเลือดตกอยู่บนเตียง 1 อัน

จากการตรวจสอบในพื้นที่ยังพบว่ารถเบนซ์รุ่นอี 220 สีบรอนซ์ ของผู้ตายถูกคนร้ายขับหลบหนีไป โดยความคืบหน้าจาก สน.โชคชัย พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผกก.สน.โชคชัย บอกกับสำนักข่าวไทยว่า ตอนนี้ได้จัดชุดสืบสวน สน.โชคชัย ร่วมกับชุด บก.น.4 ติดตามตัวนายอัศยา ชัยภา อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 1704/61 ลงวันที่ 31 ก.ค.61 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ตอนนี้สามารถสืบทราบว่านายอัศยาได้หลบหนีไปที่จังหวัดจันทบุรี โดยใช้รถยนต์ยี่ห้อเบนซ์รุ่นอี 220 เลขทะเบียน 6 กฒ 1937 กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีชื่อของ น.ส.ธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ เป็นผู้ครอบครอง โดยได้นำไปจอดไว้ที่อำเภอโป่งน้ำร้อน จากนั้นจึงถอดป้ายทะเบียนรถออก แล้วหลบหนีต่อ


พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ ผู้กำกับการด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี ในฐานะรองโฆษก ตร. เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยถึงกรณีข่าวสะพัดว่านายอัศยา ชัยภา หรือโก้ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีฆ่านางสาวธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ หรือเชอรี่ นักธุรกิจไฮโซสาว เหตุเกิดท้องที่ สน. โชคชัย ตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา หลบหนีไปทางด่านอำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ว่าจากการตรวจสอบไม่พบข้อมูลการเดินทางออกจากประเทศไทยผ่านทางด่านตรวจคนเข้าเมืองของนายอัศยาก่อนและหลังมีหมายจับ แต่ทางตำรวจได้ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังว่ามีการเดินทางเข้าออกผ่านด่านดังกล่าวบ่อยครั้งหรือไม่ ทั้งนี้ เป็นไปได้ที่จะหลบหนีผ่านช่องทางธรรมชาติ ซึ่งยากต่อการตรวจสอบ ยืนยันว่าไม่พบข้อมูลออกทางด่าน ตม.

ล่าสุด พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจันทบุรี ได้เรียกประชุมตำรวจสืบสวน ในส่วนกองบังคับการตำรวจภูธรจันทบุรี ในการวางแผนเตรียมลงพื้นที่ โดยพบรถเบนซ์ รุ่นอี 220 เลขทะเบียน 6 กฒ 1937 กรุงเทพมหานคร ของนางสาวธิติมา จอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ตลาดชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดจันทบุรี บ้านคลองใหญ่ หมู่ 4 ตำบลคลองใหญ่ อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอโป่งน้ำร้อน 30 กิโลเมตร

ขณะที่ตำรวจสืบสวนได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ประจำด่าน ตม. ซึ่งอยู่หน้าด่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด และเป็นช่องทางเดียวที่จะสามารถผ่านข้ามไปยังฝั่งประเทศกัมพูชา ในการตรวจสอบภาพวงจรปิด แต่ไม่ปรากฏภาพนายอัศยา หรือโก้ ผู้ต้องหา ผ่านข้ามมาตรงจุดนี้ จึงได้ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกจากคนในพื้นที่ เบื้องต้นคาดว่านายอัศยา ผู้ต้องหา น่าจะข้ามด่านชายแดน โดยใช้ช่องสุนัขผ่าน หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ช่องหมารอด ซึ่งเป็นช่องทางผิดกฎหมาย โดยเชื่อว่านายอัศยาน่าจะใช้ความคุ้นเคยกับคนในพื้นที่ให้ช่วยพาตัวข้ามผ่านชายแดนยังช่องหมารอด เพื่อหลบหนีเข้าฝั่งประเทศกัมพูชา จากนี้จะได้ดำเนินการประสานความร่วมมือในการนำตัวผู้ต้องหากลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก