ภูมิภาค 1 ส.ค. – น้ำในแม่น้ำโขงเอ่อท่วมร้านค้าชั้นใต้ดินในตลาดอินโดจีน จ.มุกดาหาร ผู้ว่าฯ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์เป็นการด่วน ขณะที่ จ.ร้อยเอ็ด ลำน้ำยังเข้าท่วมหลายตำบลใน อ.เสลภูมิ ระลอก 2
ระดับน้ำในแม่น้ำโขงสูงเกินวิกฤติแล้ว โดยศูนย์อุทกวิทยามุกดาหาร วัดได้ 12.61 เมตร เกินระดับวิกฤติ คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะน้ำที่ไหลมาจากทางเหนือและเขื่อนน้ำงึม 5 ของ สปป ลาว ได้ปล่อยน้ำออกจากเขื่อน ทำให้น้ำไหลเข้าท่วมชั้นใต้ดินของตลาดอินโดจีน ผู้ประกอบการร้านค้าต้องเก็บสิ่งของขึ้นมาขายข้างบน
ส่วนผู้เลี้ยงปลานิลในกระชัง ได้รับผลกระทบจากน้ำเพิ่มสูงและไหลเชี่ยว ต้องระมัดระวังเชือกที่ผูกกระชังปลาขาด และมีเศษไม้ที่ไหลมากับน้ำเกี่ยวกระชังปลาขาด ต้องเฝ้าสังเกตการณ์ตลอดเวลา ขณะที่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย สั่งการให้ทหารเข้าช่วยเหลือประชาชนเป็นการด่วน
ด้านนายไพฑูรย์ รักษ์ประเทศ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า ขณะนี้ จ.มุกดาหาร ฝนหยุดตกแล้ว แต่ปริมาณน้ำยังเพิ่มสูงขึ้น เฉลี่ยชั่วโมงละ 1 เซนติเมตร จึงต้องเฝ้าระวัง เพราะเลยจุดวิกฤติต้องปักธงแดงแล้ว นอกจากนี้ยังพบว่า พื้นที่ทางตอนบน ซึ่งเป็นน้ำจาก จ.สกลนคร ได้ไหลเข้ามาในพื้นที่ดงหลวงและห้วยบางทราย ส่วนการเตือนภัยชุมชนตามริมฝั่งแม่น้ำโขง ได้มอบให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นวางมาตรการเฝ้าระวัง เช่น เรื่องการปักธงแดง สัญลักษณ์ตามจุดต่างๆ นอกจากนั้นได้มอบหมายให้ตรวจสอบเรื่องการอพยพชาวบ้านในพื้นที่ลุ่มต่ำ ขณะที่หน่วยบริหารจัดการลุ่มน้ำโขง ประกาศเตือนให้ตัวสีแดง และแขวนป้ายตัวสีแดง ซึ่ง จ.มุกดาหาร ได้ประกาศแจ้งเตือน 3 วันต่อเนื่องแล้ว
ขณะที่บ้านไค่นุ่น หมู่ 5 และบ้านหนองบัวบาน หมู่ 7 ต.นาแซง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งลำน้ำยังได้เอ่อท่วมขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้ทั้ง 2 หมู่บ้านได้รับผลกระทบตั้งแต่เมื่อวานนี้ (31 ก.ค.) โดยระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้น และมีน้ำบางส่วนกัดเซาะเส้นทาง มีแนวโน้มสร้างความเสียหายหลายจุด โดยเฉพาะถนนเชื่อมระหว่างบ้านไค่นุ่น-บ้านหนองสิม ถูกน้ำไหลเซาะท่อระบายน้ำขาดยาว 10 เมตร
ด้านนายสุรพร หมายเจริญ นายอำเภอเสลภูมิ ตรวจสอบพบว่า ทางที่ขาดมีท่อระบายน้ำขวางทางน้ำ ทำให้น้ำไหลช้าลง จึงประสานเครื่องจักรกลเข้าซ่อมแซมขุดลอกทางระบายน้ำ และประสานหน่วยทหารนำกำลังเข้ามาให้ความช่วยเหลือ ช่วยชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง พร้อมนำเรือเข้ามาช่วยในการสัญจรเข้า-ออกหมู่บ้าน นอกจากนี้ยังตั้งจุดความช่วยเหลือชั่วคราวขึ้น บริเวณถนนทางเชื่อมหมู่บ้าน ระหว่างบ้านไค่นุ่น หมู่ 5 และบ้านหนองบัวบาน หมู่ 7 ต.นาแซง ซึ่งเส้นทางสัญจรถูกตัดขาดแล้ว โดยถนนขาดประมาณ 10 เมตร และท่อระบายน้ำใต้ทางที่ขาดได้ขวางร่องน้ำ ทำให้น้ำไหลช้า โดยภาพรวมเกิดน้ำท่วมขังที่บ้านไค่นุ่น 170 หลังคาเรือน และบ้านหนองบัวบาน 145 หลังคาเรือน
อย่างไรก็ตาม ภายหลังนำเครื่องจักรกลเข้าซ่อมแซมขุดลอกระบายน้ำ ทำให้น้ำไหลสะดวกขึ้น แต่ยังเฝ้าระวังพนังกั้นน้ำตามแนวชลประทาน ซึ่งพบว่าลำน้ำยังขึ้นสูงหลายจุด จนเกือบจะล้นคันพนังกั้น เช่น ประตูระบายน้ำกุดปลาเข็งของชลประทานร้อยเอ็ด ติดบ้านท่าเยี่ยม ซึ่งชาวบ้านได้ระดมกระสอบทรายกั้นน้ำ ป้องกันน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมหมู่บ้าน โดยหลังจากนี้จะประชุมวางแผนร่วมกับเทศบาลและผู้นำท้องถิ่น เฝ้าระวังเตรียมรับน้ำที่ไหลมาจาก ต.นาแซง เพื่อป้องกันน้ำท่วมเพิ่มเติม โดยเฉพาะพื้นที่ ต.วังหลวง ไปจนถึง ต.บึงเกลือ ต.เมืองไพร ต.เขวา และ ต.นางาม. – สำนักข่าวไทย