นักวิชาการชี้โครงสร้าง-กระบวนการสอบสวนของตำรวจมีปัญหา

กรุงเทพฯ 29 ก.ค.- อดีตคณบดีนิติศาสตร์ ชี้ปัญหาตำรวจมีตั้งแต่โครงสร้างและกระบวนการสอบสวนที่ไม่มีการถ่วงดุล  “คำนูณ” ระบุ ร่าง กม.ตำรวจแห่งชาติ จะเป็นจุดเริ่มต้นของการปรับเปลี่ยนเพื่อนำไปสู่เป้าหมายสำคัญ ในการแก้ไขทุกข์ให้กับตำรวจและประชาชน


มูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศ (มปท.) จัดเสวนาการปฏิรูปประเทศไทย เรื่องการปฏิรูปตำรวจ โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิฯ กล่าวว่า การปฏิรูปตำรวจมีเสียงเรียกร้องให้มีการปฏิรูปมากที่สุด ประชาชนต้องการเห็นตำรวจเป็นมืออาชีพ และมีความเชี่ยวชาญงานแต่ละด้าน แต่สภาพที่เป็นอยู่จะพบว่ามีการโยกย้ายข้ามกันไปมา เหมือนกับตำรวจคนหนึ่งทำงานได้ทุกเรื่องในตัวคนเดียว ซึ่งไม่ได้สะท้อนความเป็นมืออาชีพ ที่สำคัญประชาชนต้องการให้ตำรวจเป็นของประชาชน ไม่ใช่เครื่องมือของผู้มีอำนาจ ประชาชนคาดหวังว่า ถ้าตำรวจอยู่ในพื้นที่จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ทันเวลา รู้เท่าทันเหตุการณ์ ซึ่งน่ายินดีที่รัฐธรรมนูญบัญญัติการปฏิรูปตำรวจไว้ชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องการโยกย้ายที่ต้องใช้หลักอาวุโส 

นายบรรเจิด สิงคะเนติ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่า การปฏิรูปตำรวจเป็นประเด็นใหญ่ที่สุดประเด็นหนึ่ง เพราะเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมและเชื่อมโยงถึงประชาชนโดยตรง ถ้ากระบวนการนี้ไม่โปร่งใส ยิ่งจะสร้างความทุกข์ให้กับประชาชน เช่นกรณีของลุงที่กระโดดตึก สะท้อนปัญหากระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะกระบวนการสอบสวน ถ้าไม่แก้ไขก็จะมีการเดิมพันด้วยชีวิตอีก เพื่อให้กลับมาดูสำนวนการสอบสวน ดังนั้นคำกล่าวที่บอกว่าคนจนติดคุก จึงไม่ได้ไกลจากความจริงเท่าใดนัก


นายบรรเจิด กล่าวว่า ปัญหาของตำรวจมีด้วยกันหลายปัญหาได้แก่ 1.โครงสร้างที่เป็นลักษณะพีระมิด ยอดพีระมิด คือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผบ.ตร.ถ้ายอดพีระมิดอยู่ใต้การเมือง ที่เหลือก็จะอยู่ใต้การเมืองเช่นกัน และระบบการบังคับบัญชาแบบชั้นยศไม่เอื้อต่อการทำงานสอบสวน  2.การแต่งตั้งโยกย้ายและการเข้าสู่ตำแหน่งในบางพื้นที่มีต้นทุนสูงมาก ซึ่งมีผลให้กระบวนการสอบสวนเดินหน้าไม่ได้ ถ้าการเข้าสู่ตำแหน่งมาจากการลงขันของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ย่อมเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ต้นทางกระบวนการยุติธรรมเป็นที่พึ่งประชาชนได้ และ3.ปัญหากระบวนการสอบสวน เป็นปัญหาที่ไม่มีใครเข้าไปถ่วงดุลตั้งแต่ต้นทางของกระบวนการ เมื่อต้นทางปราศจากการถ่วงดุล ปลายทางก็จะเป็นปัญหาเช่นกัน ทำให้ขาดหลักประกันความเป็นอิสระของพนักงานสอบสวน

นายบรรเจิด กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาจะต้องเน้นไปที่โครงสร้างกระบวนการสอบสวนภายใต้หลักการสำคัญที่เป็นหลักสากล คือ การต้องพิสูจน์จนปราศจากข้อสงสัย การจะดำเนินการตามหลักสากลดังกล่าวได้ก็ต้องให้อัยการและตำรวจเข้ามาร่วมกันแสวงหาข้อเท็จจริง เรียกว่าตำรวจกับอัยการต้องเป็นกระบวนการเดียวกัน ดังนั้นในหลักสากล จึงควรให้อัยการเข้ามาร่วมแสวงหาข้อเท็จจริง และทำหน้าที่ถ่วงดุลการสอบสวนของตำรวจด้วย ซึ่งในทางปฏิบัติอัยการไม่จำเป็นต้องเข้ามาในทุกคดี แต่ให้เข้ามาทำหน้าที่เฉพาะคดีที่มีความสำคัญ

“ถ้ากระบวนการนี้ถูกสถาปนาขึ้นมาได้จริง จะทำให้เกิดความโปร่งใส ซึ่งถือเป็นเส้นเลือดหลักของประเทศไทย ที่ผ่านมาไม่เคยแก้ปัญหาเส้นเลือดหลักอย่างจริงจัง ในทางกลับกันกลับใช้วิธีการแก้ไขผ่านการตั้งองค์กรพิเศษขึ้นมาจำนวนมาก และไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ถ้าทศวรรษนี้เรายังแก้ไขไม่ได้ เชื่อว่าจะเกิดการพลีชีพอีก ดังนั้นโครงสร้างของตำรวจ ควรให้ตำรวจไปขึ้นกับจังหวัด อย่างกรณีของถ้ำหลวง ถ้าเวลานั้นผู้ว่าราชการจังหวัดไม่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ ก็อาจจะไม่สำเร็จอย่างทุกวันนี้ก็ได้ องคาพยพถ้าไม่อยู่ภายใต้ความเป็นเอกภาพ ก็ไม่มีทางที่ประชาชนในพื้นที่จะเกิดความผาสุก” นายบรรเจิด กล่าว


ขณะที่นายคำนูณ  สิทธิสมาน กรรมการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าคณะกรรมการที่พิจารณาร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ที่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เป็นประธาน และมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มาร่วมอยู่ด้วย ซึ่งขั้นตอนการทำงานของร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นในกระบวนการของกฤษฎีกาแล้ว เหลือเพียงบางประเด็นเท่านั้น ส่วนร่างพ.ร.บ.การสอบสวนคดีอาญา เสร็จสิ้นไปแล้วประมาณ 3ใน4 

นายคำนูณ กล่าวว่า เมื่อร่างกฎหมายทั้งสองฉบับนี้มีการประกาศบังคับใช้แล้ว ประชาชนจะได้ประโยชน์ 6 ประการ ได้แก่ 1.ประชาชนจะได้ตำรวจอาชีพที่มีความรู้ความสามารถ โดยเป็นตำรวจที่ไม่ต้องอาศัยระบบอุปถัมภ์  2.ประชาชนจะได้กำลังของตำรวจมาทำภารกิจที่ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมและมีความใกล้ชิดกับประชาชนมากขึ้น  3.ประชาชนจะได้กระบวนการสอบสวนคดีอาญาในชั้นตำรวจที่มีความเป็นอิสระ ไม่ต้องขึ้นต่อผู้บังคับบัญชาตามปกติ 

4.ประชาชนจะได้ระบบการสอบสวนที่รัดกุม และไม่สร้างภาระให้กับประชาชน คือ กำหนดให้อัยการเข้ามามีส่วนร่วมกระบวนการสอบสวนตั้งแต่ต้นในคดีอุกฉกรรจ์ 5.ประชาชนจะได้ระบบที่คุ้มครองสิทธิเสรีภาพมากขึ้น หลังจากที่ผ่านมาการจับกุมผู้ต้องหาและให้ผู้ต้องหามาแถลงข่าว และการละเลยพยานหลักฐาน และ 6.ประชาชนจะได้กลไกการตรวจสอบจากภายนอกองค์กรตำรวจมากขึ้น ประชาชนเห็นตำรวจที่มีความประพฤติเสื่อมเสีย จะมีกลไกให้ประชาชนร้องเรียนได้โดยตรง และมีคณะกรรมการที่เป็นบุคคลภายนอกเข้ามาทำหน้าที่นี้

นายคำนูณ กล่าวว่า ทั้งหมดนี้ที่ประชาชนจะได้จากร่างกฎหมายใหม่ทั้งสองฉบับ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการปรับเปลี่ยนเพื่อนำไปสู่เป้าหมายสำคัญในระยะยาว ที่สุดแล้วการปฏิรูปตำรวจ จะต้องเป็นการแก้ไขทุกข์ให้กับตำรวจและประชาชนไปพร้อมกัน โดยให้ตำรวจสามารถได้เลื่อนขั้นตามความรู้ความสามารถ และเป็นการแก้ทุกข์ให้ประชาชนในการได้รับความยุติธรรม

“งานปฏิรูปตำรวจครั้งนี้อาจจะยังไม่ตอบโจทย์ได้ทั้งหมด เพราะมีเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวพันจำนวนมา แต่ผมเชื่อว่ากฎหมายสองฉบับถ้าบังคับใช้ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงแน่นอน ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้ได้ทำอย่างดีที่สุด แต่กระบวนการตรากฎหมายจะต้องผ่านคณะรัฐมนตรีและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เป็นเรื่องที่ต้องเอาใจช่วยกัน และหวังว่าประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำรอยเหมือนในอดีต” นายคำนูณ กล่าว

นายคำนูณ กล่าวว่า สำหรับการโยกย้ายข้าราชการตำรวจในปีนี้ ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ไม่น่าจะประกาศใช้ได้ทัน ทำให้ต้องกลับไปใช้การโยกย้ายตำรวจตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ที่กำหนดให้ใช้หลักอาวุโส โดยให้คณะรัฐมนตรีไปออกระเบียบและประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งขณะนี้มีนักกฎหมายตีความกันว่าจะใช้หลักอาวุโสเพียงอย่างเดียว หรือ จะนำหลักอื่นมาพิจารณาด้วย จึงอยากให้สังคมช่วยกันติดตาม

นายสุเทพ กล่าวในช่วงท้ายว่า ตนเองอยากเป็นตัวแทน ประชาชน ขอบคุณคณะกรรมการฯที่พิจารณาร่างกฎหมายตำรวจแห่งชาติ และดีใจที่เห็นการปฏิรูปตำรวจ แม้อาจไม่ได้ดั่งใจ 100 เปอร์เซ็นต์ และเมื่อได้เห็นร่างฉบับเต็ม ก็จะชวนประชาชนจุดพลุใหญ่ ฉะนั้นเชื่อว่าการปฏิรูปครั้งนี้ก็น่าจะสำเร็จ ทำให้เกิดการปฏิรูปตำรวจ เพื่อปลดทุกข์ตำรวจและประชาชน ขณะเดียวกันขอพูดในฐานะผู้ร่วมแต่งตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทยว่า หากร่างกฎหมายของคำนูณและคณะกรรมการฯไม่ผ่านการพิจารณา จะขอคัดลอกไปปรับปรุงใหม่เป็นร่างของพรรค เพราะไม่แน่ใจว่ารัฐบาลต่อไปจะดำเนินการต่อหรือไม่.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

ข่าวแนะนำ

ระทึกไล่ยิงเหมือนในหนัง รัว 17 นัด กลางถนน

ชลบุรี 21 พ.ค. – จยย.ไล่รัวกระสุนสกัดเก๋งอย่างกับหนังบู๊ ทำชาวบ้านแตกตื่น แท้จริง เป็นตำรวจเมืองชลบุรี ล่อซื้อยาบ้า พ่อค้าไหวตัว ก่อนจนมุม ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยนาทีกลุ่มชายฉกรรจ์บุกไปที่รถยนต์สีขาว พยายามเคาะกระจกรถให้คนขับลงมา แต่เมื่อไม่เป็นผล จึงชักปืนขึ้นมารัวยิงหลายครั้ง กระทั่งรถยนต์ถอยรถขับออกจากที่เกิดเหตุ โดยมีรถจักรยานยนต์ไล่ตามไปติดๆ พร้อมกับยิงปืนใส่ รวมทั้งหมด 17 นัด เมื่อช่วง 03.30 น. ที่ผ่านมา ภายในซอยเส้นทางหนองซ้ำซาก-สำนักบก ตำบลหนองซ้ำซาก อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ตำรวจลงพื้นที่เกิดเหตุ พบกันชนหน้ารถยนต์คันสีขาวตกอยู่พร้อมป้ายทะเบียน โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และปลอกกระสุนไม่ทราบขนาด 17 ปลอก พร้อมหัวกระสุนอีก 1 หัว สอบถาม นายปรานอม ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนแรกตนเห็นรถยนต์สีดำ ขับมาปาดหน้ารถยนต์สีขาว จากนั้นก็มีรถจักรยานยนต์ใส่ชุดคล้ายไรเดอร์ ขี่ตามหลังรถคันสีขาว ครั้งแรกเห็นยิงใส่รถยนต์สีขาว 5 นัด แต่เป็นการยิงผ่านกระบอกเก็บเสียง จากนั้นรถคันที่ถูกยิงพยายามหลบหนี แต่รถคันสีดำขับมาบล็อกข้างหน้าไม่ให้หนี แล้วก็มีเสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัด […]

ปิดเกาะล่า ฆ่าเปลือย-รัดคอพยาบาลหมกศพในหอพัก

สุราษฏร์ธานี 21 พ.ค. – พบศพพยาบาลสาว ถูกคนร้ายฆ่ารัดคอทิ้งศพเปลือยบนเตียงนอน แถมขโมยรถยนต์ผู้ตายไปด้วย ตำรวจปิดเกาะสมุยไล่ล่า ที่เกิดเหตุเป็นหอพักสองชั้น ของโรงบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ 1 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุยจ.สุราษฎร์ธานี โดยในห้องพักชั้นสอง พบศพ นางสาวอัญชุลี อายุ 36 ปี ชาวกรุงเทพ เสียชีวิตสภาพนอนหงายบนที่นอน ไม่สวมเสื้อผ้า ใส่แต่กางเกงในสีดำ ที่ลำคอมีเสื้อยืดสีขาวรัดไว้แน่น สิ่งของบนพื้นข้างเตียงกระจัดกระจาย ยังพบกล่องถุงยางอนามัยหนึ่งกล่อง ไม่พบร่องรอยบาดแผล มีเพียงรอยเขียวคล้ำที่ลำคอ จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายทำงานเป็นซูเปอร์ไวเซอร์พยาบาลวิชาชีพ โรงบาลเอกชนแห่งหนึ่งในตำบลบ่อผุด คืนเกิดเหตุ ช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนเห็นผู้ตายที่เพิ่งเลิกงานกลับมาที่ห้องพัก ซึ่งอยู่ไม่ไกลกับที่ทำงาน จากนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าและขับรถยนต์นิสสันสีเทา ทะเบียน กทม. ออกไป และขับกลับเข้ามาเวลาประมาณตี 2 เศษ จากนั้นได้ยินเสียงคนทะเลาะกันแล้วเงียบหายไป จนตอนเช้า เพื่อนไปหา พบว่าห้องถูกปิดและติดต่อผู้ตายไม่ได้ กระทั่งมารู้ว่าเสียชีวิตภายหลัง เบื้องต้นบริเวณที่เกิดเหตุไม่มีกล้องวงจรปิด และพบว่ารถยนต์ของผู้ตายหายไป คาดว่าคนร้ายน่าจะใช้เป็นยานพาหนะในการหลบหนี ตำรวจระดมกำลังมกำลังปิดเส้นทางการหลบหนี บริเวณท่าเรือทั้งสองท่า พร้อมนำพยานกลุ่มเพื่อน ผู้ตายไปสอบปากคำ โดยให้การว่า […]

ผู้เชี่ยวชาญคาดบ่ายพรุ่งนี้ นำร่างคนงานขึ้นจากหลุมสำเร็จ

กทม. 21 พ.ค. – ผู้ว่าฯ กทม. เผยผู้เชี่ยวชาญ คาดพรุ่งนี้ช่วงบ่าย นำร่างคนงานผู้สูญหายขึ้นจากหลุมลึก 19 เมตรได้ ย้ำการทำงานทุกขั้นตอนคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก ภารกิจค้นหาคนงานผู้สูญหายที่ตกหลุมลึก 19 เมตรในโครงการขุดเจาะก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณถนนหลานหลวง ใกล้ปากซอยหลานหลวง 8 หลังเหตุการณ์ผ่านพ้นมา 48 ชั่วโมงแล้ว วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังคงใช้เครนขุดเจาะเพื่อขุดหลุมค้นหาร่างผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางมาร่วมประชุมกับทีมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมและทีมกู้ภัย ระบุว่า อุปสรรคในการปฏิบัติงานในขณะนี้คือความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากอุปกรณ์ชีทไพล์หรือแผ่นเหล็กกั้นดินสไลด์ ที่ติดตั้งลึกถึงสามชั้น ประมาณรวม 16 เมตร ซึ่งด้านล่างมีแรงดันของดินและน้ำมหาศาล ทำให้ระหว่างการขุดดินจะต้องทำโครงสร้างค้ำยัน ชีทไพล์เป็นระยะๆ ในแต่ละชั้น ซึ่งตอนนี้สามารถทำโครงสร้างค้ำยันในชั้นที่สามแล้วถือเป็นชั้นลึกสุด นายชัชชาติ เผยว่าเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ คาดการณ์ว่าหากไม่มีอุปสรรคอย่างอื่นเพิ่มเติม ภายในวันพรุ่งนี้ (22 พ.ค.) ช่วงบ่ายจะสามารถนำร่างผู้สูญหายขึ้นมาได้ ประเมินว่าร่างของผู้สูญหายน่าจะอยู่ในระดับความลึกจากพื้นผิวถนนประมาณ 12 เมตร ไม่ใช่ 16 เมตร อย่างที่เคยคาดการณ์ก่อนหน้านี้ ส่วนประเด็นญาติของผู้สูญหายซึ่งเป็นพี่ชายและน้องชาย ทำงานด้วยกันขณะเกิดเหตุด้วย […]

นายกฯ นำทีมไทยแลนด์ถึงลอนดอนแล้ว จ่อพบเจ้าของค่ายมวยไทย

สหราชอาณาจักร 21 พ.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ นำทีมไทยแลนด์เดินทางถึงลอนดอนแล้ว เตรียมพบเจ้าของค่ายมวยไทยยักษ์ใหญ่ในอังกฤษ พร้อมร่วมกันผลักดันศิลปะมวยไทยให้เป็นสินค้า “เมดอินไทยแลนด์” พร้อมพบผู้บริหารซูเปอร์สโตร์ หารือเปิดตลาดขยายโอกาสสินค้าและซอฟต์พาวเวอร์ไทย ให้กระจายทั่วยุโรป เวลา 10.00 น. กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (ซึ่งตรงกับเวลา 16.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ที่ประกอบด้วย ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้เดินทางถึง ท่าอากาศยาน Heathrow กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เพื่อร่วมประชุมหารือทีมไทยแลนด์ ส่งเสริม สินค้าและบริการไทย ผลักดัน Soft Power กีฬาไทย ขยายตลาดเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการของไทย ในสหราชอาณาจักรและยุโรป ช่วงบ่ายวันนี้ เวลา 14.45 น. ตรงกับเวลา 20.45 น. (ตามเวลาในประเทศไทย) นายกรัฐมนตรี และคณะ จะเข้าพบกับเจ้าของและผู้บริหาร ร่วมทั้งครูผู้ฝึกสอนค่ายมวยไทย […]