นครนายก 26 ก.ค. – ยันเขื่อนกรมชลฯ ทุกแห่งแข็งแรงมั่นคงปลอดภัย สั่งเฝ้าระวังเกาะติดสถานการณ์น้ำ เปิด SWOC 24 ชม.
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า เขื่อนและอ่างเก็บน้ำที่อยู่ในการดูแลของกรมชลประทานมีความปลอดภัย มั่นคงแข็งแรงทุกแห่ง เขื่อนและอ่างเก็บน้ำของกรมชลประทานออกแบบตามหลักวิชาการ สอดคล้องกับสภาพภูมิประเทศ และสามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวสูงถึง 7 มาตราริกเตอร์ นอกจากนี้ ยังทําการตรวจสอบความมั่นคง แข็งแรงของตัวเขื่อนทุกแห่งที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมชลประทานอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอตลอดทั้งปี แม้ยามปกติที่ไม่มีภัยพิบัติใด ๆ ก็ตาม ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ท้ายเขื่อนมีความมั่นใจและเชื่อมั่นในความปลอดภัยแข็งแรงของเขื่อนตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนมากขึ้น อธิบดีกรมชลประทานได้ลงพื้นที่เขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก ตรวจสภาพความมั่นคงและสภาพน้ำของเขื่อนทุกเขื่อนทั้งที่สร้างเสร็จแล้วและกำลังก่อสร้างเป็นกรณีพิเศษ พร้อมทั้งจัดเวรยามประจำทุกเขื่อนเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอดเวลา จัดเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ที่ต้องใช้เกี่ยวกับเขื่อนไว้ให้พร้อมใช้งานได้ทันที การติดต่อสื่อสารไปยังเขื่อนและเจ้าหน้าที่ประจำเขื่อนต้องทำได้มากกว่า 1 ช่องทาง และรายงานให้ทางอำเภอ จังหวัด และศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) ทราบสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยให้ SWOC ปฏิบัติงานตลอด 24 ชม. ตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2561 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมชลประทานประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และจะแจ้งให้ประชาชนทราบเป็นระยะ ๆ พร้อมทั้งตรวจสอบบํารุงรักษาอาคารชลประทานทุกแห่งให้มีความปลอดภัยและสามารถใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยการสนับสนุนเครื่องจักรกลและเครื่องสูบน้ำ เพื่อเป็นการป้องกันและลดปัญหาความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้น สำนักงานชลประทานในพื้นที่จะต้องจัดการประชุมร่วมกับประชาชนและฝ่ายปกครองในพื้นที่ เพื่อเป็นการสร้างความรับรู้ความเข้าใจร่วมกันก่อน ซึ่งกรมชลประทานได้จัดเตรียมเครื่องจักรเครื่องกลและเครื่องสูบน้ำในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงแล้ว
สําหรับสถานการณ์น้ำล่าสุด อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศมีปริมาณน้ำทั้งหมด 49,466 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็นร้อยละ 65 ของปริมาณความจุ โดยเป็นปริมาณน้ำใช้การได้ 25,546 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 49 มากกว่าช่วงเดียวกันในปี 2560 ประมาณ 5,203 ล้าน ลบ.ม. โดยมีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำ 517.22 ล้าน ลบ.ม./วัน และปริมาณน้ำระบายออก 185.27 ล้าน ลบ.ม./วัน สามารถรับน้ำได้อีก 26,541ล้าน ลบ.ม.-สำนักข่าวไทย