ทนายยันเหยื่อข่มขืนเสียชีวิตไม่กระทบคดี-ตร.จ่อออกหมายเรียกอดีต ผญบ.

ลำปาง 26 ก.ค.-ตำรวจเตรียมออกหมายเรียกอดีตผู้ใหญ่บ้าน คดีสาวชนเผ่าวัย 22 ปี กินยาฆ่าตัวตาย หลังถูกลวงไปข่มขืนในโรงแรมที่ลำปาง ซึ่งผู้เสียหายเสียชีวิตแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่ “ทนายอัจฉริยะ” ยันไม่กระทบคดี โดยเหยื่อถูกอดีตผู้ใหญ่บ้านข่มขืนเพียงคนเดียว ไม่ได้ถูกรุมโทรม คาดเป็นการสื่อสารผิด


จากเหตุการณ์สาววัย 22 ปี ระบุว่าถูกอดีตผู้ใหญ่บ้านใน จ.ตาก พร้อมพวก 4 คน รุมโทรมในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งที่ จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังจากนั้นได้มีบุคคลนำภาพเหยื่อสาวที่นอนในโรงแรม พร้อมกับอดีตผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวส่งให้น้องสาวฝาแฝดของเหยื่อ และมีการส่งภาพต่อให้ญาติและในกลุ่มไลน์ชาวม้ง จนทำให้เหยื่ออับอาย และตัดสินใจกินยาฆ่าแมลงฆ่าตัวตายเมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ญาติได้นำตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลลำปาง ในสภาพอาการโคม่า และทรุดหนัก เนื้อตัวบวม ใบหน้าและตาบวมมาก หายใจติดขัด พูดคุยได้เพียงภาษามือเท่านั้น โดยน้องสาวฝาแฝดเป็นคนสื่อสารให้ ซึ่งญาติเตรียมจะนำตัวกลับ จ.น่าน วานนี้ เพราะหมอไม่สามารถรักษาได้


แต่ปรากฏว่าเมื่อช่วงเวลา 19.00 น.วานนี้ ผู้เสียหายเสียชีวิตแล้ว แต่เนื่องจากผู้ตายเป็นชนเผ่าเมี่ยน ตามประเพณีคือ หากเสียชีวิตในบ้านก็จะทำพิธีในบ้าน แต่หากเสียชีวิตนอกบ้านก็ให้ทำพิธีข้างนอก แม้ว่าญาติอยากจะพากลับบ้าน แต่ด้วยประเพณีคงต้องทำพิธีที่ลำปาง โดยไม่มีการสวดหรือเก็บศพเหมือนทั่วไป โดยในวันนี้จะนำออกจากรงพยาบาล หาวัดและรีบดำเนินการฌาปนกิจ นำกระดูกกลับไปทำพิธีส่งดวงวิญญาณที่บ้านเกิดที่ จ.น่าน ต่อไป

ด้านทนายความอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานและทนายความชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ซึ่งเดินทางไปให้ความช่วยเหลือ ระบุในด้านของคดีคงไม่ต้องเป็นห่วง เพราะผู้เสียหายมอบอำนาจให้พ่อเป็นผู้ดำเนินการแทน เมื่อผู้เสียหายเสียชีวิต พ่อหรือทายาทคนอื่นก็ยังสามารถดำเนินการต่อได้ ขณะที่พยานหลักฐานต่างๆ คิดว่าเพียงพอแล้วที่จะให้ตำรวจออกหมายจับผู้ก่อเหตุ ซึ่งชัดเจนว่ามีเพียงคนเดียว คืออดีตผู้ใหญ่บ้านได้ในวันนี้ ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านั้นผู้เสียหายระบุว่า ถูกรุมโทรม 4 คนนั้น คาดว่าจะเป็นการสื่อภาษากันผิด เนื่องจากที่ผู้เสียหายยกมือ 4 นิ้ว คือการที่ผู้เสียหายได้พบคนทั้งหมด 4 คน เนื่องจากจากการลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุในพาร์ตเมนต์กลางเมืองลำปาง ได้สอบถามพนักงานในวันเกิดเหตุ ยืนยันว่าหญิงสาวเปิดห้องพักพร้อมกับอดีตผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวจริง จำนวน 1 ห้อง บริเวณชั้น 2 ฝ่ายหญิงใส่หน้ากากอนามัยปิดใบหน้า เดินผ่านบริเวณเคาน์เตอร์ กล้องวงจรปิดของโรงแรมจับภาพได้ แต่เนื่องจากข้อมูลเต็มฮาร์ดดิสก์ ทำให้ภาพวงจรปิดวันนั้นถูกกลบไปแล้ว ก่อนที่ฝ่ายชายจะเดินออกจากอพาร์ตเมนต์เพียงคนเดียว


ทั้งนี้ ผู้เสียหายรู้จักอดีตผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวทางเฟซบุ๊ก เนื่องจากอดีตผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวขายสมุนไพรพื้นบ้าน ช่วยเกี่ยวกับอาการปวดเมื่อย จึงสั่งซื้อมารักษาอาการปวดหลัง อดีตผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวเอายามาส่งให้ด้วยตัวเองเมื่อวันที่ 14 ก.ค. โดยให้มารับในตัวเมืองลำปาง แต่ถูกหลอกชวนไปทานข้าว แล้วล่อลวงไปที่บริเวณอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครลำปาง เมื่อช่วงเที่ยงวันในวันเดียวกัน และถูกอดีตผู้ใหญ่บ้านล่วงละเมิดทางเพศ ก่อนที่อดีตผู้ใหญ่จะใช้กล้องถ่ายรูปถ่ายภาพและคลิปส่งไปในกลุ่มไลน์ชาวม้ง จนทำให้เหยื่ออับอาย และตัดสินใจกินยาฆ่าแมลงฆ่าตัวตายเมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ส่วนผู้ชายอีก 3 คน ไม่ได้ล่วงละเมิด แต่มาพบกันทีหลังภายนอกอพาร์ตเมนต์

ด้าน พ.ต.อ.ไกรสิทธิ พรหมปฏิมา ผกก.สภ.เมืองลำปาง กล่าวว่า ขณะที่การสอบสวนคืบหน้าไปมาก เหลือเพียงแค่บางส่วนที่จะต้องหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ส่วนที่พยานหลักฐานชัดเจนแล้ว วันนี้ก็จะได้ออกหมายเรียกอดีตผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งใน อ.พบพระ จ.ตาก มารายงานตัวก่อน.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร