นนทบุรี 24 ก.ค. – พาณิชย์เผยการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนครึ่งแรกปี 61 มีมูลค่า 6.79 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.78 พร้อมจัดกิจกรรมกระตุ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี
นายวันชัย วราวิทย์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า มูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยครึ่งแรกปี 2561 (ม.ค.-มิ.ย.) มีมูลค่า 678,623 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.78 โดยเป็นการส่งออก 385,550 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 0.79 และการนำเข้า 293,073 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.70 แต่ยังเกินดุลการค้า 92,476 ล้านบาท แยกเป็นมูลค่าการค้าชายแดน 553,717 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.36 เป็นการส่งออก 325,202 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 1.57 นำเข้า 228,515 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.17 เกินดุลการค้า 96,686 ล้านบาท และมูลค่าการค้าผ่านแดน 124,906 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.01 เป็นการส่งออก 60,348 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.69 นำเข้า 64,558 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 38.09 ขาดดุลการค้า 4,210 ล้านบาท ทั้งนี้ ถ้าคำนวณเป็นเงินเหรียญสหรัฐพบการขยายตัวเพิ่มมากกว่า เพราะค่าเงินบาทแข็งขึ้นช่วงต้นปี 2561
ทั้งนี้ การค้าชายแดนแยกเป็นรายประเทศ พบว่าการค้ากับมาเลเซียยังคงนำเป็นอันดับหนึ่ง มูลค่า 278,341 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 เป็นการส่งออก 145,136 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 7.86 ตามมาด้วย สปป.ลาว มูลค่า 107,742 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.33 เป็นการส่งออก 66,468 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.66 นำเข้า 41,275 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.93 เมียนมา มูลค่า 97,265 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.58 เป็นการส่งออก 56,276 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 1.71 นำเข้ามูลค่า 40,989 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.82 และกัมพูชา มูลค่า 70,369 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.31 เป็นการส่งออก 57,322 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.56 นำเข้า 13,047 ลดลงร้อยละ 8.05
นายวันชัย กล่าวว่า กรมฯ ได้จัดงานมหกรรมการค้าชายแดนและมหกรรมการค้าภายใต้กรอบความร่วมมือการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย IMT-GT และ BIMP-EAGA ครั้งที่ 4 ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ระหว่างวันที่ 19-22 กรกฎาคม 2561 โดยมีผู้แทนระดับสูงจาก 4 ประเทศ คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย บรูไน และฟิลิปปินส์ มีงานแสดงสินค้าจาก 5 ประเทศ รวม 230 คูหา โดยในส่วนของไทยเป็นกลุ่มเอสเอ็มอีดาวรุ่งของ 14 จังหวัดภาคใต้ให้มีโอกาสทำการค้าส่งออกและยังมีสินค้าเกษตรนวัตกรรมฯ
สำหรับงานมหกรรมดังกล่าวผู้ประกอบการภาคใต้ของไทยสามารถจัดทำ MOU กับมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย รวม 4 คู่สัญญา เพื่อซื้อขายสินค้าและบริการท่องเที่ยวระหว่างกัน คิดเป็นมูลค่าเบื้องต้นกว่า 10 ล้านบาท ขณะที่ผู้ประกอบการภาคใต้โดยเฉพาะเอสเอ็มอีบางรายเจรจาจับคู่ธุรกิจขายสินค้าปลากรอบ/ปลาหยอง ในขั้นทดลองมูลค่ากว่า 300,000 บาท และจะสั่งซื้อกันต่อ นอกจากนี้ มีนักลงทุนจากฟิลิปปินส์หลายรายสนใจต้องการเข้ามาตั้งโรงงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษสงขลา ได้แก่ การผลิตน้ำทุเรียนเทศ การผลิตเครื่องบรรจุภัณฑ์ การผลิต Solar Cell นับว่างานนี้ประสบผลสำเร็จอย่างมากตลอดงานมียอดออเดอร์ซื้อขายรวมกว่า 175 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์มั่นใจการค้าชายแดนและผ่านแดนปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะเติบโตถึงร้อยละ 15 หรือมีมูลค่ากว่า 1.5 ล้านล้านบาท แม้การค้าจะขยายตัว แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม คือ ความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งของไทยและประเทศเพื่อนบ้าน และการเลือกตั้งของบางประเทศ หรือแม้แต่สงครามการค้า แม้จะไม่กระทบต่อการค้าชายแดนและผ่านแดนในกลุ่มโดยตรง แต่มีผลกระทบบ้างแต่ไม่มากนัก. – สำนักข่าวไทย