กรุงเทพฯ 19 ก.ค. – ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดเงินสะพัดเข้าพรรษากว่า 6,477 ล้านบาท พร้อมระบุเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นจริงแบบช้า ๆ
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลการสำรวจพฤติกรรมและการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษาปีนี้ ว่า ประชาชนเตรียมใช้เงินจับจ่ายเพื่อการทำบุญและเดินทางท่องเที่ยวกว่า 6,477 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 4.1 โดยส่วนใหญ่วางแผนท่องเที่ยวและทำบุญในช่วงวันหยุด ทั้งการตักบาตร ทำบุญ ทำทาน ถวายสังฆทาน และเวียนเทียน แหล่งที่มาของเงินที่ใช้ในวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา ส่วนใหญ่มาจากรายได้ประจำ ซึ่งโพลครั้งนี้บ่งชี้ว่าประชาชนเข้าใกล้วัดมากขึ้น และจับจ่ายใช้สอยเพื่อการทำบุญมากขึ้น แม้จะเพิ่มขึ้นไม่มาก แต่สะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดีขึ้น
อย่างไรก็ตามในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลประชาชนวางแผนจับจ่ายเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ประชาชนที่อยู่ต่างจังหวัดซึ่งพึ่งพาราคาสินค้าเกษตรเป็นหลัก ส่วนใหญ่วางแผนจับจ่ายเท่าเดิม ขณะที่ การใช้จ่ายเพื่อการเดินทางท่องเที่ยวมีแนวโน้มคึกคักน้อยลง เนื่องจากก่อนหน้านี้ใช้จ่ายมากในช่วงเทศกาลฟุตบอลโลกไปแล้ว แต่การใช้จ่ายเพื่อการทำบุญนั้นยังคงเพิ่มขึ้น เห็นได้จากการที่กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ตอบว่าเพิ่มจำนวนชิ้นในการซื้อของเพื่อกิจกรรมทำบุญ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวสอดคล้องกับทรรศนะของผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ที่มองว่าเศรษฐกิจไทยขณะนี้กำลังฟื้นตัวอย่างช้า ๆ และมองว่าน่าจะดีขึ้นเต็มที่ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ไปจนถึงไตรมาสแรกปี 2562
ทั้งนี้ ทางศูนย์พยากรณ์ฯ จะปรับประมาณการณ์เติบโตทางเศรษฐกิจใหม่ในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้ จากกรอบเดิมอยู่ที่ร้อยละ 4.2-4.6 แต่โอกาสจะเติบโตได้ร้อยละ 4.4 แต่ตัวเลขใหม่มีโอกาสเติบโตร้อยละ 4.5-5 โดยจะนำประเด็นสงครามการค้าและปัญหาเรือล่มที่ภูเก็ตของนักท่องเที่ยวชาวจีนนำมาประกอบการวิเคราะห์ว่าจะกระทบต่อการค้าและการท่องเที่ยวของไทยด้วยหรือไม่.-สำนักข่าวไทย