ยธ.17 ก.ค.- รองปลัด ยธ.ชี้กลุ่มครูประกาศเบี้ยวหนี้ ช.พ.ค. ให้เตรียมรับสภาพบุคคลล้มละลาย 3 ปี ขาดคุณสมบัติข้าราชการ โดนออกจากงาน พ่วงคนค้ำประกันล้มละลายด้วย
นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษกกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีกลุ่มวิชาชีพครูรวมตัวกว่า100 คน ประกาศปฏิญญามหาสารคาม เรียกร้องให้รัฐบาลและธนาคารออมสินพักหนี้โครงการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือ ช.พ.ค. ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป พร้อมชักชวนลูกหนี้ ช.พ.ค.ทั่วประเทศ 450,000 คน ร่วมกันยุติการชำระหนี้กับธนาคารออมสิน ตั้งแต่วันที่ 1ส.ค.นี้ ว่าไม่อยากครูมีค่านิยมแบบนี้ เพราะเมื่อมีหนี้ก็ต้องชำระ การจะปฏิเสธหนี้ต้องทำด้วยเจตนาสุจริต เพราะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ การจะปฏิเสธชำระหนี้ต้องดำเนินการโดยสุจริต แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นไปโดยสุจริตหรือไม่ เพราะหนี้เกิดจากการทำนิติกรรมหรือสัญญา เพราะฉะนั้นเมื่อมีเจ้าหนี้และลูกหนี้เกิดขึ้นแล้วจะหมดเคราะห์กรรมได้ก็ต้องชำระหนี้เท่านั้น แต่ถ้าไม่มีการชำระหนี้ก็จะมีผลตามมา รวมถึงมีผลเกี่ยวโยงไปถึงผู้ที่ค้ำประกันที่ส่วนใหญ่เป็นบุคคลใกล้ชิดและสมัครใจมาค้ำประกันให้ ที่จะต้องรับสภาพหนี้เช่นเดียวกับผู้กู้
โดยในรายที่มีหนี้ไม่เกิน 1 ล้านบาท อาจไม่มีปัญหามาก แต่ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการศาลและต้องมีการบังคับคดี และส่งเรื่องให้กรมบังคับคดีดำเนินการ แต่ในกรณีที่หนี้เกิน1 ล้านบาท ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการศาล ถูกฟ้องให้เป็นบุคคลล้มละลาย การเป็นบุคคลล้มละลายจะไม่สามารถทำนิติกรรมหรือสัญญารวมทั้งธุรกรรมการเงินได้ทุกกรณี รวมถึงการเดินทางไปต่างประเทศก็ไม่สามารถทำได้ตามอำเภอใจ จะต้องขออนุญาตหรือแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ของกรมบังคับคดีก่อน
นอกจากนี้ ตามกฎหมายการเป็นข้าราชการถ้าถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลายกรณีเป็นข้าราชการพลเรือนก็จะสิ้นสุดการเป็นข้าราชการทันที
กรณีของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาหากถูกพิพากษาให้ล้มละลาย จะขาดคุณสมบัติในการเป็นข้าราชการตามมาตรา 30 ของ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 และเมื่อคุณสมบัติไม่ถูกต้องแล้ว มาตรา 110 ก็กำหนดให้ผู้มีอำนาจสั่งให้ผู้นั้นออกจากราชการ ไม่สามารถทำนิติกรรมสัญญาใดๆ ทั้งสิ้นได้ รวมถึงธุรกรรมการเงินต่างๆ ไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ หากมีความจำเป็นต้องเดินทางไปจริงๆ ก็ต้องขออนุญาตจากพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ กรมบังคับคดีก่อน หากได้รับอนุญาตให้ออกนอกประเทศจะต้องทำบัญชีรายรับรายจ่ายส่งต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่า ทุกๆ 6เดือน พร้อมทั้งส่งรายได้ตามที่เจ้าพนักงานจะอายัดเข้ากองทรัพย์สินด้วย
รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวด้วยว่า การถูกสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลายจะมีระยะเวลา 3 ปี เมื่อครบกำหนดก็จะถูกปลดจากการเป็นบุคคลล้มละลาย ยกเว้นกรณีที่ไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหนี้ ก็อาจจะมีการขยายเวลาเป็น 5 หรือ10 ปีก็ได้ โดยเมื่อครบกำหนดระยะเวลา 3 ปี ก็ให้บุคคลล้มละลายติดต่อกับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์สินเพื่อขอปลดจากการเป็นบุคคลล้มละลาย เมื่อได้ปลดจากการเป็นบุคคลล้มลายแล้ว ก็จะสามารถทำงานและทำธุรกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ
“ผมเคารพสิทธิ์ของสมัชชาหรือปฏิญญาที่ตั้งขึ้นมา แต่ยืนยันว่าสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถทำได้เพราะทำให้คนไม่เคารพกฎหมาย เพราะหนี้สินเกิดจากตัวเราเกิดจากความสมัครใจเป็นหนี้ รวมถึงผู้ค้ำประกันก็สมัครใจมาค้ำประกันให้ด้วย โดยเฉพาะข้าราชการไม่ว่าจะเป็นข้าราชการกระทรวงยุติธรรมหรือกระทรวงใดก็ไม่สามารถปฏิเสธกฎหมายได้ โดยเฉพาะข้าราชการครูจะต้องมีจริยธรรมสูง ต้องดูให้ดีว่าการไม่ยอมรับกฎหมายจะไปกระทบกับจริยธรรมหรือไม่ ถ้ากระทบกับจริยธรรมก็จะเป็นอีกข้อหนึ่งที่อาจถูกโทษทางวินัยได้ด้วย” รองปลัด ยธ.กล่าว.-สำนักข่าวไทย