กรุงเทพฯ 16 ก.ค.- ตำรวจได้เบาะแสรถกระบะก่อเหตุยิงตำรวจ ปส.ดับ เหตุไม่พอใจขับรถปาดหน้า เร่งไล่ล่าเจ้าของรถมาดำเนินคดี
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยความคืบหน้ากรณี “หนุ่มหัวร้อนไม่พอใจถูกขับรถปาดหน้า ขับรถไล่ก่อนชักปืนยิงตำรวจดับ” ที่สื่อนำเสนอว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 21.30 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา (15 ก.ค.) บริเวณริมถนนสาย 41 ฝั่งขาขึ้น หน้าร้านขายพวงมาลัยใกล้ซอยสุขาภิบาล 12 ม.13 ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ในพื้นที่ สภ.เมืองชุมพร
จากการสอบสวนพยานที่เดินทางมาพร้อมกับผู้เสียชีวิตเบื้องต้นทราบว่า พยานได้ขับรถยนต์เก๋งฮอนด้าซิตี้ สีดำ ทะเบียน กฉ 2283 นครศรีธรรมราช มาจากจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย ส.ต.ท.พยุงศักดิ์ ใหมดี ผบ.หมู่ กก.2 บก.ปส.4 บช.ปส. (ผู้เสียชีวิต) เมื่อมาถึง อ.หลังสวน จ.ชุมพร ในช่วงกำลังจะลงสะพานข้ามแม่น้ำหลังสวนได้ขับรถปาดหน้ากับรถยนต์กระบะอีซูซุ 4 ประตู สีบอร์นเทา ล้อแม็กสีดำแวว โดยขณะขับปาดหน้ารถยนต์กระบะคันดังกล่าว บุคคลภายในรถได้บีบแต่ใส่ พร้อมกับได้ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวตีคู่มาแต่ไม่ยอมแซง เมื่อขับมาได้สักพักรถกระบะคันดังกล่าวได้หายไป จนกระทั่งเมื่อมาถึงแยกปฐมพร ในช่วงลอดใต้สะพาน รถยนต์กระบะคันดังกล่าวได้ขับรถตีคู่ขึ้นมาพร้อมกับชี้ให้พยานจอดรถ ซึ่งพยานมองเห็นชายคนในรถกระบะ ระหว่างนั้นผู้เสียชีวิตได้บอกให้พยานจอดรถด้านซ้าย ก่อนที่รถกระบะขับมาจอดบริเวณด้านหน้ารถของพยาน จากนั้นชายผู้ขับรถกระบะคันดังกล่าวได้เดินลงมาจากรถ และเดินเข้ามาที่รถ พร้อมกับเคาะให้พยานลดกระจกลง เมื่อพยานลดกระจกลง ชายคนดังกล่าวได้ต่อยมาที่ใบหน้าของพยาน จากนั้นชายคนดังกล่าวได้วิ่งมาทางท้ายรถวนมาที่ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ ซึ่งผู้เสียชีวิตได้ลงจากรถ และได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ก่อนชายคนดังกล่าวขับรถกระบะหลบหนีไป
รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า ตั้งแต่รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งสกัดจับรถยนต์คันที่ก่อเหตุในพื้นที่ข้างเคียง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบหมายเลขทะเบียนรถยนต์กระบะคันที่ก่อเหตุแล้ว โดยขณะนี้ พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จว.ชุมพร ได้ลงพื้นที่ควบคุมสั่งการ สืบหาเส้นทางการหลบหนี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ชุมพร ด้วยตนเอง
พร้อมกันนี้ตนได้รายงานให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. รับทราบแล้ว ซึ่งคดีนี้เป็นเหตุอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญ ที่ผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืนและได้ลงมือก่อเหตุกับผู้ใช้รถใช้ถนนด้วยกัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องลงติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วและเพื่อยับยั้ง ป้องกันไม่ให้ไปก่อเหตุในลักษณะแบบนี้กับผู้ใดได้อีก ทั้งนี้ท่านมีความเป็นห่วงเป็นใยของผู้ใช้รถใช้ถนน ควรมีสติทุกชั่วขณะ ใจเย็นต่อกัน ขับรถอย่างมีมารยาทและเคารพกฎจราจร เพื่อที่จะลดการกระทบกระทั่งต่อกัน และลดสถานการณ์ที่อาจบานปลายอย่างเหตุการณ์เช่นนี้.-สำนักข่าวไทย