ศาลฎีกาสั่งจำคุก”วัฒนาและพวก”ทุจริตท่ีดินคลองด่าน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- ศาลฎีกาพิพากษาแก้ จำคุก”วัฒนาและพวก”รวม 11 คน ปรับ 7 บริษัท คดีทุจริตที่ดินคลองด่าน โดยจำคุกสูงสุด 6 ปี พร้อมออกหมายจับจำเลย 2 คน ที่ไม่มาฟังคำพิพากษา ขณะที่ทนายความ ระบุยังมีค่าเสียหายทางแพ่งอีก 23,000 ล้านบาท ที่ต้องฟ้องเรียกร้อง


ศาลแขวงดุสิตนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีที่กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง กิจการร่วมค้า เอ็นวีพีเอสเคจีนายวัฒนา อัศวเหม อดีต รมช.มหาดไทย ซึ่งหนีหมายจับตั้งแต่ปี 2552 กับพวกเป็นจำเลยที่ 1 ถึง 19 ในความผิดฐานฉ้อโกงที่ดิน และฉ้อโกง กรณีร่วมกันทุจริตจัดซื้อที่ดิน อำเภอคลองด่าน จังหวัดสมุทรปราการรวมมูลค่ากว่า 2 หมื่น 3 พันล้านบาท ซึ่งที่ดินดังกล่าวเป็นคลอง ถนนสาธารณะ และป่าชายเลน 

โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษ จำเลยที่ 2-19 ฐานร่วมกันฉ้อโกง จำคุกจำเลยที่เป็นบุคคลคนละ 3 ปี ส่วนนิติบุคคลปรับรายละ 6 พันบาท ส่วนในชั้นศาลอุทธรณ์ สั่งยกฟ้องจำเลยทั้งหมดในคดีนี้


สำหรับศาลฎีกา ได้พิเคราะห์สำนวนคดีนี้อย่างละเอียด ทีังโฉนดที่ดินแต่ละฉบับ สัญญาแต่ละส่วน ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ในการอ่านคำพิพากษา ก่อนสั่งลงโทษ แบ่งเป็น 2 สำนวน โดยคดีฉ้อโกงที่ดิน ศาลสั่งจำคุกจำเลยที่ 3, 11, 12, 13, 14, 15, 17 และ 19 รวม 8 คน จำคุกคนละ 3 ปี แต่ให้ระงับการอ่านคำพิพากษาจำเลย ที่ 18 ไว้ชั่วคราวเนื่องจากไม่มาฟังคำพิพากษา โดย ให้รอการอ่านคำพิพากษาอีกครั้งหลังผ่านไป 30 วัน และพิพากษาจำเลยที่ 2, 10, 12 และ16 ซึ่งเป็นนิติบุคคล ให้เสียค่าปรับบริษัทละ 6,000 บาท

ส่วนสำนวนคดีฉ้อโกงเงินตามสัญญาจ้าง ศาลพิพากษาจำเลยที่ 3, 5, 7, 9 และ 11 ต้องรับโทษจำคุกเป็นเวลา 3 ปี และปรับจำเลยที่ 2, 4, 6, 8 และ 10 บริษัทละ 6,000 บาท

ส่วนจำเลยที่หลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษาในวันนี้ได้แก่ นายสิโรจน์ วงศ์สิโรจน์กุล กรรมการบริษัท สี่แสงการโยธา และนายกว๊อกวา โอเยง สัญชาติฮ่องกง ในฐานะผู้แทนบริษัท ปาล์ม บีชฯ ศาลสั่งออกหมายจับให้ติดตามตัวมาดำเนินคดี เพื่อฟังคำพิพากษานับจากนี้ไปอีก 30 วัน


หลังศาลอ่านคำพิพากษา นายณกฤช เศวตนันทน์ ทนายความกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า คดีนี้ถือเป็นชัยชนะของประชาชนผู้เสียภาษี โดยจะนำผลคำพิพากษาไปเสนอให้กรมควบคุมมลพิษเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่ง ตามมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นเงิน 23,000 ล้านบาท พร้อมให้นำผลคดีดังกล่าวไปประกอบการพิจารณาคดีในชั้นศาลปกครองสูงสุด และให้ ปปง. นำไปใช้ประกอบในการฟ้องร้องทางแพ่งติดตามเงินที่จ่ายให้บริษัทเอกชนคู่กรณีล่วงหน้าไป 4,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันเพิ่งตามกลับคืนได้เพียงกว่า 400 ล้านบาทเท่านั้น .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จับหมอดังฟอกเงิน

ออกหมายจับ “หมอดัง” พร้อมพวกรวม 9 คน “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน”

ตำรวจออกหมายจับ “หมอดัง” พร้อมพวกรวม 9 คนข้อหา “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน” ล่าสุดจับได้แล้ว 6 คน ส่วนอีก 3 คน อยู่ระหว่างติดตามตัว เบื้องต้นมีข้อมูลว่า “หมอดัง” หนีออกนอกประเทศตั้งแต่ ก.ย.ที่ผ่านมา

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน