กทม.12 ก.ค.- ตำรวจ ปอท.จับหนุ่มหัวใสชาวบางละมุง ชลบุรี ใช้รูปหน้าบัตรประชาชน เปิด ซิมมือถือ 55 ซิมขายต่อให้ชาวต่างชาติ
พลตำรวจตรีวรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท.แถลงจับกุมนายพีระเมศร์ วงศ์ทองเกื้อ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี พร้อม คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะไม่มียี่ห้อ โทรศัพท์มือถือ ซิมการ์ดโทรศัพท์ ราวเตอร์ หลังปลอมบัตรประชาชนนายกรัฐมนตรี ลงทะเบียนเปิดซิมโทรศัพท์มือถือจำนวน 55 ซิม
การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นหลัง ปอท.ได้รับแจ้งจากบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ ตรวจสอบพบความผิดปกติ ในการลงทะเบียนซิม โทรศัพท์ มือถือระหว่างเดือน มีนาคมถึงพฤษภาคม 2561 มีการลงทะเบียนซิมโทรศัพท์ โดยใช้รูปภาพหน้าบัตรประชาชนและรูปหน้าตรงกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จำนวน 55 ครั้ง ซึ่งอาจนำซิมโทรศัพท์มือถือดังกล่าวไปใช้กระทำผิดกฎหมายได้ จึงสืบสวนสอบสวนจนพบว่าผู้ก่อเหตุคือนายพีระเมศร์ ตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์ ของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในพัทยา เป็นคนใช้โทรศัพท์มือถือในร้านเป็นอุปกรณ์ลงทะเบียนซิมกว่า 53 หมายเลข จึงขอศาลออกหมายจับและเข้าจับกุมตัวเมื่อวานที่ผ่านมา
ผู้ต้องหาสารภาพว่า เป็นผู้ลงทะเบียนซิมดังกล่าว เมื่อลงทะเบียนได้แล้ว จะนำไปจำหน่ายให้กับลูกค้าซึ่งส่วนมากเป็นชาวต่างชาติ ที่เลือกใช้รูปนายกรัฐมนตรีเนื่องจากเข้าสู่ระบบได้ง่ายมากกว่าบุคคลอื่น และยังใช้ข้อมูลของบุคคลของตัวแทนรายอื่นอีกในการลงทะเบียนด้วย
ด้านพลตำรวจตรีวรวัฒน์ เปิดเผยว่า พฤติกรรมคนร้ายหารูปนายกรัฐมนตรีจากอินเตอร์เน็ต จากนั้นก็จะนำรูปและบัตรที่หาได้ไปลงทะเบียนในแอพพลิเคชั่นของ กสทช. จะสุ่มกรอกเลขที่บัตรประชาชน 13 หลักจนกว่าระบบจะยอมรับ หรือ สุ่มเลขหนังสือเดินทางของนักท่องเที่ยวเพื่อลงทะเบียน และเมื่อลงทะเบียนเสร็จจะนำไปจำหน่ายให้กับชาวต่างชาติ ในราคาซิมละ 250 บาท ส่วนสาเหตุทำไปเพราะหวังกำไร ไม่ได้นำไปใช้ในการก่อการร้าย หรือหวังผลทางการเมือง และนายกรัฐมนตรียังกำชับให้ดำเนินเด็ดขาดกับผู้ต้องหา เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน
ตำรวจแจ้งข้อหา ฐานเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และโดยทุจริตหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน ตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ และความผิดทางอาญา โดยผู้ต้องหารายนี้จะต้องรับโทษต่างกรรมต่างวาระกระทง 5ปี ซึ่งโทษต่างกรรมต่างวาระอาจถูกจำคุกสูงสุดถึง 275 ปี
ด้าน นางจิตสถา ศรีประเสริฐสุข ผู้อำนวยการสำนักบริหารและจัดการเลขหมายโทรคมนาคม หรือ กสทช. ยอมรับปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากแอพลิเคชั่นของ กสทช.ที่เพิ่งถูกนำมาใช้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างการพัฒนาปรับปรุงเทคโลยี แต่หลังจากนี้จะต้องมีการประชุมกับตัวแทนเครือข่าย และตัวแทนจัดจัดหน่าย เพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป.-สำนักข่าวไทย
