ผบ.ศอร.แถลงปิดศูนย์ฯ ชี้สามัคคีคือกุญแจความสำเร็จ เล็งทำถ้ำหลวงเป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิต



เชียงราย 11 ก.ค.-ผบ.ศอร.นำทีมแถลงปิดศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายที่ถ้ำหลวง ระบุกุญแจสำคัญของความสำเร็จคือ “ความสามัคคี” ทลายภาษา เชื้อชาติ เพื่อบรรลุเป้าหมายเดียว คือช่วย 13 ชีวิตทีมหมูป่า ถอดบทเรียนเป็นครั้งแรกของโลกในการกู้ภัยผู้สูญหายในถ้ำที่มีน้ำเต็ม เล็งทำถ้ำหลวงเป็น “พิพิธภัณฑ์มีชีวิต” ฝากทุกคนเป็นกำลังใจให้ “หมอแฮร์ริส” ที่สูญเสียบิดา ด้าน ผบ.หน่วยซีล เผยภารกิจสู้กับน้ำ สุดหิน แต่ยอมแพ้ไม่ได้ ขณะที่ ผอ.รพ.เชียงรายฯ โชว์ภาพทั้ง 13 ชีวิต หลังออกจากถ้ำหลวง ใจสู้ ชูสองนิ้ว 

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้บัญชาการเหตุการณ์ ศอร. นำคณะแถลงข่าวปิดศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายที่วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ผ่านรายการ “เดินหน้าประเทศไทย” โดยกล่าวว่า ภารกิจครั้งนี้ประสบความสำเร็จสร้างชื่อเสียงระดับโลก และจะสำเร็จไปไม่ได้เลย ถ้าไม่ได้รับพระบารมีปกเกล้าจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานกำลังใจ รวมถึงสิ่งของ อุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งตนเองและเจ้าหน้าที่น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น


ความสำเร็จของภารกิจครั้งนี้กุญแจที่สำคัญที่สุด คือ “ความสามัคคี” ทั้งในและต่างประเทศ มันเกินคำว่า กู้ภัย กู้ชีพ มันคือ “United” ไม่ว่าชนชาติใด อยู่ตรงนี้เพื่อช่วยน้องๆ ทลายภาษา เชื้อชาติ เพื่อทุกคนบรรลุเป้าหมายเดียวกัน สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ “ความร่วมมือ” ด้านเทคโนโลยี ความรู้ อุปกรณ์ต่างๆ เราแลกเปลี่ยนอุปกรณ์ เครื่องมือใช้ในภารกิจเดียวกัน ซึ่งภารกิจสุดท้าย “การส่งกลับ” ยังต้องดำเนินการอยู่ น้องๆ ถูกส่งไป รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ที่ดูแลอย่างดี ส่วนพื้นที่ก็ส่งมอบต่อกรมอุทยาน สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ดูแลต่อไป สำหรับอุปกรณ์ต่างๆ ก็ต้องคืนหน่วยงานต่อไป

สิ่งสำคัญที่จะทำต่อไป คือ การถอดบทเรียน เป็นครั้งแรกในโลกของการกู้ภัยผู้สูญหายในถ้ำที่มีน้ำเต็ม ซึ่งแทบไม่มีทางเป็นไปได้ เราจะถอดบทเรียน บางส่วนไปสอนเด็กๆ ให้รู้ถึงอันตรายของน้ำ ของถ้ำ บางส่วนหน่วยงานไปพัฒนาวิธีกู้ภัย บางส่วนคือผลกระทบต่อชาวไร่ชาวนาในพื้นที่ ซึ่งเราก็ได้สำรวจแล้ว


นอกจากนี้ ต้องขอโทษสื่อมวลชน ที่ต้องเข้มข้นในการควบคุมพื้นที่ ในสภาวะวิกฤติในความเป็นตายของ 13 ชีวิต จะตัดสินใจอะไร อยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัยของน้องๆ อาจล่าช้าไป แต่ข่าวที่ออกจากศูนย์ฯ จริง 100% เป็นบทเรียนในการทำงานของราชการให้ยืนยันข่าวได้เร็วกว่านี้

นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในสื่อออนไลน์ บางครั้งบอกว่าน้องเป็นพระเอกบ้าง ผู้ร้ายบ้าง แต่เราไม่เคยมองว่าเขาเป็นอะไร แต่มองว่าเป็นเด็กน้อย ที่ปฏิบัติไปตามวิสัยของเด็ก แต่เกิดเหตุสุดวิสัย น้ำมาทำให้ไปติดอยู่ในนั้น แต่เชื่อว่าเด็กจะเติบโตและเรียนรู้จากเรื่องนี้ และจะเติบโตขึ้นเป็นคนดี และตอบแทนสังคมที่ช่วยเหลือเหลือเขาในวันนี้ หากอยู่ในฐานะที่ทำได้

การปฏิบัติการนี้เป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วน เช่น ทีมดำน้ำ เป็นชาวต่างชาติถึง 1 ใน 4 เราจะรวบรวมว่าแต่ละท่านมีศักยภาพอย่างไร เป็นฐานข้อมูล เพื่อเตรียมความพร้อม หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก จะได้ทราบว่าทรัพยากรอันทรงคุณค่าของโลกอยู่ที่ไหน รวมถึงอุปกรณ์ ส่วนถ้ำหลวงเรามีแผนจะทำเป็น “พิพิธภัณฑ์มีชีวิต” รวบรวมทุกเรื่องราวไว้ เชื่อถ้าทำสำเร็จ แม่สายจะกลายเป็นไฮไลต์ของประเทศไทย และจะเป็นประโยชน์ทั้งการท่องเที่ยวและเป็นแหล่งเรียนรู้

นอกจากนี้ วีรบุรุษตัวจริงก็คือ “จ่าแซม” หรือ จ.อ.สมาน กุนัน คือพระเอกตัวจริง วันที่ท่านเสียชีวิต เราซึมเศร้า เสียใจ แต่เราเห็นความเสียสละของจ่าแซมแล้ว เรานำจ่าแซม มาเป็นพลัง มุ่งมั่นเพื่อจะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ อีกเรื่องที่น่าเสียใจ คือ ได้รับโทรศัพท์จากออสเตรเลียว่า คุณพ่อของ นพ.ริชาร์ด แฮร์ริส เสียชีวิตในคืนที่ผ่านมา เราเสียใจอย่างสุดซึ้ง และขอขอบคุณ ณ ที่นี้ หากไม่มี นพ.แฮร์ริส เชื่อว่าปฏิบัติการของเราคงไม่สำเร็จ และฝากทุกคนเป็นกำลังใจให้ นพ.แฮร์ริส ด้วย

ด้าน พล.ร.ต.อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยซีล ระบุเรามีภารกิจและได้รับการฝึกมาในลักษณะนี้อยู่เป็นประจำ “กองทัพเรือจะไม่ทิ้งประชาชน” เป็นสโลแกนที่กองทัพเรือยึดมั่น เมื่อได้รับการร้องขอ ก็สั่งการระดมพลด่วนโดยทันที วันแรกดำผ่านสามแยกถึงพัทยาบีช เห็นแต่รอยเท้า ไม่เจอน้องๆ สภาพถ้ำไม่เคยเจอ มืดมาก ต้องถอยกลับมาเตรียมอุปกรณ์ใหม่ และฝนตกหนักมาก จากสามแยกถอยออกมาเรื่อยๆ จนถึงโถง 3 ได้รับรายงานเรื่อยๆ แต่คิดไม่ออกว่ายากขนาดไหน วันรุ่งขึ้นก็เลยลงพื้นที่ดู คืนนั้นลุยกันทั้งคืน แต่ก็สู้น้ำไม่ได้ ก็เห็นความยากลำบาก ก็เลยขอกำลังพลระลอก 2, 3 มาเรื่อยๆ 

“เราต้องถอยร่นมาเรื่อยๆ จนถึงปากถ้ำ ช่วงนั้นความหวังก็เหลือน้อย วันนั้นเป็นวันที่ 7-8 แล้ว แต่ก็ยังไม่ละความพยายาม ขณะนั้นก็มีหน่วยอื่นๆ ที่ช่วยกันสูบน้ำออก ทั้งภาครัฐ เอกชน สู้กับน้ำ แต่น้ำก็ลดแค่วันละ 1-2 ซม. สุดท้ายก็มุดน้ำถึงโถง 3 ก็พบว่ายังมีที่ว่างตั้งกองบัญชาการส่วนหน้าได้ แต่การเข้าไปก็สาหัสสากรรจ์พอตัว ก็จำเป็นต้องสู้ สุดท้ายก็ตัดสินใจเราจะสู้กับน้ำ โดยต้องหาขวดอากาศมาจำนวนมาก ช่วงแรกได้จากภาคเอกชน 200 ขวด ได้พระราชทานอีก 200 ขวด รวมถึงอุปกรณ์ดำน้ำ นำขวดอากาศวางเรียงไปในน้ำ เราจะเป็นมนุษย์น้ำ ช่วยน้องๆ ให้ได้ คนหนึ่งนำไป 3 ขวด โชคดีมีเพื่อนๆ นักดำน้ำต่างชาติมาช่วย โดยเฉพาะกลุ่มสุดท้ายเชี่ยวชาญการดำน้ำในถ้ำโดยตรง วางเบสไลน์ไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายนักดำน้ำอังกฤษก็เจอน้องๆ” พล.ร.ต.อาภากร กล่าว

ต่อมาได้ส่ง พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน หรือ ‘หมอภาคย์’ และกำลังพลที่ผ่านหลักสูตรเวชศาสตร์ใต้น้ำ รวม 4 นาย เข้าไปถึงตัวน้องๆ ต่อมาส่งไปอีก 3 นาย สุดท้ายมี 4 นาย อยู่กับน้องๆ เราก็อุ่นใจ น้องๆ น่าจะอยู่ได้เป็นเดือน คิดกันหลายวิธีที่จะนำน้องๆ ออกมา สุดท้ายมาเจอข้อจำกัด อากาศในถ้ำเริ่มน้อยลง วันแรกเหลือ 15% ก็พยายามนำอากาศเข้าไปเติม ฤดูฝนน้ำกำลังจะมา ถ้าน้ำเต็มถ้ำ เจาะภูเขาหนา 500 เมตร จะทำได้หรือไม่ สุดท้ายเราก็มีแผน โดยนักดำน้ำมืออาชีพระดับโลกที่มารวมอยู่ในบ้านเรา และแผนนี้ก็ได้รับอนุมัติจาก ผบ.ศอร. และหน่วยเหนือ สุดท้ายก็นำน้องๆ ออกมาได้ครบทั้ง 13 ชีวิต รวมถึงหน่วยซีล ภารกิจตรงนี้ยากมากจริงๆ ต่อไปต้องมีการพัฒนาบุคลากร เพื่อพร้อมรับภารกิจในหลายรูปแบบ กองทัพเรือก็จะเตรียมให้พร้อม เพราะกองทัพเรือไม่ทิ้งประชาชน 

ช่วงนี้ นายณรงค์ศักดิ์ ได้กล่าวเสริมว่า ถ้าออกซิเจนลดเหลือ 12% ก็จะเกิดอาการซึมช็อกและโคม่า คนปกติต้องใช้ออกซิเจนที่ 20% สองสิ่งที่บีบให้ต้องทำภารกิจก็คือ ปริมาณออกซิเจนที่น้อยลง กับฝนกำลังจะมา และคนที่อยู่เบื้องหลังที่สำคัญอีกหน่วย คือ “ทีมสูบน้ำ” จนน้ำลดปฏิบัติภารกิจได้ เราสูบไปทั้งหมดเกือบ 1 ล้านลูกบาศก์เมตรข้างนอก ข้างในถ้ำอีก 500,000 ลูกบาศก์เมตร แต่ละวันมีน้ำเข้ามาเติม 200,000 ลูกบาศก์เมตร เมื่อวานหลังเสร็จภารกิจ ก็มีน้ำเติมออกมามากพอสมควร อีกทีมที่สำคัญหนึ่งคือ ทีมเดินสนามหาปล่องถ้ำ ทุกทีมคือพระเอก คือจิ๊กซอว์แห่งความสำเร็จ

นพ.ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ กล่าวว่า ขอขอบคุณที่ให้กำลังใจในภารกิจนี้ ยืนยันมาตรการป้องกันและควบคุมโรคเป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพทุกประการ ผู้ป่วยอื่นๆ ไม่ได้รับผลกระทบจากภารกิจนี้เลย ย้ำทีมหมูป่าทั้ง 13 คน และเจ้าหน้าที่ซีล 4 นาย ปลอดภัย มีเพียงเด็กคนหนึ่งปอดอักเสบเล็กน้อย ที่เหลือรอผลเลือดเพื่อความปลอดภัยอีกครั้ง คาดอยู่ในโรงพยาบาล 7-10 วัน รอประเมินเป็นระยะ ก่อนกลับไปพักฟื้นที่บ้านต่อไป

ผอ.รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ยังได้เปิดเผยคลิปภาพน้องๆ ทีมหมูป่า และหน่วยซีล หลังออกจากถ้ำหลวง เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยทุกคนมีสีหน้ายิ้มแย้ม โบกมือทักทาย ชูสองนิ้ว ทุกคนถอดสายน้ำเกลือแล้ว แสดงถึงสภาพร่างกายที่แข็งแรง ส่วนสภาพจิตใจ ก็จะเห็นได้ว่าชูสองนิ้ว แต่ก็มีขั้นตอนที่จะต้องเยียวยาดูแลกันต่อไป

จากนั้นเป็นการแถลงข่าวของนายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวถึงภารกิจของกรมอุทยานฯ ในการสนับสนุน เรื่องการสูบน้ำ วางท่อเบี่ยงทางน้ำ และโพรงถ้ำ รวมถึงแผนฟื้นฟูพื้นที่บริเวณถ้ำหลวง ฟื้นฟูระบบนิเวศ ปรับภูมิทัศน์ กำหนดมาตรการรองรับผู้มาเยือน เชื่อต่อไปต้องเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับประเทศ หรือระดับโลกแน่นอน พร้อมกล่าวว่า หน่วยงานใดๆ ไม่ว่าปิดทองหน้า หรือหลังพระ ก็เป็นหน้าที่ของแต่ละคนทำไป หน้าพระ หลังพระ ก็สำคัญเพื่อเป็นองค์พระที่เต็ม เพื่อเป้าหมายเดียวคือ นำน้องๆ ออกมา เป็นองค์พระที่สวยที่สุด ไม่ว่าใครทำตรงไหนสำคัญเท่ากัน

ต่อด้วยนายกอบชัย บุญอรณะ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึงภารกิจของ ปภ. ซึ่งมีการประกาศบริเวณถ้ำหลวงเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ เพื่อให้หน่วยงานทำภารกิจได้ด้วยสะดวก และเขตให้ความช่วยเหลือ เพื่อใช้งบได้อย่างสะดวก สนับสนุนเรื่องการระบายน้ำ ร่วมกับกรมชลประทาน และจะมีการถอดบทเรียนระดับประเทศ ทำเป็นแผนเผชิญเหตุเฉพาะภัย ให้แต่ละจังหวัดไปปรับใช้ต่อไป

จากนั้นนายสุขชัย เจรียงประเสริฐ เกษตรจังหวัดเชียงราย ได้เปิดเผยถึงมาตรการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรซึ่งที่นาถูกน้ำท่วมจากภารกิจระบายน้ำ ซึ่งคาดจะจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาได้ภายในสิ้นเดือนนี้ จากงบฉุกเฉินของผู้ว่าฯ 50 ล้านบาท โดยพรุ่งนี้จะมีการนำเมล็ดพันธุ์ ปัจจัยการผลิต มาแจกเกษตกรเพื่อช่วยเหลือเบื้องต้นที่วัดสันปูเลย ต.บ้านด้าย อ.แม่สาย

ด้าน พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวถึงภารกิจของตำรวจที่ร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ ทั้งการสนับสนุนยานพาหนะ เครื่องมืออุปกรณ์ บุคลากร ดูแลความปลอดภัย การจราจร เดินสนามหาโพรง ปล่องถ้ำ พร้อมตบท้าย “หลายเชื้อชาติ หลากภาษา ต่างหน้าที่ หากร่วมใจในความสามัคคี หนทางมีสู่ความสำเร็จได้” สร้างเสียงหัวเราะให้สื่อมวลชนและผู้ร่วมแถลงข่าว

ปิดท้ายด้วย น.อ.อนันท์ สุราวรรณ์ ผู้บังคับการกรมรบพิเศษที่ 1 หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ ผู้แทนซีล ได้เล่าถึงรายละเอียดความยากลำบากในภารกิจของหน่วยซีล ท่ามกลางความมืดและสายน้ำในถ้ำหลวง ช่วงหนึ่งทีมที่เข้าไปขาดการติดต่อไปถึง 23 ชม. รวมถึงช่วงเวลาที่สูญเสีย “จ่าแซม” ก่อนจะมีการเปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวถามคำถามต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]