ม.เกษตรฯ 5 ก.ค. – ก.เกษตรฯ จัดทำยุทธศาสตร์เกษตรฯ ควบคู่ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มุ่งสร้างความเข้มแข็งภาคเกษตร เชื่อดันไทยเป็นมหาอำนาจทางการเกษตร
นายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเปิดการเสวนาเรื่อง “ไทยจะเป็นมหาอำนาจทางการเกษตร (ในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี) ได้อย่างไร” ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดทำยุทธศาสตร์เกษตรและสหกรณ์ระยะ 20 ปี (ปี 2560 – 2579) รวมทั้งแผนพัฒนาการเกษตรในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 ปี 2560 – 2564 ควบคู่กับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ประกอบด้วย 5 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ 1 การสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร กำหนดเป้าหมายให้เกษตรกรมีรายได้ 390,000 บาทต่อคน
ยุทธศาสตร์ที่ 2 การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตร กำหนดจีดีพีภาคเกษตรจะต้องเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3 ต่อปี ยุทธศาสตร์ที่ 3 การเพิ่มความสามารถในการแข่งขันภาคเกษตรด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ยุทธศาสตร์ที่ 4 การบริหารจัดการทรัพยากรการเกษตรและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลและยั่งยืน มีเป้าหมายฟื้นฟูพื้นที่การเกษตรปีละ 2 ล้านไร่ มีพื้นที่ชลประทาน 49.52 ล้านไร่ และยุทธศาสตร์ที่ 5 การพัฒนาระบบริหารจัดการภาครัฐ พัฒนาให้บุคลากรของรัฐเป็น Smart Officer และ Smart Researcher เชื่อมโยงการทำงานทุกหน่วยงานในกระทรวงเกษตรฯ โดยการปรับโครงสร้างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และปรับปรุงกฎหมายด้านการเกษตรให้ทันสมัย ซึ่งทั้ง 5 ยุทธศาสตร์นี้ คือ สิ่งที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะดำเนินการให้บรรลุผลใน 20 ปีข้างหน้า
นายลักษณ์ กล่าวว่า การพัฒนาภาคการเกษตรจาก 3.0 ไปสู่ 4.0 เพื่อเป็นเครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยจะทำให้ประชาชนมีงานทำ มีการจ้างแรงงาน และเป็นต้นแบบของประเทศอื่น ปัจจุบันภาคการเกษตรไทยยังมีปัญหาและช่องว่างเรื่องความเหลื่อมล้ำของภาคการเกษตร เกษตรกรมีรายได้ค่อนข้างต่ำ และเกิดความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นเรื่องท้าทายที่จะทำให้ภาคการเกษตรของไทยมีความเข้มแข็ง ทั้งเรื่องความสามารถการแข่งขันของเกษตรกรไทย เช่น ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ต้นทุนการผลิตสูง การขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากภาคเกษตรไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุและความเสียหายที่เกิดจากภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ รวมถึงภาวะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ แต่ภาคเกษตรไทยยังเป็นความหวังของไทยที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ต่อไปในอนาคต.-สำนักข่าวไทย