ชัวร์ก่อนแชร์ : ถอดบทเรียนจากถ้ำหลวง : การเปิดรับ-ส่งต่อข้อมูลโซเชียล


กทม. 3 ก.ค. – ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท ถอดบทเรียนด้านข้อมูลข่าวสารดิจิทัลจากเหตุการณ์ถ้ำหลวง ที่จะทำให้คนไทยรู้เท่าทันโซเชียลมากขึ้น 


ชัวร์ก่อนแชร์ : ถอดบทเรียนถ้ำหลวง เหตุใดเมืองไทยยังไม่ไร้ “ข่าวปลอม”

รายงานพิเศษ โดย ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท

“พบแล้ว 1 ศพ”

พาดหัวข่าวที่สร้างความตื่นตกใจให้ชาวไทยบนโซเชียล เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2561 มาพร้อมภาพหมู่โค้ชและเหล่านักฟุตบอลทีมหมูป่าเป็นพื้นหลังของข้อความพาดหัวสีแดงสด ตัวอักษรแบบเดียวกับหนังสือพิมพ์ชื่อดัง และภาพเล็กในกรอบมุมบนขวา เป็นศพมนุษย์ในสภาพขึ้นอืดน่าสยดสยอง


เพียงเท่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้คนไทยที่ติดตามความคืบหน้าการค้นหาทั้ง 13 ชีวิต ซึ่ง ณ ขณะนั้นยังไม่มีใครทราบชะตากรรม ต่างหลงเชื่อและรีบกดแชร์ต่อให้เครือข่ายเพื่อนได้รับทราบข่าวสำคัญ โดยไม่ทันเฉลียวใจหรือฉุกคิดพินิจดูว่า เว็บไซต์ที่นำเสนอข่าวนี้ คือ เว็บไซต์ที่สร้าง “ข่าวปลอม” อยู่เป็นประจำ

จากการติดตามเก็บข้อมูล พบว่าเว็บไซต์ข่าวปลอมแห่งนี้ มักอาศัยจังหวะที่มีประชาชนสนใจในประเด็นข่าวใหญ่ ปล่อยข่าวเท็จออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่มีคดีฆาตกรรมโหด หรือแม้แต่ช่วงที่ประชาชนรู้สึกเดือดร้อนเรื่องราคาน้ำมัน เว็บแห่งนี้ก็ยังสร้างข่าวที่ทำให้เกิดกระแสโจมตีรัฐบาล จนกระทั่งทางการดำเนินการสืบสวนสอบสวนจนพบหลักฐานชัดว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเป็นคนในประเทศเพื่อนบ้าน และอาศัยอินเทอร์เน็ตเข้ามาทำมาหากินกับความนิยมโซเชียลของคนไทย และมีการออกหมายจับมาแล้ว

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.กก 3 บก.ปอท. ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมสืบสวนจับกุม เปิดเผยว่า หลังจับกุมมาได้แล้วเมื่อเดือนพฤษภาคม ขณะนี้ผู้ต้องหาได้ขอประกันตัว และทางการกัมพูชาจะดำเนินการส่งตัวกลับมาในขั้นตอนการส่งฟ้องดำเนินคดี

เบื้องหลังข่าวปลอม ยังคงเป็น “เงิน”

เมื่อปี 2559 ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท เผยแพร่รายงานพิเศษชุด “แฉเว็บปลอม” เจาะลึกกลไกเทคนิคที่ผู้สร้างเว็บปลอมใช้หลอกลวงคนไทย ประกอบด้วย การสร้างข่าวปลอมที่น่าตกใจ โดยใช้ภาพประกอบที่ไม่เกี่ยวข้อง เผยแพร่บนเว็บไซต์ข่าวปลอม แล้วนำไปแชร์ต่อบนเครือข่าย Facebook โดยจุดมุ่งหมายหลักคือให้บุคคลทั่วไปหลงเชื่อและคลิกเข้ามาอ่าน รวมทั้งแชร์ต่อ ซึ่งกระบวนการนี้ทำให้เกิดยอดผู้คลิกเข้าชมแต่ละครั้งเป็นจำนวนมาก

“อย่าคลิก! อย่าแชร์! อย่าสนใจ! ไม่ว่าคุณจะคลิกเข้าไปดู หรือคลิกเข้าไปด่า คุณก็ตกเป็นเหยื่อแล้ว” เป็นคำเตือนสรุปรวบยอดสิ่งที่พึงปฏิบัติ ซึ่งศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ แนะนำอยู่บนแผ่นภาพอินโฟกราฟิกเตือนภัยข่าวปลอมทุกชิ้นที่นำเสนออย่างต่อเนื่อง เพราะผู้สร้างข่าวปลอมเหล่านี้ต้องการเพียงแค่ให้มีคนเข้าไปอ่านจำนวนมาก เพิ่มโอกาสการเห็นและคลิกโฆษณาเท่านั้น

หากเปรียบเทียบในเชิงเทคนิคเบื้องหลัง พบว่า เว็บปลอมในช่วงปี 2560-2561 มีลักษณะกลไกการทำงานเปลี่ยนไปจากเดิมที่ใช้วิธีการซ่อนโฆษณาแฝงไว้ซึ่งผู้คลิกเข้าไปไม่มีโอกาสได้เห็น เปลี่ยนมาเป็นการติดแบนเนอร์โฆษณาจำนวนมากหลายตำแหน่งแทน แต่อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์สุดท้ายก็ยังคงเป็นเม็ดเงินจากโฆษณาออนไลน์ที่นำมาติดให้ปรากฏนั่นเอง

จุดที่น่าสังเกตคือ การติดโฆษณาอย่างเปิดเผยบนหน้าเว็บข่าวปลอม แม้โฆษณาเหล่านั้นจะเป็นที่รับรู้กันว่าถูกสุ่มแสดงขึ้นมาโดยอัตโนมัติโดยระบบของตัวแทนโฆษณา เช่น Google Ads แต่ก็อาจส่งผลกระทบต่อแบรนด์ขนาดใหญ่ที่ถูกระบบนำโฆษณามาแสดงได้ ประชาชนบางส่วนอาจจะมองว่า แบรนด์เหล่านั้นสนับสนุนการเผยแพร่ข่าวปลอม

เมื่อสอบถามไปที่ทีมงาน Google Ads ก็ยังคงได้รับการยืนยันว่า ไม่มีนโยบายการสร้างรายได้ให้กับเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จและข่าวปลอมแต่อย่างใด ซึ่งนอกจากการกดรายงานที่ตัวโฆษณาเองแล้ว ระบบยังได้เปิดหน้าเว็บไซต์เพื่อให้รายงานเว็บไซต์ที่นำเสนอข้อมูลเท็จเข้าไปให้ทีมงานได้รับทราบโดยตรง ประชาชนทั่วไปสามารถค้นหาไปที่หมวด “การช่วยเหลือ” ของ Google Ads ได้

ไม่ใช่แค่ข่าวเดียว…

จากการเฝ้าระวังข่าวปลอมบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ พบว่าเพียงแค่ในช่วง 2 สัปดาห์ของเหตุการณ์ “ถ้ำหลวง” เว็บไซต์สร้างข่าวปลอมได้ปล่อยข่าวปลอมออกมาอย่างน้อย 8 ข่าว เฉลี่ยมีข่าวปลอมออกสู่ระบบวันเว้นวัน ระดับความเชื่อและปริมาณการแชร์ต่อก็แตกต่างกันไป 

หลายครั้งจะมีเสียงบ่นก่นต่อว่าจากผู้เสพข้อมูลไล่หลังข่าวปลอมแต่ละข่าว เหมือนราวจะหลาบจำกับข่าวปลอมที่ตนเองพลาดแชร์ไป แต่จนแล้วจนรอด ผ่านไปไม่กี่วัน สังคมโซเชียลก็ตกเป็นเหยื่อข่าวปลอมอีกครั้ง

“ตายอีกแล้ว! ซีล ศพ 2”

ข่าวปลอมนี้ฉวยโอกาสเผยแพร่เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2561 หลังสังคมเพิ่งสะเทือนใจกับการสละชีวิตของจ่าเอกสมาน กุนัน มีผู้คนแชร์กันมากมาย ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ เร่งนำเสนอแผ่นภาพเพื่อเตือนกับดักให้ประชาชนทราบ แต่ก็ยังพบข้อความแชร์ด้วยความโกรธเคืองว่าทางการสั่งปิดข่าว ข่าวปลอมนี้จุดกระแสต่อไปอีกอย่างน้อย 2 วัน โดยบัญชีไลน์ “ข่าวจริงประเทศไทย” ของกรมประชาสัมพันธ์ ที่เพิ่งกลับมาเคลื่อนไหวได้ไม่นาน ก็ได้เผยแพร่ว่าข่าวนี้เป็นข่าวปลอม เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2561

เทคโนโลยีและเหยื่อ เอื้อให้ไทยยังมีข่าวปลอม

จะเห็นได้ว่าการที่ข่าวปลอมยังคงเกิดขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะเมื่อจับตาแค่ช่วงเวลาที่เกิดปรากฏการณ์ถ้ำหลวงนั้น ปัจจัยยังคงเป็นไปตามหลักอุปสงค์อุปทาน “เมื่อมีคนเสพ ก็ย่อมมีคนผลิต”

ในเมื่อการสร้างเว็บปลอมสักแห่งนั้น มีค่าใช้จ่ายน้อยมาก ยังไม่มีโทษทางกฎหมายที่หลาบจำ และคนไทยยังตกใจเชื่อและแชร์อะไรต่อได้ง่าย จึงไม่แปลกที่ผู้สร้างยังพร้อมจะหารายได้ด้วยวิธีเช่นนี้ต่อไป

…และไม่ได้มีแค่ข่าวปลอม

จากการเฝ้าระวังข้อมูลข่าวสารเท็จบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ยังพบว่ามีข้อมูลเท็จ ข้อมูลคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวอีกหลายหัวเรื่อง ซึ่งเมื่อรวมกับข่าวปลอม 8 เรื่องแล้ว ทำให้จำนวนข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือในช่วงเวลาดังกล่าวมีมากกว่า 20 หัวเรื่อง ซึ่งเกิดจากทั้งการเจตนาจงใจ และ ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อาทิ

ข่าวปลอม 8 ข่าว

ข่าวที่เกิดจากความเข้าใจผิด เช่น คลิปกู้ภัยเผยว่าพบปล่องที่ไปถึงตัวเด็ก

ข่าวกุเกินจริง เช่น กุข่าวดราม่าถ้อยคำโค้ชเอก

ข่าวลือที่ไม่มีมูล เช่น การเชื่อมโยงกับเครือข่ายยาเสพติด

การใช้ภาพหรือคลิปผิดบริบท เช่น การใช้ภาพจากการทดสอบวัดอุณหภูมิมาอ้างว่าเป็นภาพจากภายในถ้ำ

การใช้ภาพหรือคลิปเก่า เช่น ภาพเด็กที่เคยถ่ายในถ้ำไว้ก่อนหน้านี้มาแชร์อ้างว่าเป็นภาพตอนที่ค้นพบ นำคลิปการซ้อมกู้ภัยในต่างประเทศมาอ้างว่าเป็นคลิปจากเหตุการณ์นี้

ปรากฏการณ์ถ้ำหลวง ในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2561 นี้ นอกจากจะเป็นเวทีความร่วมใจจากนานาชาติแล้ว ยังเป็นช่วงเวลาที่ช่วยสะท้อนภาพชัดของสถานการณ์ความอ่อนไหวต่อข้อมูลข่าวสารเท็จในสังคมไทย ที่ยังพร้อมจะเกิดขึ้นและแพร่กระจายได้ทุกเมื่อ

เพิ่มเพื่อน
วิธีการ • Add LINE ของสำนักข่าวไทย เข้าไปที่เพิ่มเพื่อน แล้วพิมพ์ @TNAMCOT ถ้าได้รับแชร์อะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาให้เราตรวจใน “ชัวร์ก่อนแชร์” พบกับสกู๊ปข่าวนี้ได้ในข่าวค่ำสำนักข่าวไทยทุกวัน 

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“เท้ง” นำทีม ปชน.ยื่นร่างแก้รัฐธรรมนูญ 3 ฉบับ

รัฐสภา 7 ก.ค.- “เท้ง” นำทีม สส.ปชน. ยื่นร่างแก้รัฐธรรมนูญ 3 ฉบับ มุ่งสร้างศาลรัฐธรรมนูญ-องค์กรอิสระ ยึดโยงประชาชน หวังรัฐสภาให้ความเห็นชอบ ปลดชนวนระเบิดเวลาการเมืองไทย ด้าน “พริษฐ์” เผยยังไม่คุย “ภูมิใจไทย” ชี้ให้เวลาพิสูจน์จุดยืน บอกให้ดูการกระทำ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อม สส.พรรคประชาชน แถลงข่าวการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า หลายเหตุการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมา เช่น การยุบพรรคตัดสิทธินักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง ความล้มเหลวในการแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน คำถามต่อการตรวจสอบคดีการโกงการเลือก สว. หรือการขาดความรับผิดรับชอบจากกรณีตึก สตง. ถล่ม ล้วนมีต้นตอมาจากการออกแบบศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระที่ถูกขยายขอบเขตอำนาจในการตรวจสอบสถาบันทางการเมืองอื่น แต่กลับมีที่มาที่ไม่ยึดโยงกับประชาชน รวมถึงขาดกลไกที่จะถูกประชาชนตรวจสอบได้โดยตรง ซึ่งการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับจะต้องมีการหารือร่วมกันทุกฝ่ายใน ส.ส.ร. แต่พรรคประชาชนเห็นว่ารัฐสภาเดินหน้าแก้ไขได้บาง มาตรา โดยเป็นการแก้ไขแบบคู่ขนานกันไป ขณะที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน กล่าวว่า สำหรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เรายื่นในวันนี้ มุ่งสู่การสร้างศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระที่ไม่เป็นอิสระจากประชาชนโดยแบ่งออกเป็น 3 ร่าง ร่างที่ 1 เป็นการ […]

สั่งระงับงานก่อสร้างในพื้นที่สถานีสูบจ่ายน้ำมีนบุรี

กทม. 7 ก.ค. – เขตมีนบุรี สั่งระงับงานก่อสร้างภายในพื้นที่สถานีสูบจ่ายน้ำมีนบุรี ซอยนิมิตใหม่ 6 จนกว่าเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบโครงสร้าง-สาเหตุเหล็กล้มลงแล้วเสร็จ ด้าน กปน. ออกแถลงการณ์ ยืนยันไม่กระทบโครงสร้างอาคาร พร้อมเยียวยาผู้บาดเจ็บ ภาพจากกล้องวงจรปิด เผยนาทีโครงเหล็กภายในไซต์งานก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำของการประปานครหลวง (กปน.) ค่อยๆ เอนแล้วก็ล้มลงมา ทำให้คนงานที่นั่งทำงานอยู่บนนั้นได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (6 ก.ค.) ภายในสถานีสูบจ่ายน้ำมีนบุรี ซอยนิมิตใหม่ 6 เขตมีนบุรี ขณะเกิดเหตุมีคนงานปฏิบัติงานอยู่ 160 คน ออกมาภายนอกได้ทั้งหมด โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 12 คน ล่าสุดวันนี้ นายศักดิ์ชัย ใสสุข ผู้อำนวยการเขตมีนบุรี เข้าตรวจสอบพื้นที่ โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) สำนักงานประกันสังคม กรมสวัสดิภาพและคุ้มครองแรงงาน ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยไม่ได้อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปด้านใน ให้อยู่ด้านนอกรั้วเท่านั้น ผู้อำนวยการเขตมีนบุรี ออกมาเปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการก่อสร้างบ่อเก็บน้ำขนาดใหญ่ เพื่อใช้ในการจ่ายน้ำของสถานีสูบจ่ายน้ำมีนบุรี กปน. โดยมีขนาดกว้าง […]

ชาวกัมพูชาแห่ขึ้นปราสาทตาควาย มากผิดปกติ

7 ก.ค. – ชาวกัมพูชา แห่ขึ้นปราสาทตาควาย ร่ายคาถาภาษาเขมร ทำพีธีเซ่นไหว้ ด้านคนไทยหวังดี เตือนคุณตาวัย 76 พิการขา เดินดีๆ แต่เจอตอบสวน “ถึงจะล้ม ก็ล้มบนผืนแผ่นดินกัมพูชา” บรรยากาศที่ปราสาทตาควาย มีนักท่องเที่ยวกัมพูชา มาท่องเที่ยวมากผิดปกติกว่า 200 คน ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาตลอดทั้งวัน โดยชาวกัมพูชา นำเครื่องเซ่นไหว้ เข้าไปในตัวปราสาทควาย บริเวณจุดทำพิธี ทำพิธีอะไรเป็นภาษาเขมร ระหว่างนั้นมีชายชาวกัมพูชา ขาด้วนหนึ่งข้างอายุ 76 ปี มาจากจังหวัดเสียมเรียบ ใช้ไม้ค้ำประคองตัวเอง เพื่อที่จะขึ้นบันไดปราสาท ด้วยความหวังดีคนไทยกลัวว่าชายขาด้วนจะลื่นล้ม เพราะตะไคร้น้ำขึ้นตามบันไดหนาแน่น เลยเตือนว่า “ระวังลื่นล้มน่ะตาเดินดีๆ” ยังไม่ทันพูดจบ แทนที่ชายขาด้วนจะขอบคุณ ตอบกลับมาว่า “ถึงจะล้มก็ล้มบนผืนแผ่นดินกัมพูชา” นอกจากนี้ เกิดการโต้เถียงกันระหว่างนักท่องเที่ยวกัมพูชากับนักท่องเที่ยวไทย รวมไปถึงทหารฝั่งกัมพูชาและทหารฝั่งไทย หลังจากนักท่องเที่ยวกัมพูชาเอาผ้าพันคอที่มีสัญลักษณ์ธงชาติกัมพูชาเข้ามาแสดงสัญลักษณ์ เจ้าหน้าที่ไทยห้ามปรามจนเกิดปากเสียงกัน แต่ไม่ได้บานปลายเพียงก่อกวน.-สำนักข่าวไทย

“พิชัย” เผยไทยยื่นข้อเสนอเจรจาภาษีเพิ่มเติมถึงสหรัฐเมื่อคืน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“พิชัย” เผยไทยยื่นข้อเสนอเจรจาภาษีเพิ่มเติมถึงสหรัฐเมื่อคืน ลุ้นขยายเส้นตายออกไปจนถึง 1 ส.ค. ชี้การเจรจายังไม่จบ และข้อเสนอที่ส่งไปยังปรับปรุงได้ตลอด นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเจรจาภาษีกับสหรัฐว่าในส่วนของประเทศไทยได้มีการยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมให้ทางสหรัฐพิจารณาไปตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยข้อเสนอที่ยื่นไปอยู่บนหลักเกณฑ์เดิมที่เราเคยยื่นไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามการที่เราเดินทางไปเจรจาก่อนหน้านี้ ข้อเสนอที่มีอยู่ไม่ถึงขนาดที่ต้องแก้ไขอะไรใหม่ เพียงแต่ว่าเราไปฟังความเห็นของสหรัฐเองว่ามีรายการไหนที่เขาสนใจเป็นพิเศษ เราก็นำกลับมาดูอีกครั้งและปรับปรุงเท่าที่เราทำได้แล้วส่งไปให้พิจารณาใหม่ โดยเป็นการยื่นในเรื่องอัตราภาษีและสินค้า ซึ่งก็ยังมีเรื่องอื่นๆที่เขานั่งดูอยู่ที่ไม่เกี่ยวกับอัตราภาษี สหรัฐก็กำลังพิจารณาอยู่ ซึ่งจริงๆแล้วเมื่อเขาประกาศออกมาเท่าไหร่ก็ยังไม่จบสามารถที่จะปรับปรุงไปได้เรื่อยๆ เมื่อถามว่าอัตราภาษีที่ไทยจะถูกเก็บจากสหรัฐยังคาดหวังที่ต่ำกว่า 18% ใช่หรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่าขณะนี้ประเทศที่ได้เจรจาแล้วยังมีจำนวนน้อย ตอนนี้ก็ต้องดูว่าจากข่าวที่ออกมาว่าอาจมีการเลื่อนออกไปจนถึง 1 ส.ค. ถึงจะกำหนดอีกครั้งหนึ่งว่าประเทศที่เหลือที่เจรจาแล้ว จะแล้วเสร็จเมื่อไหร่ เมื่อถามว่าเราจะยอมเหมือนเวียดนามให้เขานำเข้าแบบเสียภาษีศูนย์เปอร์เซ็นต์ได้หรือไม่ นายพิชัย ตอบว่าอย่างที่บอกไปแล้วว่าเราต้องใช้หลักในการเปิดใจคุยกันด้วยความปรารถนาที่ดี เขามีอะไรที่อยากได้ แล้วเราก็เอารายการที่เคยซื้อสินค้าจากสหรัฐทั้งหมดมาดูอีกครั้ง ดังนั้นถามว่าเป็นอย่างไรในเรื่องการนำเข้าสินค้าเพิ่ม เราก็ต้องดูแลผู้ผลิตสินค้าในไทยด้วย ส่วนเรื่องของสินค้าสวมสิทธิ์เป็นเรื่องในหลักการอยู่ในข้ออื่นๆ ที่เขาก็ดูอยู่ ซึ่งประเทศไทยเราเองก็ทำงานในเรื่องนี้ บางเรื่องเราก็ให้สหรัฐมาทำงานร่วมกัน เข้ามาดูด้วยกันซึ่งกติกาแบบนี้ต้องทำต่อเนื่องตอนนี้ยังไม่จบ ถามต่อว่าประเทศไทยจะอยู่ในกลุ่มที่สหรัฐส่งจดหมายแจ้งอัตราภาษีที่จะต้องเสียเพิ่ม หรืออยู่ในกลุ่มที่ได้คุยต่อ นายพิชัย กล่าวว่าเรื่องนี้ต้องรอดูก่อนว่าเขาว่าอย่างไร ซึ่งอีก 2 -3 วันก็จะได้ความชัดเจน.-314.-สำนักข่าวไทย