ศธ.จัดครูสอนเสริมให้เรียนทันเพื่อน หลังเด็กออกจากถ้ำ

ศธ.3 ก.ค.-สพฐ.ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยค้นหาเเละดูเเล 13 เยาวชนส่วนเรื่องเรียนย้ำเรียนทันเพื่อนแน่นอนจัดครูสอนเสริม พร้อมถอดบทเรียน ให้ครูนำเหตุการณ์นี้สอนเด็ก เน้นเรื่องทักษะชีวิต เรียนรู้ภัยพิบัติมากขึ้น


 

นายบุญรักษ์  ยอดเพชร  เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการกพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)เปิดเผยถึงมาตรการช่วยเหลือฟื้นฟูเด็กเเละโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมี่รวม 13 คน ที่สูญหายในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนเเละดึกวานนี้ได้พบตัว ซึ่งทั้งหมดปลอดภัยดี ว่า ตนดีใจ เเละห่วงใยเด็กเเละโค้ช ที่ผ่านมา นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เเละคอยให้ความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ โดยในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)ได้ร่วมกันระดมเงินจากน้ำใจของครูทั่วประเทศเป็นจำนวนเงินกว่า 6 เเสนบาท ซึ่งเบื้องต้นได้มอบให้สพป.เขต3 เชียงราย นำเงินมอบให้กับทั้ง 13 ครอบครัว ครอบครัวละ 1 หมื่นบาท ส่วนเงินที่เหลือกว่า 5 เเสนบาทจะนำไปใช้ในการฟื้นฟูเด็กต่อไป ซึ่งจะเเบ่งเป็นส่วนใดบ้าง เขตพื้นที่การศึกษาจะนำไปประชุมกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป 


ส่วนเรื่องการเรียนนั้น เเม้เด็กจะขาดเรียนกว่า 1 สัปดาห์เเละอยู่ในช่วงใกล้สอบกลางภาค เเต่ตนมองว่าไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่เเต่อย่างใด ได้จัดครูให้มีการสอนเสริมเพื่อให้เด็กได้เรียนทันเพื่อนทุกคน บางวิชาที่เน้นเนื้อหา ก็สามารถอ่านทันได้ เด็กจะไม่ได้รับผลกระทบเรื่องการเรียนอย่างแน่นอน ส่วนโค้ชวัย25 ทราบว่าไม่ได้เป็นข้าราชการเเต่สังกัดเอกชน ซึ่งมีหน่วยงานต้นสังกัดดูเเลอยู่แล้ว 


นายบุญรักษ์ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนที่มีค่ามากที่สุด หลังจากนี้ สพฐ.เเละครูต้องถอดบทเรียน นำเรื่องที่เกิดขึ้นมาให้เด็กได้เรียนรู้ทั้งเรื่องของประวัติศาสตร์ ภัยพิบัติ ทักษะชีวิตหรือการผจญภัยในถ้ำ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมเเละป้องกันไม่ให้เกิดเหตุที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นอีกในอนาคต เเต่สิ่งหนึ่งที่น่าศึกษาจากเด็กทั้ง13 คนคือการอยู่ร่วมกันเป็นทีม จนทำให้ทุกคนมีความสุข มีกำลังใจที่ดีเเละปลอดภัย ต้องขอบคุณโค้ชที่ดูเเลลูกทีมได้เป็นอย่างดี เเม้จะมีกระเเสวิจารณ์ว่าโค้ชเป็นคนนำเด็กไปติดถ้ำก็ตาม หากไม่ได้โค้ช สถานการณ์บางอย่างอาจจะเเย่ลง ทั้งนี้ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่คอยค้นหาเเละดูเเลเด็กเป็นอย่างดี รวมถึงเเรงใจจากคนทั้งประเทศ .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย