นายกฯ ย้ำคนไทยในสหรัฐฯ จำเป็นต้องปฏิรูปประเทศใหม่ทุกด้าน

435นครนิวยอร์ก 22 ก.ย.-นายกรัฐมนตรีพบคนไทยในสหรัฐฯ ขอบคุณที่มาให้กำลังใจ แจงผลงานรัฐบาลตลอด 2 ปี ย้ำต้องปฏิรูปประเทศใหม่ทุกด้านเพื่อวางรากฐานให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในอนาคตต้องสานต่อ เพื่อประเทศมั่นคงมั่งคั่ง


“จิตตานันท์ นิกรยานนท์” ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ที่ติดตามภารกิจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 71 ระหว่างวันที่ 18-25 กันยายน 2559 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เวลา 14.00 น. วันที่ 22 กันยายน ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 11 ชั่วโมง นายกรัฐมนตรีได้ใช้โอกาสในการเดินทางมาร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ พบปะคนไทยในสหรัฐฯ

“การที่คนไทยในสหรัฐฯ มาต้อนรับในวันนี้ ถือเป็นเกียรติต่อผมและครอบครัวอย่างมาก วันนี้พาหัวใจคนไทยมาด้วย  ขอบคุณที่มาให้กำลังใจ แม้ว่าจะมาอยู่สหรัฐฯ นานแล้ว แต่ไม่เคยลืมประเทศที่รัก เพราะเป็นที่เกิด” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยมีอิสระ ยืนด้วยความภาคภูมิใจในแผ่นดิน และต้องช่วยกันพัฒนาประเทศของเรา ต้องมองประเทศที่เจริญกว่าเรา ที่ผ่านมา มีปัญหาเพราะงบประมาณจำกัด และถูกนำไปใช้ไม่ถูกต้อง ทำให้การดำเนินการล่าช้า ไม่ถูกต้อง ทำให้เราไม่สามารถหลุดพ้นไปจากประเทศที่มีรายได้ปานกลางได้ อย่างที่ควรจะเป็นประเทศมีรายได้สูงได้แล้ว

431“วันนี้สถานการณ์ประเทศสงบ ถือว่าดี สามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างที่ควรใช้ แต่ไม่ใช่จะอยู่กันด้วยกฎหมาย คนส่วนใหญ่เขาไม่เดือดร้อนกับกฎหมายของผม มาตรา 44 กฎอัยการศึก เขามีไว้สำหรับบังคับผู้ร้าย ถ้าใครไม่ใช่ผู้ร้าย ไม่ต้องเดือดร้อน ไม่เห็นประชาชนตกใจเลย ผมใช้ม 44 เพื่อบูรณาการแก้ปัญหาที่มีอยู่ เพราะการทำงานติดขัดหลายอย่าง เพราะไม่ได้รับการแก้ไข จึงต้องพัฒนากฎหมายทุกด้าน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีกล่าวอยู่ มีคนพูดแทรกขึ้นมาว่า “ขอให้นายกรัฐมนตรีอยู่นานๆ” นายกรัฐมนตรี ตอบว่า ขอบคุณ แต่เราไม่รู้อนาคต จึงต้องวางอนาคตร่วมกัน  และว่า “เขาพูดว่าสถานการณ์สร้างวีรบุรุษ  แต่ผมไม่ต้องการเป็นวีรบุรุษแบบนี้ แต่จำเป็นต้องเข้ามา และทำให้ดีที่สุด เพราะถ้าเข้ามา แล้วออกไป ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็กลายเป็นว่า เข้ามาแล้วเสียของ”


นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงการทำงานของรัฐบาลในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยย้ำว่า ต้องปฏิรูปทุกด้าน ทั้งเรื่องงบประมาณ ออกกฎหมายใหม่ แก้ไขกฎหมายเดิมที่มีอยู่เพื่อให้ทันกับสถานการณ์ปัจจุบัน  ด้านการศึกษา การคมนาคม เทคโนโลยี วางรากฐานให้ประเทศเกิดความมั่นคง ให้ประชาชนมีความมั่งคั่ง นอกจากนี้ ยังได้แก้ปัญหาผู้ลี้ภัย ปัญหาการค้ามนุษย์ การแก้ไขปัญหายาเสพติด การบุกรุกป่า จัดระเบียบบ้านเมือง จราจร อาชญากรรม

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งเหล่านี้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่ได้ลงรายละเอียด เพราะต้องใช้กฎหมาย จึงไม่มีความจริงจังในการแก้ไขกฎหมาย อะไรเป็นเรื่องสลับซับซ้อน ก็ไม่ค่อยแก้กัน แต่จำเป็นต้องทำ บ้านเมืองต้องอยู่ด้วยการลดความเหลื่อมล้ำ ให้ความเป็นธรรม ไม่เช่นนั้นปัญหาทุกอย่างจะกลับมาอีกเป็นวงจรอุบาทว์

“มันต้องสร้างที่จิตสำนึก ต้องปลูกฝังอุดมการณ์ แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องเกิดจากใจ ความคิด ค่านิยมที่หลงลืมไปหมด ซึ่งไม่มีใครพูด จะพูดแต่สิ่งที่เขาอยากทำ ทำแล้วประชาชนชื่นชอบนิยม เลือกตั้งให้เขาเข้ามาบริหารประเทศ เป็นวัฒนธรรมที่ยาวนาน เราจึงต้องคิดว่าทำอย่างไรให้ประเทศมั่นคง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

440นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า รัฐบาลนี้ออกกฎหมายและแก้กฎหมายแล้ว 190 ฉบับ เพื่อป้องกันช่องทางที่จะนำไปสู่การทุจริต กฎหมายที่อำนวยความสะดวกให้ประชาชนด้านต่าง ๆ เพื่อลดขั้นตอนการติดต่อและลดการใช้กระดาษ ถ้าเราอยากเห็นประเทศไทยก้าวหน้าด้วยความมั่งคั่งยั่งยืน จึงต้องปฏิรูปประเทศทุกด้าน ทั้งระบบราชการ ระบบบริหารราชการแผ่นดิน กฎหมาย เศรษฐกิจ สังคม การดูแลทรัพยาการธรรมชาติ กระบวนการยุติธรรมและการต่างประเทศ

“ผมเห็นใจข้าราชการ แต่อยู่ที่รัฐบาลว่าจะมีวิสัยทัศน์ที่จะพัฒนาให้ความก้าวหน้า บ้านเราเปลี่ยนรัฐบาลบ่อย นักการเมืองเอาชนะกันด้วยนโยบายของพรรค ซึ่งเป็นปัญหาประเทศ เพราะมีการใช้จ่ายงบประมาณของประเทศไปในสิ่งที่ต้องการสร้างความนิยม เพราะฉะนั้นจึงต้องมีแผนยุทธศาสตร์ชาติ รัฐบาลที่เข้ามาจะต้องเดินหน้าตามยุทธศาสตร์ชาติ ตามแผนสภาพัฒน์ฯ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงสอนให้ประชาชนทำอะไรอย่างมีเหตุ มีผล พอประมาณ มีภูมิคุ้มกันในการดำเนินการเรื่องต่าง ๆ ไม่ใช่สอนให้ประชาชนต้องจน  นอจากนี้นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกลไกประชารัฐ ที่จะเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะการแปรรูปผลิตผลทางการเกษตร

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงด้านต่างประเทศ ว่า รัฐบาลได้รับการยอมรับจากต่างประเทศมากขึ้น แม้จะพูดไม่ได้ว่ายอมรับ เพราะติดที่ที่มาของรัฐบาลและความเป็นโลกประชาธิปไตย เขาพูดชื่มชมไม่ได้ แต่เขายอมรับเมื่อเห็นผลงานรัฐบาล

“การอ่านหนังสือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แต่คนไทยไม่ชอบอ่านหนังสือ อ่านแต่ใน Google ซึ่งตอบเพียง 2-3 บรรทัด ทำให้ไม่เกิดการเรียนรู้ เมื่อไม่รู้จึงไม่ภาคภูมิใจ อาทิ เรื่องประวัติศาสตร์ เพราะพระราชประวัติของแต่ละพระองค์ไม่ใช่แค่สองบรรทัด แล้วจะภูมิใจกันหรือไม่ว่าท่านทรงเสียสละอะไรมาบ้าง จึงไม่รักสถาบันกัน วันนี้สถาบันทรงมีพระชนมายุมากขึ้น ไม่คิดหรือวว่าท่านรอคอยอะไร รอคอยสิ่งที่ทรงทำให้เราตลอดว่าจะเกิดการสานต่ออย่างไร เราต้องช่วยกันทำให้ท่านมีความสุขบ้าง ที่ผ่านมาท่านทรงทำให้คนไทยมาตลอดพระชนมชีพของพระองค์” นายกรัฐมนตรี กล่าว

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ตอบคำถามของคนไทยที่มาเข้าพบ โดยกล่าวถึงการออกเสียงปรชามติร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา กรณีที่ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญว่า ไม่รู้สึกโกรธ แต่โกรธคนที่บิดเบือนข้อมูลต่อประชาชนมากกว่า โดยเฉพาะประเด็นเรื่องศาสนาที่ตัดตอนเพียงบางข้อความ จนทำให้เกิดความเข้าใจผิด แต่เชื่อว่าวันนี้ประชาชนมีความเข้าใจมากขึ้นแล้ว ส่วนเรื่องการเลือกตั้งในต่างประเทศที่มองกันว่าไม่คุ้มค่า ต้องให้กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณา ส่วนคำถามเรื่องข้อห่วงใยว่าวงจรเดิม ๆ จะกลับมาว่า ต้องดูแลการเลือกตั้งให้มีความบริสุทธิ์ ยุติธรรม

นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด ต้องแก้ไขตั้งแต่การบริหารจัดการ แยกระหว่างผู้เสพกับผู้จำหน่าย ให้ความรู้ อาชีพแก่ผู้ที่ต้องโทษเพื่อให้ออกมาประกอบอาชีพได้ ไม่ใช่การสร้างเรือนจำเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ขณะเดียวกันอาจใช้ระบบติดตามตัวผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวแล้ว ทั้งนี้การแก้ไขปัญหายาเสพติด จะต้องแก้ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้กระทรวงยุติธรรมสร้างเครือข่ายการทำงาน โดยประสานกับต่างประเทศ อาทิ รัสเซียและอินเดีย ส่วนการลดระดับการขึ้นบัญชียาเสพติดบางประเภท ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะบางครั้งอาจเกิดการต่อต้านได้

433นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามถึงการใช้เวลาพักผ่อน พร้อมกับหันไปมองนางนราพร จันร์โอชา ภริยา ว่า คือการได้กลับบ้านไปอยู่กับครอบครัว ได้นอนพักสักนิด แต่เดี๋ยวก็มีโทรศัพท์ มีข้อความส่งมาไม่หยุด ฟ้องเรื่องนั้นเรื่องนี้ และว่า “เวลาความสุขของผมสั้น แต่ก็ต้องขอบคุณครอบครัวที่เข้าใจและเป็นกำลังใจ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  นายกรัฐมนตรีได้นำหนังสือสรุปผลงานรัฐบาล 2 ปีมาแจกคนไทยด้วย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน-ตอ.-ใต้ตะวันตก ฝนฟ้าคะนอง

กรุงเทพฯ 14 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดบึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

EOD ลุยค้นหาจรวด หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง

13 ส.ค. – EOD ลุยค้นหา-เก็บกู้จรวดในพื้นที่บุรีรัมย์-ศรีสะเกษ หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง ขณะที่คณะ ICRC ลงพื้นที่เก็บข้อมูลผลกระทบเหตุปะทะ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด EOD ลงพื้นที่ตรวจสอบไร่ยางพาราของชาวบ้านและอีกหลายจุด ในเขต ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบหลุมต้องสงสัยอยู่ในที่ดินของตัวเอง จากการตรวจสอบพบสะเก็ดระเบิด และอีกหลายจุดพบเป็นหลุมคล้ายหลุมจรวด BM21 ที่ตกลงมา เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และต้องใช้ความระมัดระวัง ขณะที่ชาวบ้านที่เพิ่งเข้ามาอยู่บ้าน ยังไม่มั่นใจกับสถานการณ์ โดยเฉพาะหลังมีทหารเหยียบทุ่นระเบิดเป็นรายที่ 5 EOD เร่งตรวจสอบ–กู้ระเบิดกระสุนปืนใหญ่ชายแดน ส่วนที่ศรีสะเกษเจ้าหน้าที่ EOD สนธิกำลัง ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีพบกระสุนปืนใหญ่ตกในเขต ต.เสาธงชัย และ ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดน เบื้องต้นพบ 7 จุด บริเวณสวนยางพาราและใกล้เขตชุมชน โดยส่วนใหญ่เป็นลูกกระสุนปืนใหญ่ขนาด 100 มิลลิเมตร เจ้าหน้าที่ได้ทำการขุดตรวจพิสูจน์ พบว่าหลายลูกระเบิดไปแล้ว เหลือเพียงเศษซาก และยังพบอีก 1 จุดในพื้น […]

อึ้งพระอยู่กับสีกา เปิดบนรถเจอกองทิชชูใช้แล้ว

สกลนคร 13 ส.ค. – วงการผ้าเหลืองฉาวอีก ตำรวจตรวจรถเก๋งคันหนึ่งจอดอยู่ข้างทาง พบพระกับสีกาอยู่ด้วยกัน 2 ต่อ 2 คุยไปคุยมา สุดท้ายไปจบที่ลาสิกขา หลังตำรวจ สภ.ขมิ้น จ.สกลนคร ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน พบรถเก๋งต้องสงสัยสีดำ จอดผิดปกติบริเวณ ริมคลอง บ.พาน ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.สกลนคร เมื่อเข้าไปตรวจสอบ ตำรวจต้องอึ้ง เมื่อเจอพระอยู่กับสีกา 2 ต่อ 2 ในรถ ต่อมาทราบว่า คือ พระชัยณรงค์ อายุ 53 ปี สังกัด วัดแห่งหนึ่ง อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ จึงเชิญตัวไปยังวัดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เพื่อทำพิธีลาสิกขา และนำตัวมาตรวจปัสสาวะ ผลไม่พบสารเสพติด แต่รถที่พระเเละสีกาดังกล่าวอยู่ด้วยกัน พบเป็นรถที่ถูกสวมทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบ คืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง สภ.ขมิ้น พบรถเก๋งคันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณสถานที่เก็บของกลาง กระจกด้านข้างและด้านหลังติดฟิล์มดำสนิท แต่ด้านหน้าฟิล์มใสมองเห็นถึงภายใน ที่เบาะนั่งข้างคนขับ ยังพบกองจีวรของทิดชัยณรงค์ […]

สถานการณ์ชายแดนสุ่มเสี่ยงปะทะรอบ 2

สุรินทร์ 13 ส.ค. – กระแสข่าวจากหลายฝ่ายยืนยันตรงกันว่าระยะ 2 วันนี้ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จะเพิ่มความตึงเครียด สุ่มเสี่ยงที่จะมีการปะทะรอบ 2 ฝ่ายปกครอง จ.สุรินทร์ จึงแจ้งเตือนไปยังกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ให้ลูกบ้านเตรียมพร้อมรองรับเหตุฉุกเฉิน ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศ ในหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือน พบว่า หลายครอบครัวเพิ่งกลับเข้าพื้นที่ 1-2 วัน หลังอพยพหนีภัยการสู้รบในห้วงวันที่ 24 – 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ได้รับข่าวไม่สู้ดีนัก เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง แจ้งให้เตรียมความพร้อม เก็บสัมภาระไว้เพื่อรองรับสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงการปะทะ รอบ 2 ซึ่งอาจรุนแรงมากกว่ารอบแรก ทำให้ชาวบ้านหลายคนต่างตื่นตระหนก ต้องการอพยพไปอยู่นอกพื้นที่ แต่เมื่อผู้นำหมู่บ้านทำความเข้าใจ ก็คลายความกังวลลงบ้าง โดยสื่อสารข้อความจากนายอำเภอพนมดงรักว่า รอให้มีเสียงปะทะกันเกิดขึ้นก่อน จึงให้อพยพ ซึ่งชาวบ้านก็เชื่อฟัง เพราะส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าจะอพยพไปที่ไหน เพราะยังไม่มีการเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะที่หญิงคนหนึ่งติดอยู่ในพื้นที่สู้รบ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือนตลอดห้าวัน เพราะเป็นห่วงวัวที่เลี้ยงไว้ จึงอาศัยอยู่ในกระต๊อบพร้อมญาติรวมสี่คน และประเมินสถานการณ์ว่า น่าจะปลอดภัย เพราะวิถีกระสุนไปตกไกลกว่า จึงได้ยินเสียงปะทะอย่างชัดเจน […]