บลจ.กรุงไทย คาดสิ้นปีนี้ดัชนีหุ้นไทยกลับมายืนที่ 1,840 จุด

กรุงเทพ ฯ 2 ก.ค.  –  บลจ.กรุงไทย เชื่อมั่นเศรษฐกิจปีนี้โตร้อยละ 4.5  หนุนสิ้นปีดัชนีหุ้นไทยกลับมายืนที่ 1,840 จุด


นายสมชัย อมรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน และลูกค้าสัมพันธ์ บลจ. กรุงไทย หรือ KTAM เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังคาดว่าจะขยายตัวในอัตราชะลอลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี แต่ในภาพรวมยังเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้ถึงร้อยละ 4.5ต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่สูงเมื่อเทียบกับหลายปีที่ผ่านมาปัจจัยสนับสนุนมาจากภาคการท่องเที่ยว แนวโน้มขยายตัวของการลงทุนหลังพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2561 มีผลบังคับใช้ รวมทั้งการบริโภคที่อาจปรับตัวดีขึ้นตามการปรับขึ้นของราคาสินค้าเกษตรบางประเภท สำหรับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อยังคงเป็นขาขึ้นตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แม้ว่าอาจจะชะลอลงเล็กน้อยในช่วงครึ่งหลังจากปัจจัยทางเทคนิค ขณะที่ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน  (กนง.) น่าจะยังคงทรงตัวที่ร้อยละ 1.50     ต่อปีไปจนสิ้นปีนี้ ก่อนที่จะขยับขึ้นในช่วงต้นของปี 2562 หลังจากภาพเศรษกิจไทยมีฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม หากเศรษฐกิจขยายตัวดีกว่าคาด กนง. ก็อาจตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยตั้งแต่ปลายปีนี้ก็เป็นได้

ด้านนางแสงจันทร์ลี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ การลงทุนในตราสารทุน สายงานจัดการลงทุน บลจ.กรุงไทย กล่าวว่า ปัจจัยเสี่ยงที่จะกระทบต่อดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยคือความกังวลต่อมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐอเมริกาต่อจีนและประเทศอื่นๆ ว่าจะพัฒนารุนแรงขึ้นจนกระทบต่อปริมาณการค้าโลก สภาวะการลงทุนและการเติบโตของเศรษฐกิจโลกมากน้อยเพียงใด ประกอบกับการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดีเมื่อเทียบกับประเทอื่นๆ รวมทั้งราคาน้ำมันดิบโลกที่อยู่ระดับสูง และผลกระทบทางอ้อมต่อราคาสินค้าจากมาตราการกีดกันการค้า อาจส่งผลกระทบต่อการเร่งตัวของอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งมีผลต่อนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ปรับตัวขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์กระทบต่อการเคลื่อนไหวของเงินทุนเคลื่อนย้าย และสร้างความผันผวนต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับเพิ่มขึ้น


อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทยช่วงไตรมาสแรกมีการเติบโตที่ดีขึ้น ทำให้คาดว่าผลประกอบการของตลาดโดยรวมทั้งปีน่าจะเติบโตได้มากกว่าร้อยละ 10 ประกอบกับสภาพคล่องทางการเงินส่วนเกินในระบบของไทยยังอยู่ในระดับสูง เมื่อเทียบกับหลายๆ ประเทศที่เริ่มเข้าสู่ความเข้มงวดในเรื่องมาตรการทางการเงิน ให้คาดว่าสิ้นปีนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะกลับมายืนที่ระดับสูงสุดที่ 1,840 จุดได้ หากปัจจัยภายนอกที่เป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกคลี่คลายลง 

ดังนั้น กลยุทธ์ในการเลือกการลงทุนของบลจ.กรุงไทยจะเน้นหลักทรัพย์ในประเทศที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของการอุปโภคบริโภค และการลงทุนในโครงสร้างฟื้นฐานของประเทศ และเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และสำคัญสุดคือราคาที่เหมาะสมกับมูลค่าปัจจัยพื้นฐาน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร