ภูมิภาค 23 ก.ย. – หลังจากฝนตกติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้หลายพื้นที่ยังคงประสบกับภาวะน้ำท่วม ดินสไลด์ เขื่อนหลายแห่งต้องเร่งระบายน้ำ เพื่อป้องกันการล้นตลิ่ง
มวลน้ำจากเพชรบูรณ์ไหลบ่ามาถึง จ.นครสวรรค์ ทำให้ปริมาณน้ำจำนวนมากทะลักท่วมนาข้าวใน อ.ท่าตะโก เสียหายนับหมื่นไร่ คาดสถานการณ์จะทวีความรุนแรงขึ้นในอีก 1-2 วันนี้
ส่วนที่ จ.น่าน แม้พายุฝนเบาบาง แต่พบว่าในหลายพื้นที่มีฝนตกหนักสะสม ดินภูเขาอุ้มน้ำไม่ไหวสไลด์ลงมาปิดถนนสายต่างๆ โดยเฉพาะบ้านขุนกูน หมู่ 2 ต.ภูคา อ.ปัว มีดินสไลด์ปิดทับเส้นทางสูงกว่า 1 เมตร ระยะทางกว่า 4 กิโลเมตร ชาวบ้านกว่า 200 คน ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เจ้าหน้าที่ต้องนำเครื่องจักรหนักและรถแบ็กโฮดำเนินการเปิดเส้นทาง
ขณะที่ 3 ตำบลใน อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ถูกน้ำจากแม่น้ำยมที่เริ่มไหลล้นตลิ่งทะลักท่วมนาข้าวกว่า 10,000 ไร่ ชาวบ้านพยายามพลิกวิกฤติเป็นโอกาส เตรียมอุปกรณ์มาจับปลาหาเลี้ยงชีพเป็นรายได้เสริม
เจ้าหน้าที่ประจำเขื่อนยโสธรต้องเปิดประตูระบายน้ำทั้ง 8 บาน เพื่อเร่งระบายน้ำเหนือเขื่อนลงท้ายเขื่อน ป้องกันน้ำล้นตลิ่ง และรองรับปริมาณน้ำใหม่ที่ไหลลงมาสมทบจากทางเหนือเขื่อน หลังปริมาณน้ำในแม่น้ำชีเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง เตือนประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในแม่น้ำชีอย่างใกล้ชิด
ขณะที่น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนบางพื้นที่แล้ว โดยเฉพาะหมู่ 6 อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ชาวบ้านบริเวณคลองโผงเผง 20 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วม บางจุดระดับน้ำสูงกว่า 40 เซนติเมตร ชาวบ้านต่างเร่งเสริมแคร่เก็บของหนีน้ำ
เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท เร่งระบายน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้นจากวานนี้ 202 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เป็น 1,503 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในพื้นที่ท้ายเขื่อน ตั้งแต่ จ.ชัยนาท ลงไป สูงขึ้นจากเดิมอีก 60-80 เซนติเมตร
ส่วนสถานการณ์น้ำ จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นกว่า 40 เซนติเมตร หลังมีการปล่อยน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ส่งผลให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งขยายวงกว้าง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำใน 6 ตำบลของ อ.บางบาล มีน้ำท่วมสูง 50-60 เซนติเมตร เตือนประชาชนเตรียมพร้อมรับสถานการณ์. – สำนักข่าวไทย