โลมาลายแถบเกยตื้นพังงาต้องใช้เครื่องพยุงตัว ส่งเลือดตรวจหาสาเหตุป่วย

ภูเก็ต 27 มิ.ย.- แม่โลมาลายแถบเกยตื้นที่พังงายังทรงตัวไม่ได้ต้องใช้ชูชีพพยุง สัตวแพทย์ห่วงภาวะติดเชื้อจากบาดแผลประเมินอาการใกล้ชิด พร้อมเก็บตัวอย่างเลือดส่งห้องแล็บตรวจหาสาเหตุป่วย ระบุลูกโลมาที่เกยตื้นด้วยถูกปล่อยสู่ทะเล เพราะได้วิเคราะห์ความเหมาะสมหลายด้านแล้ว


นางสาวพัชราภรณ์ แก้วโม่ง สัตวแพทย์ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน (ศวทม.) จ.ภูเก็ต นายนเรศ ชูผึ้ง ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 9 หรือ สบทช.9 และเจ้าหน้าที่ยังคงดูแลโลมาลายแถบอย่างใกล้ชิดในบ่ออนุบาล ศวทม. เป็นโลมาเพศเมียความยาวลำตัว 214 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 70 กิโลกรัม หลังจากวานนี้ (26 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือพร้อมโลมาอีกตัว เพศผู้ คาดว่าเป็นลูก ขณะเกยตื้นหาดคลองสน เกาะยาวใหญ่ จังหวัดพังงา โดยพบว่าโลมาตัวแม่มีสภาพอ่อนแรง ส่วนตัวลูกปกติและปล่อยกลับสู่ทะเล

นางสาวพัชราภรณ์ กล่าวว่า อาการของโลมาลายแถบตัวแม่ขณะนี้ ยังไม่สามารถทรงตัวได้เอง เจ้าหน้าที่ต้องใช้ชูชีพพยุงตัวอยู่ตลอดเวลา ขณะที่อาการป่วยที่เกิดจากการติดเชื้อก็ยังอยู่ในระยะวิกฤติ ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดไม่ต่ำกว่า 5-6 วัน อีกทั้งยังพบบาดแผลบริเวณโคนหาง ซึ่งเป็นผลจากการติดเชื้อ นอกจากนี้ ได้เก็บตัวอย่างเลือดไปวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ รวมถึงการเพาะเชื้อหาสาเหตุการป่วยให้ชัดเจน ช่วงนี้ได้ให้ยาไปตามอาการ 


นางสาวพัชราภรณ์ กล่าวว่า การเกยตื้นชายชาดในลักษณะคู่แม่ลูกของโลมานั้น พบได้ปกติตามธรรมชาติ เพราะโลมาเป็นสัตว์สังคม เมื่อแม่มาลูกก็ต้องมาหรือหากแม่ไม่ป่วยลูกป่วย ซึ่งการจะจับแยกแม่ลูกนั้นจะต้องมีการพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องก่อน ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแรงของโลมาว่าสามารถว่ายน้ำได้ตามปกติได้หรือไม่ หากปกติจะมีการแยกตัวที่ป่วยออกมา และตัวที่ปกตินำไปปล่อยกลับทะเล กรณีนี้ที่ปล่อยลูกกลับทะเล เนื่องจากพิจารณาและตรวจสภาพเบื้องต้นแล้ว พบว่ายังแข็งแรง หากนำมาไว้ในบ่ออนุบาลคงไม่เหมาะสม เพราะจะทำให้เกิดอาการเครียดและอาจจะติดเชื้อจากแม่ได้ ขณะเดียวกันลูกโลมาดังกล่าวก็เป็นโลมาที่โตและหย่านมแล้ว จึงจำเป็นต้องแยกไว้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอื่นตามมาในภายหลัง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม