ทำเนียบ 27มิ.ย.-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แถลงความคืบหน้าช่วยทีมฟุตบอลหมูป่า เตรียมเพิ่มช่องทางหาทางเข้าถ้ำจากด้านบนช่วยเหลือ 13 ชีวิต ประสานขอนักดำน้ำในถ้ำร่วมภารกิจ ระบุการค้นหาต้องสำเร็จ
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แถลงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชนและโค้ช ทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย รวม 13 คนที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีกระแสรับสั่งห่วงใย ทั้งผู้ประสบภัย ครอบครัวของผู้ประสบภัย และเจ้าหน้าที่ พระราชทานพรและให้กำลังใจกับทุกฝ่าย รวมถึงพระราชทานแนวทางการแบ่งพื้นที่เพื่อให้สะดวกต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่
“สำหรับถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน เป็นเขาหินปูน ไม่ใช่หินแกรนิต จึงมีสภาพอุ้มน้ำเมื่อมีฝนตก น้ำจึงไหลลงดิน ซึ่งถ้ำแห่งนี้ตามสภาพภูมิประเทศเป็นธารน้ำใต้ดิน คาดว่าทั้ง 13 ชีวิตได้เข้าไปในช่วงที่น้ำยังไม่น้ำท่วมทางออก แต่ปัญหาสำคัญขณะนี้ คือ ฝนที่ตกอยู่ตลอดเวลา จึงต้องมีการสูบน้ำออก ซึ่งถือว่ายังมีปริมาณน้ำภายในถ้ำที่มากกว่าปริมาณน้ำที่สูบออก จึงภาวนาให้น้ำอยู่ในระดับที่ลดลง หรือทรงตัว แต่ต้องไม่มากไปกว่าเดิมจนท่วมพื้นที่ภายในถ้ำ” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวอีกว่า ล่าสุดในวันนี้ ทาง กทม.ส่งปั้มน้ำไปสมทบเพิ่มเติม ทั้งนี้แนวทางของการช่วยเหลือ คือ เพิ่มการสูบน้ำเพื่อให้หน่วยปฎิบัติการพิเศษทางเรือ หรือ ซีล ทำงานได้รวดเร็วมากขึ้น ให้หน่วยลาดตะเวนเดินสำรวจทั่วทั้งเขาเพื่อหาช่องทางเข้าสู่ถ้ำ และอีกแนวทางหนึ่งได้ปรึกษากับนายกรัฐมนตรีว่าจะหาทางเข้าถ้ำจากด้านบน ใช้เครื่องมือเอ็กซเรย์ความร้อนจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงพลังงานมีเครื่องเจาะเพื่อส่องกล้องลงไปในถ้ำ โดยจะพิจารณาถึงความจำเป็นต่อไป ซึ่งขณะนี้ได้มีการนำเครื่องมือดังกล่าวไปที่ จ.เชียงรายแล้ว โดยเจ้าหน้าที่จะวิเคราะห์สถาณการณ์และทำงานควบคู่กันกับแนวทางอื่น ๆ ด้วย และในวันพรุ่งนี้ (28 มิ.ย.) ก็จะลงพื้นที่ด้วย
“จากการสอบถามคนในพื้นที่ให้ข้อมูลว่าด้านในถ้ำมีลักษณะตรอกซอกซอยและมืดสนิท แต่คาดว่าเด็กมีการเตรียมตัวนำไฟฉายและเสบียงส่วนหนึ่งเข้าไป ส่วนตัวเชื่อว่าเด็กไปไม่ไกลจากบริเวณสามแยกที่น้ำท่วมทางปากทางออก และน่าจะยังมีแสงสว่างจากไฟฉายอยู่ โดยมั่นใจว่าผู้ประสบภัยทั้ง 13 คน ยังมีชีวิตอยู่ และสามารถเอาตัวรอดได้ เพราะเคยเข้าไปในถ้ำหลายครั้งแล้ว” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า สำหรับจากการลงพื้นที่เมื่อวานนี้ (26 มิ.ย.) ได้รับทราบข้อมูลจากชาวต่างชาติว่ามีเพื่อนที่เป็นนักดำน้ำในถ้ำที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งเคยดำน้ำในถ้ำแห่งนี้มาก่อน จึงได้ประสานขอความช่วยเหลือภารกิจ ซึ่งได้มีการตอบรับและจะเดินทางมาถึง จ.เชียงราย ในช่วงเย็นวันนี้ (27 มิ.ย.) เช่นเดียวกับเครื่องมือกู้ชีพในการตรวจจับสัญญาณชีพจากสหรัฐฯ ที่ได้ขอความร่วมมือให้มาช่วยทำการค้นหาในครั้งนี้
“อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือทั้ง 13 ชีวิต ไม่ใช่แค่เฉพาะการดำน้ำเพียงอย่างเดียว แต่ดำเนินการทุกอย่างควบคู่กันไป ทั้งการเดินป่าเพื่อสำรวจหาทางเข้า และหากสภาพอากาศเป็นใจ จะใช้เฮลิคอปเตอร์บินสำรวจ รวมถึงได้รับเครื่องมือที่จำเป็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำนวนหนึ่งแล้ว เตรียมดำเนินการในวันพรุ่งนี้ พร้อมทั้งขอบคุณทุกหน่วยงานที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการปฎิบัติภารกิจเพื่อช่วยเหลือให้พบผู้รอดชีวิตทุกทาง และมั่นใจว่าภารกิจครั้งนี้ต้องสำเร็จ มั่นใจทุกคนยังมีชีวิตและจะปลอดภัย” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
ด้านนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องทำงานแข่งกับเวลา จึงได้ประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศให้ติดต่อทางสถานทูตเพื่อขอตัวนักดำน้ำที่เคยสำรวจในถ้ำหลวง และมีความเชี่ยวชาญมาช่วยเหลือทั้ง 13 ชีวิต
“ทีมมีด้วยกัน 3 คนและพำนักอยู่ที่ลอนดอน ได้ตอบรับและเดินทางมาทันที ซึ่งไทยได้อำนวยความสะดวกทุกขั้นตอน รวมถึงค่าใช้จ่ายและการลำเลียงอุปกรณ์มายังประเทศไทย คาดว่าจะมาถึงในวันนี้ ขณะเดียวกันได้ติดต่อกับทางสหรัฐฯ เพื่อขอเครื่องมือกู้ชีพและการตรวจเอ็กซเรย์พื้นที่ที่มีภัยพิบัติ ที่ใช้ในกรณีที่มีตึกถล่ม เป็นต้น คาดว่าจะมาถึงในช่วงค่ำวันนี้ และสามารถดำเนินการได้ในวันพรุ่งนี้ เช่นเดียวกันกับคณะทีมดำน้ำ” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย