นครสวรรค์ 27 มิ.ย.สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สนทช.) จับมือมหาวิทยาลัยนเรศวร
เดินหน้าศึกษาทบทวนแผนการพัฒนาและฟื้นฟูบึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์
จัดทำเป็นแผนแม่บทแก้ไขปัญหาในทุกด้านตามยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ตั้งเป้าเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้
นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสนทช.
ลงพื้นที่ติดตามแผนบูรณาการหน่วยงานเกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาการบุกรุก
การใช้ประโยชน์เป็นที่ดินทำกิน
และการเพิ่มพื้นที่เป็นแหล่งกักเก็บน้ำของบึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ ตามข้อสั่งการในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
23 มกราคม 2561 พร้อมกล่าวว่า ขณะนี้
สทนช.ร่วมกับมหาวิทยาลัยนเรศวรเร่งดำเนินโครงการศึกษาทบทวนแผนการพัฒนาและฟื้นฟูบึงบอระเพ็ด
เพื่อจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาและฟื้นฟูบึงบอระเพ็ดที่ครอบคลุมตามยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ
โดยบูรณาการกับผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน
รวมทั้งแผนการทำงานเป็นรายปีและหน่วยงานรับผิดชอบ
เพื่อวิเคราะห์สภาพปัญหาของบึงบอระเพ็ดในด้านทรัพยากรน้ำ มลพิษ ระบบนิเวศ
และการใช้ประโยชน์ที่มีผลกระทบต่อการพัฒนาบึงบอระเพ็ด
นอกจากนี้ยังกำหนดเป้าหมายและแนวทางในการพัฒนาที่เหมาะสม
และวางกรอบแนวทางในการพัฒนาและการฟื้นฟูที่มีความเหมาะสมก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ซึ่งหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนจะได้นำผลการศึกษาไปใช้เป็นแนวทางการพัฒนาบึงบอระเพ็ดในแนวทางเดียวกัน
สอดคล้องและส่งเสริมซึ่งกันและกัน และที่สำคัญ คือ
การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งกันในด้านผลประโยชน์ในพื้นที่บึงบอระเพ็ด
ที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาและฟื้นฟูบึงเป็นอย่างมาก
จึงจะต้องมีคนกลางที่ทุกฝ่ายยอมรับและไว้ใจ ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนในบึง ให้เข้ามาทำหน้าที่ประสานงานที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มต่างๆ
เพื่อลดความขัดแย้ง และร่วมกันแสวงหาทางออกจากปัญหาอย่างเหมาะสม
ซึ่งคาดว่าผลการศึกษาดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในกันยายนนี้
ในเบื้องต้น
สทนช.จะเร่งบูรณาการแผนงานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาพื้นที่บึงบอระเพ็ดในระยะเร่งด่วนคู่ขนานไปด้วย
โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาน้ำแล้ง เนื่องจากมีความต้องการใช้น้ำถึง 127 ล้านลูกบาศก์เมตร
จากเดิมมีพื้นที่ 132,737 ไร่ ปัจจุบันเหลือพื้นที่ 67,327 ไร่ ความจุ 180
ล้านลูกบาศก์เมตร ที่ระดับเก็บกักสูง + 24 ม.รทก.
โดยส่วนใหญ่เพื่อการเกษตร มีราษฎรบุกรุกพื้นที่ เข้าไปใช้ประโยชน์รวม 5,635 แปลง มีตะกอนสะสมปีละ 2 ล้านลูกบาศก์เมตร
ทำให้บึงตื้นเขิน ซึ่งกรมชลประทาน
ดำเนินการขุดลอกตะกอนดินแล้วเสร็จเมื่อปี 2559 จำนวน 2.1 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่ในปี 2560 อีก 3.3 ล้านลูกบาศก์เมตร อยู่ระหว่างดำเนินการ รวมถึงศึกษาแนวทางการยกระดับสันฝายจากระดับ
+24 ม.รทก.อีก 1 เมตร
ซึ่งสามารถเพิ่มความจุได้กว่า 300 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อให้บึงบอระเพ็ดมีศักยภาพส่งน้ำให้เป็นบึงอเนกประสงค์ที่สามารถบริหารจัดการรับน้ำหลาก
และส่งน้ำให้พื้นที่เกษตรได้
ขณะเดียวกัน จะพิจารณากรอบแผนงานกิจกรรม/โครงการ ระยะกลาง-ยาวที่สำคัญ
เช่น ปรับปรุงศักยภาพส่งน้ำคลองวังนา ต.ทับกฤช อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์
ขุดลอกดินตะกอนในพื้นที่บึงบอระเพ็ด
ก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียตามเส้นทางน้ำหลักที่ไหลลงสู่บึง 5 แห่ง ศึกษา สำรวจ
ออกแบบ โครงการแก้ไขปัญหาตะกอนดินก่อนไหลลงสู่บึงบอระเพ็ด และฝายดักตะกอนรอบบึง
รวมถึงก่อสร้างประตูน้ำยกระดับน้ำแม่น้ำน่านเข้าสู่บึงบอระเพ็ด –สำนักข่าวไทย