fbpx

ศุลกากรฯ – กรมโรงงานเสนอทบทวนอนุสัญญาบาเซล

ท่าเรือคลองเตย 26 มิ.ย. – ศุลกากรฯ-กรมโรงงาน เสนอทบทวนอนุสัญญาบาเซล งัดกฎหมาย ห้ามนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์  เข้มตรวจตู้คอนเทนเนอร์ผลักดันส่งกลับ 


นายชัยยุทธ คำคุณ  โฆษกกรมศุลกากร  เปิดเผยว่า  กรมศุลกากรร่วมกับกรมโรงงานออกประกาศชะลอการพิจารณาอนุญาตนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษพลาสติก เศษโลหะ ตั้งแต่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา แต่ยังมีการขออนุญาตนำเข้าก่อนหน้านี้ ผู้นำเข้าแจ้งนำเข้าผ่านท่าเรือคลองเตยต้องทำการตรวจสอบ 428 ตู้คอนเทนเนอร์ ส่วนท่าเรือแหลมฉบัง 1,000 ตู้ จึงร่วมกับกรมโรงงานเปิดตู้ตรวจสอบ นำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษพลาสติก เศษโลหะ ทำผิดเงื่อนไข ไม่มีใบอนุญาต 


เบื้องต้นพบว่าต้องดำเนินการผลักดันส่งกลับประเทศต้นทางทั้ง 2 ท่าเรือ กว่า 400 ตู้คอนเทนเนอร์ ส่วนใหญ่นำเข้าจากสหรัฐ จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์  รวมทั้งประสานกองทัพเรือติดตามดูแลการลักลอบทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ในทะเลอ่าวไทย แต่ยอมรับว่ากระทำได้ยาก เพราะการทิ้งตู้คอนเทนเนอร์อาจส่งผลต่อการลอยเรือในทะเล 

นายบรรจง สุกรีฑา รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า หลังจากชะลอพิจารณาใบอนุญาตนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษพลาสติก เศษโลหะ ตั้งแต่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา คณะทำงานร่วมระหว่างกรมโรงงานฯ ศุลกากร การท่าเรือฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมเสนอแก้ไข พ.ร.บ.กรมโรงงาน 2535 มาตรา 32(2) และพิจารณาห้ามนำเข้าอย่างเด็ดขาด แทนการออกประกาศ ม.44 บังคับใช้จากหัวหน้า คสช. รวมถึงการศึกษาร่วมกับนักวิชาการ ทบทวนอนุสัญญาบาเซลกับประเทศภาคีสมาชิก เพื่อป้องกันขยะอิเล็กทรอนิกส์ไหลเข้าประเทศจำนวนมาก   


อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าสินค้านำเข้าบางรายการ เมื่อสภาพการใช้งานหมดอายุแล้วต้องส่งกลับไปประเทศผู้ผลิตต้นทาง เพื่อจัดการกับของเหลวภายในสินค้าอิเล็กทรอนิกส์  เช่น หม้อแปลงไฟฟ้า ซึ่งส่วนประกอบภายในเป็นน้ำมันของเหลวบรรจุหม้อแปลง เมื่อหมดอายุการใช้งานต้องส่งกลับไปประเทศฝรั่งเศสเท่านั้น  และฝรั่งเศสยินดีนำส่งกลับไปแปรสภาพเพื่อรีไซเคิลด้วยเทคโนโลยีของเขา  เพราะไทยไม่สามารถขจัดขยะของเหลวดังกล่าวได้  สินค้าลักษณะนี้มีหลายประเภท  ซึ่งไทยต้องส่งกลับคืนไปตามอนุสัญญาบาเซล จึงต้องศึกษาผลดีผลเสีย แต่เบื้องต้นเพื่อบรรเทาขยะอิเล็กทรอนิกส์ไหลเข้าประเทศไทยจำนวนมาก  จึงต้องห้ามนำเข้าด้วยมาตรการเข้มงวดก่อนอันดับแรก ส่วนระยะยาวต้องศึกษาออกมาตรการเพิ่มเติม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบรอง ผอ.โรงเรียนดัง หน.แก๊งค้ายา พบข้าราชการเป็นลูกค้าเพียบ

รวบหัวหน้าแก๊งค้ายาเป็น “รอง ผอ.” โรงเรียนดังย่านปากเกร็ด พร้อมสมุน ขยายผลพบลูกค้าเป็นข้าราชการอีกจำนวนมาก

คนไทย-คนจีนขับรถไล่ชนกันหน้าคลับดังเมืองพัทยา คาดหึงหวงสาวที่มาด้วย

รถตู้ 3 คัน และรถฟอร์จูนเนอร์ 1 คัน ขับไล่ชนกันไปมา บริเวณหน้าคลับแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา พบเป็นศึกระหว่างคนไทย 1 กลุ่ม และคนจีน 1 กลุ่ม สาเหตุคาดมาจากคนจีนหึงหวงแฟนสาวที่มาด้วย

ปัญหาต่างชาติในภูเก็ต ตอนที่ 3

ปัจจุบันการเข้ามาทำธุรกิจรถเช่าของต่างชาติที่ใช้คนไทยเป็นนอมินีในภูเก็ตมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดจากการขับขี่รถของชาวต่างชาติในภูเก็ตก็มากขึ้นด้วย ปัญหานี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่โยงใยไปถึงเรื่องของภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยทางการท่องเที่ยว ไม่เฉพาะแค่ภูเก็ต แต่เป็นของเมืองไทยด้วย

ศาลอาญาทุจริตฯ ยกฟ้อง คุณหญิงพรทิพย์ และพวก ในคดี GT200

ศาลอาญาทุจริตฯ ยกฟ้อง “คุณหญิงพรทิพย์” และพวกรวม 10 คน ในคดีจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด GT200 ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์
ระบุไม่พบมีมูลความผิด ทุจริต มีการแสวงหาประโยชนแก่ตนเองและผู้อื่นโดยมิชอบ

ข่าวแนะนำ

สยอง! เครนก่อสร้างถล่ม เสียชีวิตหลายราย

เครนถล่มในไซต์ก่อสร้างบริษัทจีนแห่งหนึ่งใน อ.ปลวกแดง จ.ระยอง เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ราย บาดเจ็บอีกหลายราย กู้ภัยถูกปิดล้อม ยังไม่ยอมให้นำศพออกมา

นายกฯ ขอให้เชื่อมั่น นำ ปท.แก้วิกฤติ เหน็บบางคนนั่งบนหอคอย  

“เศรษฐา” ขอให้เชื่อมั่นในตัวนายกฯ เข้าใจธุรกิจ พร้อมนำประเทศแก้วิกฤติ เหน็บบางคนนั่งบนหอคอย ลงมามือเปื้อนดิน ตีนเปื้อนโคลนบ้าง น้อยใจ รมว.คลัง ไม่มีอำนาจลดดอกเบี้ย  

“บิ๊กต่อ” ส่งทนายยื่นฟ้อง “ทนายตั้ม” แฉโยงเส้นเงินพนัน

“บิ๊กต่อ” ส่ง “อัจฉริยะ” เดินหน้าชน “ทนายตั้ม” ยกแรกยื่นฟ้องฐานหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท หลังถูกกล่าวหาว่ามีเส้นเงินจากเว็บพนันโยงคนใกล้ชิด ผบ.ตร.