ดินแดง26 มิ.ย.-รมว.แรงงาน ตรวจศูนย์พิสูจน์สัญชาติในกระทรวงฯ เหลือยอดต้องเข้าสู่ระบบอีก 2.8 หมื่นคน ย้ำให้บริการถึง 30 มิ.ย.ทันแน่นอน
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ตรวจศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ One Stop Service ใต้กระทรวงแรงงาน ที่ให้บริการตรวจพิสูจน์สัญชาติ จัดทำทะเบียนประวัติและขออนุญาตทำงาน และกล่าวภายหลังว่า เหลือเวลาเพียง 4 วันเท่านั้น ก็จะครบกำหนดสิ้นสุด คือวันที่ 30 มิ.ย.2561ของการเปิดให้บริการพิสูจน์สัญชาติ จัดทำทะเบียนประวัติและขออนุญาตทำงานแก่แรงงานต่างด้าว ซึ่งขณะนี้มีแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ คือกัมพูชา ลาว เมียนมา
ตั้งแต่เปิดศูนย์ ณ วันที่ 23 เม.ย.2561 ถึง 25 มิ.ย. 2561 ดำเนินการแล้ว 1,160,702 คน คิดเป็นร้อยละ 97.64 และยังคงเหลือที่ต้องดำเนินการอีก 28,056 คน หรือคิดเป็นร้อยละ2.36 ส่วนใหญ่เป็นแรงงานกัมพูชามากที่สุด ประมาณ 18,000 คน ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยคาดว่ายอดดังกล่าวกับเวลาที่เหลืออยู่มั่นใจว่าเพียงพอ สามารถดำเนินการได้ทันตามกรอบเวลา ยืนยันจะไม่ขยายเวลาออกไปอีกแน่นอน จึงขอให้นายจ้างรีบพาแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมาไปพิสูจน์สัญชาติและจัดทำ/ปรับปรุงทะเบียนประวัติ ระยะที่2ที่ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (One Stop Service ) ทั่วประเทศให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ ซึ่งวันสุดท้ายนี้กระทรวงแรงงานจะเปิดให้บริการจนกว่าจะถึงคนสุดท้าย
อย่างไรก็ตาม หลังจากวันที่ 1 ก.ค.2561 เป็นต้นไป จะบังคับใช้กฎหมายทันที แรงงานที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานจะไม่สามารถอยู่และทำงานมนไทยได้ โดยจะตรวจสอบการทำงานของคนต่างด้าวอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง หากพบคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ จะมีโทษปรับ 5,000 – 50,000 บาท และเมื่อชำระค่าปรับแล้ว คนต่างด้าวจะถูกส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักร และห้ามขออนุญาตทำงานภายใน 2 ปี นับแต่วันที่ได้รับโทษ
ขณะเดียวกันนายจ้างที่จ้างคนต่างด้าวโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้จะมีโทษปรับ10,000-100,000 บาทต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน หากกระทำผิดซ้ำต้องมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และห้ามจ้างคนต่างด้าวทำงานเป็นเวลา 3 ปี .-สำนักข่าวไทย