สตูล 25 มิ.ย.- อลวนแต่เช้า! ผู้ปกครองเฝ้าประตูโรงเรียนไม่ยอมให้ครูเข้าสอน หลัง สพป.สตูลให้ย้ายไปช่วยราชการกรณีถูกร้องเรียนใช้วาจาไม่เหมาะสมกับเด็ก ด้าน ผอ.เผยพฤติกรรมและภาวะทางอารมณ์ครูระยะหลังเปลี่ยนไปมาก ขณะที่เจ้าตัวยันไม่ได้ป่วยทางจิตตามที่กล่าวหา และที่ไม่ย้ายไป เพราะสุขภาพไม่แข็งแรง ขับรถนานไม่ได้
กรณีผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสตูลรวมตัวเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา เรียกร้องให้มีการพิจารณาพฤติกรรมของครูหญิงรายหนึ่ง เนื่องจากใช้กิริยาวาจาไม่สุภาพและเกรี้ยวกราวกับลูกศิษย์โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร และไม่กี่วันที่ผ่านมาสำนักงานการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) สตูล มีคำสั่งให้ครูดังกล่าวมาช่วยราชการที่ สพป.สตูล เพื่อความสบายใจของผู้ปกครอง หลังทราบข้อมูลจากผู้อำนวยการโรงเรียนในเบื้องต้นว่าตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ครูรายนี้มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป สร้างความวิตกกังวลกับเด็กและผู้ปกครอง
ปรากฏว่าเช้านี้ (25 มิ.ย.) กลุ่มผู้ปกครองมาเฝ้าหน้าประตูทางเข้าโรงเรียนกรณีมีข่าวว่าครูจะกลับมาสอนอีก ขณะที่ครูที่ถูกกล่าวหากล่าวว่า ไม่สามารถไปช่วยราชการที่ สพป.สตูล มีคำสั่งย้ายได้ เพราะสุขภาพไม่แข็งแรงที่จะต้องขับรถระยะทางไกลเข้าตัวเมือง จึงไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าว หากเห็นว่าผิดก็ควรตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง และขอยืนยันว่าไม่ได้ป่วยทางจิตตามที่กล่าวหา อีกทั้งผู้ปกครองที่ออกมาเรียบร้อยก็เพียงแค่บางคน ไม่ใช่ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ผู้อำนวยการโรงเรียนได้ชี้แจงให้ครูเข้าใจในหนังสือคำสั่ง และก่อนที่ครูจะเดินทางกลับยังระบุว่าจะนำเรื่องเข้าแจ้งความกับตำรวจ เพื่อปรึกษาขอแนวทางปฏิบัติต่อไป
นายปริญญา (สงวนนามสกุล) ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งนี้ กล่าวว่า โรงเรียนได้พยายามประนีประนอมกับครูรายนี้มาตลอด ช่วงปีแรกการทำงานไม่มีปัญหา แต่ระยะหลัง 2-3 ปี พฤติกรรมครูเปลี่ยนไปมาก เช่น มีความหวาดระแวงต่าง ๆ นานา และมีการแจ้งความกับตำรวจปีละเกือบ 20 ครั้ง ใช้วาจาไม่สุภาพกับเด็ก การที่ครูถูกคำสั่งย้ายเพื่อจะได้มีเวลาดูแลปรับภาวะอารมณ์ ซึ่งเป็นผลดีทั้งครูและเด็ก.-สำนักข่าวไทย
