Save the Children จัดงานเนื่องในสัปดาห์วันผู้ลี้ภัยโลก 2561 ชี้ปัญหาสิทธิของเด็กที่ลี้ภัย

องค์การช่วยเหลือเด็กประจำประเทศไทย (Save the Children) จัดงาน Because Education Matters เปิดตัววิจัย “อนาคตที่ถูกลืมของเด็กผู้ลี้ภัย” และ เวทีเสวนา “เปิดอนาคตที่ถูกลืมของเด็กผู้ลี้ภัย สู่การจัดการที่เหมาะสมของรัฐไทย” เนื่องในสัปดาห์วันผู้ลี้ภัยโลกประจำปี 2561 โดยมี รติรส ศุภาพร ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการโยกย้ายถิ่นฐานและการพลัดถิ่น องค์การช่วยเหลือเด็ก, อังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ, ปริญญา บุญฤทธิ์ฤทัยกุล ตัวแทนจากเครือข่ายสิทธิผู้ลี้ภัยและคนไร้รัฐ  และ กรแก้ว พิเมย ผู้อำนวยการโครงการ Urban Education Project(UEP) องค์การเยสุอิตสงเคราะห์ผู้ลี้ภัย ร่วมเสวนาชี้ให้เห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับเด็กผู้ลี้ภัยในประเทศไทย โดยเฉพาะเด็กผู้ลี้ภัยในเมื่องที่ต้องอยู่อย่างขาดอิสระภาพ เลื่อมล้ำทางด้านการศึกษา รวมถึงการถูกคุกคามทางเพศ พร้อมทั้งชมการจำลองห้องเรียนของผู้ลี้ภัยในค่าย


นางสารรติรส ศุภาพร ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการโยกย้ายถิ่นฐานและการพลัดถิ่นองค์การช่วยเหลือเด็กระดับภูมิภาคเอเชีย กล่าวว่า ผู้ลี้ภัยในประเทศไทยแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่คือ ผู้ลี้ภัยในค่ายพักพิงชั่วคราวตามแนวชายแดนไทยเมียนมา และผู้ลี้ภัยที่อาศัยอยู่ในเมือง ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยจากข้อมูลล่าสุดของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ได้ระบุตัวเลขผู้ลี้ภัยในเมืองว่ามีประมาณ 6,000 คน ซึ่งเป็นเด็กมากกว่า 2,000 คน จากกว่า 50 ชาติพันธุ์ ประมาณ 55% เป็นคนปากีสถาน 10% จากเวียดนาม 6% จากปาเลสไตน์ และที่เหลืออีกกว่า 30% มาจากโซมาเลีย ซีเรีย อิรัก ศรีลังกา กัมพูชา จีน อิหร่าน และอื่น ๆ โดยผู้ลี้ภัยเหล่านี้กำลังรอโอกาสที่จะได้ไปตั้งถิ่นฐานใหม่ที่ประเทศที่สาม อย่าง แคนาดา ไม่ได้ต้องการตั้งถิ่นฐานในประเทศไทย แต่มีโอกาสน้อยมาก


ถึงแม้ไทยไม่ได้เป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาว่าด้วยผู้ลี้ภัย แต่สำหรับผู้ลี้ภัยที่มาจากลุ่มแม่น้ำโขง กรุงเทพถือว่าใกล้ที่สุด เป็นที่ที่มีสำนักงาน UNHCR ที่ดำเนินการเรื่องการออกสถานะผู้ลี้ภัย และสามารถเข้ามาได้โดยง่ายทำให้มีผู้ลี้ภัยหลายกลุ่มเลือกมาลี้ภัยในประเทศไทย แต่ประเทศไทยก็ยังไม่ได้มีมาตรการที่จะให้การดูแลแก่เด็กผู้ลี้ภัยเหล่านี้ ทำให้สภาพชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ลี้ภัยในประเทศไทยโดยเฉพาะเด็กมีความยากลำบากต้องใช้ชีวิตอย่างหลบๆ ซ่อนๆ ขาดอิสระ ไม่ได้รับการศึกษา เมื่อป่วยไม่กล้าเข้ารับการรักษา หรือ หากมีปัญหา ไม่กล้าที่จะแจ้งความ เพราะกลัวการถูกจับ ด้วยมีสถานะการเข้าเมืองอย่างผิดกฏหมาย เช่น การแอบเข้าเมือง และ วีซ่าหมดอายุ ซึ่งหากถูกจับได้จะถูกคุมตัวอยู่ที่สถานกักกันของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ทำให้เด็กผู้ลี้ภัยไม่สามารถเข้าถึงสิทธิมนุษยชนพื้นฐาน เพราะสถานกักกันเหล่านั้นไม่ได้ถูกออกแบบมาให้อยู่ในระยะยาว มีสภาพแออัด และไม่ถูกสุขลักษณะอนามัย อีกทั้งการจัดการแยกกักผู้ชาย และผู้หญิงและเด็ก ทำให้เด็กชายที่เริ่มโตจะถูกแยกไปอยู่กับชายแปลกหน้าซึ่งที่ผ่านมาเคยมีการรายงานถึงเหตุข่มขืนและล่วงละเมิดทางเพศ


โดยความคืบหน้าล่าสุด รัฐบาลไทยกำลังทำบันทึกข้อตกลงและกระบวนการคัดกรองผู้ลี้ภัย และยังพยายามหามาตรการทางเลือกแทนการกักขังเด็กผู้ลี้ภัย แม้ว่าการทำงานเหล่านี้มีความล่าช้า แต่ก็ถือว่ากำลังเป็นไปในทางที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ลี้ภัยและผู้แสวงหาที่ลี้ภัยในประเทศ

สำหรับงานวิจัย “อนาคตที่ถูกลืมของเด็กผู้ลี้ภัย” ที่ทาง องค์การช่วยเหลือเด็กได้จัดทำขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจในประเด็นเรื่องการศึกษาและการให้ความคุ้มครองต่อเด็กผู้ลี้ภัยและเด็กผู้แสวงหาที่ลี้ภัยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เมืองของอินโดนีเซียและไทย ซึ่งจากการศึกษานี้ ได้มีข้อเสนอแนะต่อผู้ที่ทำงานให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยทั้งในกรุงเทพและกรุงจาการ์ตา รวมถึงองค์กรช่วยเหลือเด็กเองด้วยในประเด็น การเข้าถึงชุมชนและการสื่อสาร การรณรงค์และสร้างความตระหนักต่อสาธารณะ การอบรมและการพัฒนาศักยภาพ การศึกษาวิจัย การประสานงาน และแนวทางการทำงานใหม่ ๆ

นอกจากนี้สำหรับในบางคนที่ยังมองว่าผู้ลี้ภัยเหล่านี้ถือเป็นภาระของประเทศไทย อยากให้มองว่าผู้ลี้ภัยไม่ใช่คนร้ายที่กระทำผิดมา เพียงแต่เขาต้องการลี้ภัยจากปัญหาสงคราม หรือ ความไม่สงบในประเทศบ้านเกิด จนไม่สามารถอยู่ได้ เราจึงควรให้ความช่วยเหลือบุคคลเหล่านี้ นางสารรติรส กล่าวเสริม

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว