กทม.21 มิ.ย.- ตำรวจท่องเที่ยว ขยายผลจับนายหน้าหาคนให้เครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ ที่ฟิลิปปินส์ เตรียมขยายผลไปยังเครือข่ายโรแมนซ์สแกมและดอกเบี้ยเงินกู้นอกระบบ
ตำรวจท่องเที่ยว ขยายผลจับนายหน้าหาคนให้เครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ ที่ฟิลิปปินส์ เตรียมขยายผลไปยังเครือข่ายโรแมนซ์สแกมและดอกเบี้ยเงินกู้นอกระบบ
นางสาววิวรรณ ญาณเรือง และพวกรวม 4 คน มีพฤติกรรมเป็นนายหน้าจัดหาคนไปทำงาน เป็นพนักงานของเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ที่มีนายผายกู๋ ชาวไต้หวัน เป็นหัวหน้าเครือข่าย ได้ค่านายหน้ารายละ 10,000 บาท ถูกตำรวจจับกุมดำเนินคดีข้อหา มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันเป็นอั้งยี่ และร่วมกันเป็นซ่องโจร
พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เชื่อว่า นายหน้ากลุ่มนี้หาคนสนับสนุนเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ มาไม่ต่ำกว่า 5 ปี โดยชักจูงคนในจังหวัดต่าง ๆ ว่ามีรายได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 40,000 บาท ทำให้หลายคนหลงเชื่อ และเชื่อว่ายังมีกลุ่มนายหน้าที่หาคนไปประเทศจีน กัมพูชา และประเทศอื่นอีก โดยอยู่ระหว่างขยายผล ยืนยันว่า การก่อเหตุของเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ในไทยลดน้อยลง จากนี้ จะเน้นไปที่การดำเนินคดีกับกลุ่มโรแมนซ์สแกม และดอกเบี้ยเงินกู้นอกระบบ หลังมีข้อมูลการรวมกลุ่มกระทำผิดประมาณ 6-7 จุด
ตำรวจท่องเที่ยว ยังจับกุมนายเดเมียน เจียน ทัน เหว่ย ชาวสิงคโปร์ เปิดเว็บไซต์จำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ประเภทนาฬิกาหรูหลายยี่ห้อ ในห้องพักชั้น 20 ย่านลาดพร้าว สอบประวัติ พบอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดด้วย โดยจะประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เพิ่มความเข้มงวด การดำเนินการอย่างเข้มข้นของตำรวจ สามารถลดจำนวนชาวต่างชาติอยู่เกิน หรือ โอเวอร์สเตย์ จาก 70,000 – 80,00 คน เหลือไม่เกิน 40,000 คน.-สำนักข่าวไทย