นายกฯ ย้ำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงปฏิบัติได้จริง

41_0425_นครนิวยอร์ก 23 ก.ย.- นายกรัฐมนตรี กล่าวถ้อยแถลงระหว่างเป็นประธานประชุมรัฐมนตรีกลุ่มจี 77 ย้ำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงปฏิบัติได้จริง ยึดหลักความพอประมาณ มีเหตุผลและมีภูมิคุ้มกัน นำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน


“จิตตานันท์ นิกรยานนท์” ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ที่ติดตามภารกิจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 71 ระหว่างวันที่ 18-25 กันยายน 2559 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมระดับรัฐมนตรีกลุ่ม จี 77  ในวาระที่ 3 หัวข้อ “การใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” โดยมีประธานสมัชชาสหประชาชาติสมัยที่ 71 และ เลขาธิการสหประชาชาติและรัฐมนตรีกลุ่ม 77  ร่วมประชุมด้วย  ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ได้รับรองเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ภายหลังเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษสิ้นสุด แต่ภัยคุกคามและความท้าทายใหม่ ๆ ยังคงมีอยู่ ทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภัยธรรมชาติ โรคระบาด ความมั่นคงทางอาหาร-พลังงาน ภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์ เช่น สงคราม นำมาซึ่งการโยกย้ายถิ่นฐานและพลัดถิ่น หลายทศวรรษที่ผ่านมา การรีบเร่งการพัฒนาเพราะเชื่อมั่นในการเติบโตทางเศรษฐกิจ จึงเกิดการแข่งขันแย่งชิงและแสวงประโยชน์ ซึ่งผู้ที่เข้มแข็งและได้เปรียบที่สุดจึงจะอยู่รอด


นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นความทันสมัย เป็นสังคมเมือง สังคมอุตสาหกรรม แต่ทอดทิ้งชนบท ทำให้ความเหลื่อมล้ำในสังคมเพิ่มขึ้น และสภาพแวดล้อม สังคมเสื่อมโทรมลง เพราะคิดกันว่า ขอให้ประสบความสำเร็จทางเศรษฐกิจก่อน แล้วจะกลับมาชดเชยคืนให้กับสังคมภายหลัง แต่ผลที่ตามมาร้ายแรงกว่านั้น เพราะตาม ทฤษฎีผีเสื้อ สิ่งเล็กๆ ที่ทำกันไปและไม่ได้คิดว่าจะมีผลร้ายแรง สุดท้ายอาจย้อนกลับมาส่งผลรุนแรงอย่างมากในอนาคต

“ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ปัญหามีแต่จะเพิ่มและรุนแรงขึ้น เชื่อมโยงและซับซ้อนยิ่งขึ้น โดยความท้าทายเหล่านี้เป็นความท้าทายร่วมกันของทุกประเทศ ประเทศไทยประสบวิกฤติเศรษฐกิจ ‘ต้มยำกุ้ง’ เมื่อปี  2540 สึนามิ เมื่อปี 2547  อุทกภัยครั้งใหญ่ เมื่อปี 2554  ทุกๆ ครั้ง ประเทศไทยฟื้นกลับอย่างรวดเร็ว และเข้มแข็งกว่าเดิม ซึ่งไม่ใช่ความบังเอิญหรือปาฏิหาริย์ แต่เป็นเพราะมีความตั้งใจจริง มุ่งมั่น และอดทน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปี 2540 เป็นจุดเปลี่ยนทำให้หยุดและค้นหาวิธีแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ จึงพบว่า การพึ่งพาโลกโดยไม่มีภูมิต้านทานจากภายในทำให้อ่อนแอ ได้รับผลกระทบได้ง่าย และไม่ยั่งยืน ไทยจึงน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแสงนำทางในทุกสาขาและทุกระดับ จนทำให้สามารถก้าวพ้นปัญหาและก้าวต่อไปอย่างมั่นคง โดยคำว่าพอเพียง ไม่ใช่ การสอนให้พอใจกับความยากจน แต่คือ การรักษาวิถีชีวิตที่สมดุลและพอประมาณ ซึ่งไม่ได้ขัดกับความร่ำรวยที่สุจริตและไม่เบียดเบียน


41_0423_พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกลไกประชารัฐ ซึ่งเป็นการระดมพลังทุกภาคส่วน ทั้งรัฐ เอกชน ประชาสังคม ให้มาร่วมกันสร้างประโยชน์สูงสุดสอดคล้องกับการพัฒนาที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง สร้างโอกาสให้กับทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เป็นกลไกสำคัญเพื่อมุ่งสู่ ประเทศไทย 4.0 ซึ่งเน้นการขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม เพื่อให้หลุดพ้นจากกับดักประเทศรายได้ปานกลาง ซึ่งจะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อทุกคนในสังคมรู้หน้าที่และแบ่งปัน ขับเคลื่อนสังคมให้ก้าวไปข้างหน้าพร้อม ๆ กัน

“หัวใจของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เริ่มจากคนและชุมชน โดยเน้นการสร้างระบบคิดและการดำเนินชีวิตที่สมดุล ซึ่งตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนหลายเป้าหมายพร้อมๆ กัน ไม่ว่าจะการขจัดความยากจน ความหิวโหย สาธารณสุข การศึกษา ความเท่าเทียมทางเพศ การพัฒนาเมือง หรือการบริโภคที่ยั่งยืน ซึ่งตลอดกว่า 40 ปีที่ผ่านมา ได้นำหลักความพอประมาณและความมีเหตุมีผล ไปปรับใช้เป็นรากฐานต่อการอนุรักษ์โลก ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  อาทิ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่มีการส่งเสริมการปลูกหญ้าแฝก เพื่อฟื้นฟูและรักษาคุณภาพดิน หรือ การปลูกป่า 3 อย่าง ได้ประโยชน์ 4 อย่างคือ การปลูกไม้ใช้สอย ไม้ผล และไม้ที่เป็นเชื้อเพลิง มีประโยชน์ 3 อย่าง และจะนำไปสู่ประโยชน์ที่ 4  คือ การอนุรักษ์ดินและน้ำ และคงความชุ่มชื้นไว้” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ส่วนทางด้านเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเริ่มเป็นที่รู้จักตั้งแต่วิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 โดยเฉพาะการพัฒนาแบบองค์รวม การบริหารจัดการความเสี่ยง มีเหตุผล และรับผิดชอบต่อส่วนรวม ไม่แสวงหากำไรเกินควรหรือเอาเปรียบผู้อื่น จึงตอบโจทย์เป้าหมายด้านการเติบโตเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและครอบคลุม การจ้างงานและงานที่มีคุณค่า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรม ได้อย่างดี

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องน่ายินดีที่ประเทศส่วนใหญ่เริ่มรู้จักหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งสะท้อนให้เห็นความเป็นสากล จึงช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกลไกระดับโลกเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งนี้ ไทยมีหุ้นส่วนความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนกับประเทศสมาชิกกลุ่ม 77 ในแทบทุกภูมิภาค และริเริ่มเครือข่ายมิตรประเทศ หรือ Friends of SEP เพื่อนำไปสู่หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา รวมถึงหุ้นส่วนในระดับเยาวชน เพราะเยาวชนในวันนี้คือชนรุ่นใหม่ที่มีความต้องการเช่นกัน การพัฒนาที่ยั่งยืนจะต้องตอบสนองความต้องการของคนในวันนี้และเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ตอบสนองความต้องการของตนในอนาคตด้วย

“ติมอร์-เลสเต ได้พัฒนาหมู่บ้านต้นแบบตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่เมืองเฮรา กว่า 6 ปีแล้ว ทำให้ได้เรียนรู้การทำเกษตรแบบผสมผสาน นำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมซึ่งได้รับความสนใจจากมิตรประเทศที่พัฒนาแล้ว จนกลายเป็นความร่วมมือไตรภาคี ไทย-เยอรมนี-ติมอร์ฯ เพื่อต่อยอดการผลิตที่มุ่งการค้า เน้นการเชื่อมโยงกับความต้องการของตลาดและการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ และนอกจากสาขาเกษตรแล้ว ความร่วมมือหุ้นส่วนในเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงยังสนับสนุนการพัฒนาในทุกสาขา ตั้งแต่การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ การพัฒนาคน หรือการบริหารธุรกิจ โดยให้ทุนและการฝึกอบรมในรูปแบบต่างๆ การพัฒนาศูนย์การเรียนรู้หลักแรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่เลโซโทและ สปป.ลาว การพัฒนาหมู่บ้านที่กัมพูชา การพัฒนาพื้นที่เกษตรกรรมแบบผสมผสานที่ต้องการ รวมทั้งโครงการในฟิจิที่กำลังจะเริ่มขึ้นเร็วๆ นี้” นายกรัฐมนตรี กล่าว

41_0424_พล.อ.ประยุทธ์  กล่าวว่า เพื่อนสมาชิกกลุ่ม 77 กว่า 22 ประเทศ แสดงความสนใจที่จะมีความร่วมมือเรื่องนี้กับไทย แม้ว่าไทยจะพ้นตำแหน่งประธานกลุ่ม 77 ในสิ้นปีนี้แต่ไทยจะจะยังมุ่งมั่นที่จะสานต่อการเผยแพร่หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแก่ต่างประเทศต่อไป ผ่านการให้ทุนการศึกษา การศึกษาดูงาน และโครงการการพัฒนา ฯลฯ ภายใต้ความร่วมมือหุ้นส่วนทวิภาคี ความร่วมมือ ใต้-ใต้ และไตรภาคี

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเข้าร่วมการประชุมผู้นำ G 20เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาในฐานะประธานกลุ่ม 77  ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือระดับโลกระหว่างกลุ่ม G 20 และกลุ่ม 77 ซึ่งกลุ่ม G 20 มีศักยภาพและสนใจที่จะขยายความร่วมมือเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้เป็นรูปธรรม ประเทศไทยเองก็พร้อมเป็นสะพานเชื่อมความร่วมมือไตรภาคีในเรื่องนี้ เช่น ไทยร่วมมือกับเยอรมนีในติมอร์-เลสเต และเยอรมนี ก็จะเป็นประธาน G 20 ปลายปีนี้ ขณะที่เอกวาดอร์ให้ความสนใจบ้างแล้วจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ดำเนินร่วมกับเอกวาดอร์ ซึ่งจะเป็นประธานกลุ่ม 77 ในปี 2560

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มีสูตรสำเร็จในการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงรับมือสิ่งท้าทายในปัจจุบัน เพราะในทุกๆ ครั้ง จะต้องศึกษาสภาพภูมิสังคมก่อน การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 17 เป้าหมาย ไม่ใช่ความฝัน แต่เป็นความจริงที่ทุกคนสามารถบรรลุได้ โดยจะช้าหรือเร็ว จะน้อยหรือมาก ขึ้นอยู่กับกำลังและความตั้งใจที่จะร่วมกันทำงาน ซึ่งการไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังหมายความว่า จะร่วมกันสร้างศักยภาพให้กับสังคม ทุกคนจะก้าวพ้นปัญหาไปพร้อมๆ กัน ร่วมมือกัน ไม่แก่งแย่งกัน เกื้อกูลและแบ่งปันกัน ไม่แสวงประโยชน์จากกัน และทุกคนต้องรู้หน้าที่และทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รัฐบาลแถลงยันกัมพูชาละเมิดข้อตกลง ยื่นประท้วง ปธ.อาเซียน-สหรัฐ-จีน

ทำเนียบ 29 ก.ค.-รัฐบาลแถลงยืนยันไทยมีความจริงใจ-หยุดยิงตามข้อตกลง แต่กัมพูชากลับยิงใส่ทหารไทยหลายพื้นที่ จึงได้ประท้วงไปที่ ปธ.อาเซียน-สหรัฐ-จีน ขอประชาชนอย่าเพิ่งกลับบ้าน ให้รอผลยืนยันจากรัฐ พร้อมสดุดีวีรกรรมทหารกล้า ปกป้องอธิปไตยประเทศ-คุ้มครองประชาชน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี อ่านแถลงการณ์ความคืบหน้าการดำเนินการของรัฐบาลต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รัฐบาลไทยมีความจริงใจ และใช้ความพยายามอย่างยิ่งที่จะยุติสถานการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาโดยเร็วที่สุด การเจรจาจนมีข้อตกลงหยุดยิงของทั้ง 2 ฝ่าย โดยยึดถือผลประโยชน์ของประชาชน และยึดถืออำนาจอธิปไตยของประเทศเป็นสำคัญ รวมทั้งชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน และทหารของชาติ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นความหวังร่วมกันของประชาคมโลกที่จะคืนสันติภาพแก่ประชาชาชนทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งรัฐบาลไทยเคารพต่อผลการหารือที่เมืองปูตราจายา ประเทศมาเลเซีย และปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อหยุดยิงตามที่ได้แถลงร่วมกัน แต่ปรากฎข้อเท็จจริงว่า กองกำลังกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยมีการใช้อาวุธยิงต่อกำลังฝ่ายไทยในหลายพื้นที่ ทำให้ทหารฝ่ายไทยต้องตอบโต้อย่างเด็ดขาด และเหมาะสม เพื่อปกป้องอธิปไตยและชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์ พร้อมกันนี้ รัฐบาลได้ประท้วงไปยังประธานอาเซียน สหรัฐอเมริกา และสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นสักขีพยานในการเจรจา เพื่อให้ได้รับทราบว่า การละเมิดข้อตกลงนี้เป็นเหตุจากการไม่ซื่อตรง และไม่จริงใจของกัมพูชาอย่างชัดเจน สถานการณ์ในขณะนี้ รัฐบาลมอบหมายให้ทุกเหล่าทัพตรึงกำลัง เพื่อรักษาอธิปไตย และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ไม่ยินยอมให้อธิปไตยไทยถูกล่วงล้ำไม่ว่ากรณีใดๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงสายวันนี้ ได้มีการพูดคุยกันระหว่างแม่ทัพภาคของทั้ง 2 ประเทศ […]

น้ำท่วมชุมชนชายแดนแม่สายเริ่มลด เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำ

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำท่วมชุมชนชายแดน อ.แม่สาย เริ่มลดลงแล้ว แต่ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ทิ้งดินโคลนและเศษขยะไว้มากมาย ด้านข้างสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 จะเห็นว่าน้ำในลำน้ำสายที่กั้นพรมแดนไทย-เมียนมา ลดระดับต่ำกว่าท้องสะพาน กว่า 40 เซนติเมตร หลังระดับน้ำที่จุดวัดบ้านโจตาดาในเมียนมา ที่เป็นต้นน้ำ ลดลงต่ำกว่าตลิ่งแล้ว โดยทหารช่างยังเร่งวางบิ๊กแบ็กที่จุดฟันหลอของพนังกั้นน้ำสาย บริเวณคอสะพาน เพื่อป้องกันน้ำทะลักท่วมซ้ำ ขณะที่ด่านชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย ฝั่งท่าขี้เหล็ก เปิดให้ข้ามแดนได้ตามปกติ โดยน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สาย ลดลงเกือบทุกพื้นที่ แต่ทิ้งความเสียหายไว้จำนวนมาก อย่างตลาดสายลมจอย ตลาดสินค้าชายแดน ร้านค้าต่างๆ เต็มไปด้วยดินโคลน พ่อค้าแม่ขายในตลาดเริ่มเก็บล้างทำความสะอาดร้านค้ากันบ้างแล้ว อย่างพี่สายพิน บอกว่า เมื่อวานนี้น้ำมาเยอะมาแรง จนกำแพงอาคารที่ใช้เป็นพนังกันน้ำชั่วคราวแตก แต่ทหารช่างอุดไว้ได้ และมีการเก็บสินค้าออกไปล่วงหน้า จึงไม่เสียหายมากนัก จากภาพมุมสูงด้านชุมชนทางฝั่งขวาของสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 อย่างชุมชนเกาะทราย ไม้ลุงขน และชุมชนเหมืองแดง ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ในบางพื้นที่ อย่างบริเวณห้าแยกเกาะทราย ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ แต่คาดว่าภายในวันนี้สถานการณ์น่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ.-สำนักข่าวไทย

ตร.ไซเบอร์ เชิญชวนคนไทยร่วมโพสต์แชร์ และแสดงพลังออนไลน์

บช.สอท. 29 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์ เชิญชวนคนไทยร่วมโพสต์แชร์ และแสดงพลังออนไลน์ ด้วยข้อความภาษาอังกฤษ พร้อมติด #TruthFromThailand ร่วมกันสื่อสารให้โลกได้รับรู้ว่าเราไม่ได้เริ่ม แต่เราจะไม่ยอมแพ้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดเผยถึงกรณีที่สถานการณ์ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยมีรายงานข่าวจากหลายสำนักและบทวิเคราะห์ของนักวิชาการนานาชาติ ที่ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างความขัดแย้งดังกล่าวกับปฏิบัติการด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ และการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ขอชี้แจงว่า ภารกิจสำคัญของเราคือ การปกป้องประชาชนไทยจากภัยคุกคามทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอาชญากรรมที่มีลักษณะเป็นเครือข่ายข้ามชาติ เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บไซต์พนันออนไลน์ เครือข่ายฟอกเงิน โดยจับกุมผู้ต้องหาที่เข้ามาทางด่านสระแก้วจัมผู้ต้องตามหมายจับ 13 ราย เป็นคดีที่หลอกลวงพี่น้องประชาชน อีก 7 ราย มีร้องทุกข์กล่าวโทษในข้อหาหลอกลวงพี่น้องประชาชน และจะมีกลับเข้ามีอีก 200 กว่านายจะเดินทางกับเข้ามา แต่เมื่อ สถานการณ์ไม่น่ากลัวและทราบว่าจะมีการหยุดยิงจึงไม่เดินทางกับ แต่ยังมีการหลอกลวงทั้งในและต่างประเทศ โดยตลอดปีที่ผ่านมากองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีต่อเครือข่ายเหล่านี้อย่างจริงจัง ภายใต้กรอบของกฎหมายภายในประเทศ และการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในต่างประเทศ เพื่อสกัดกั้นเส้นทางการเงิน การดำเนินธุรกิจผิดกฎหมาย และการใช้ประเทศไทยเป็นฐานปฏิบัติการของกลุ่มทุนสีเทา พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนในหลายคดีที่ผ่านมา พบความเชื่อมโยงกับ กลุ่มผู้มีอิทธิพลและนักการเมืองจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะในกัมพูชา […]

ทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด

29 ก.ค.- โฆษกทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด ยังนัดหมายพบปะกันไม่ได้ แต่พยายามอยู่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พื้นที่กองทัพภาคที่ 2 โดยฝ่ายไทย พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค1 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และฝ่ายกัมพูชา พล.อ.โปว เฮง ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 4 และ พล.อ.แอก ซอมโอน ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 5 ทั้ง 2 ฝ่ายยังนัดหมายพบปะไม่ได้ เลื่อนไป ยังไม่มีระบุเวลา (เดิมเวลา 10.00 น.) แต่ยังพยายามอยู่ -สำนักข่าวไทย