ภูมิภาค 17 มิ.ย.-น้ำป่าถล่มคณะนายอำเภอท่าสองยาง จ.ตาก ขณะไปราชการช่วยเหลือชาวบ้านจากภัยพิบัติท่วมน้ำ และเร่งสำรวจพื้นที่ปลูกป่า แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หลังฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่คณะของนายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอท่าสองยาง จ.ตาก นำรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อ เพื่อไปช่วยเหลือและให้กำลังใจประชาชนที่ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ หลังตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาหลายพื้นที่ในเขต อ.ท่าสองยาง เกิดมีฝนตกหนักและเกิดน้ำป่าไหลหลากในหลายหมู่บ้าน แต่เมื่อการออกช่วยเหลือชาวบ้านและปลูกป่าบนเชิงเขาแล้วเสร็จ เกิดพายุฝนตกอย่างหนักนานนับชั่วโมง เหนือพื้นที่หมู่บ้านแม่ออกผารู หมู่ที่ 3 ต.แม่หละ อ.ท่าสองยาง
เป็นเวลาเดียวกับขบวนรถของนายอำเภอท่าสองยางกำลังขับออกจากหมู่บ้าน เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ขณะที่ขบวนรถหลายคันกำลังขับผ่านถนนใกล้กับลำห้วย มาถึงใกล้ศูนย์อพยพบ้านแม่หละ น้ำป่าจากเทือกเขาดอยเปเปอร์ไหลทะลักลงมาจากดอยอย่างรุนแรง และไหลล้นข้ามถนนอย่างรวดเร็ว ทำให้คนขับรถทุกคันที่กำลังรถผ่านติดลำห้วย ต้องรีบตัดสินใจขับรถหนีน้ำป่าอย่างโกลาหลท่ามกลางฝนตกหนัก จนรถทุกคันขับหนีน้ำป่าไปตั้งหลักบนพื้นที่สูงได้อย่างปลอดภัย ซึ่งกระแสน้ำป่าที่ไหลอย่างเชี่ยวกรากได้กัดเซาะพื้นผิวถนนคอนกรีตในจุดเกิดเหตุจนเสียหายเป็นทางยาว และน้ำยังไหลเข้าท่วมในอีกหลายจุดตลอดแนวลำห้วย ซึ่งนายอำเภอท่าสองยางได้สั่งปิดเส้นทางชั่วคราว รอให้น้ำลด และจะเร่งซ่อมแซมถนนในจุดเกิดเหตุ เพราะเป็นเส้นทางหลักในการสัญจรเข้าออกหมู่บ้าน เพื่อลดผลกระทบต่อชาวบ้านอย่างเร็วที่สุด
ส่วนที่ จ.ระนอง คืบหน้ารถกระบะสีบรอนซ์ทอง มีหลังคา ทะเบียน 7067 ถูกน้ำป่าซัดลอยไปตามกระแสน้ำที่คลองนาคา ระหว่างรอยต่อหมู่ 5 และหมู่ 7 คลองวังผักบุ้ง ต.นาคา อ.สุขสำราญ ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยนายสามารถ นางสันเที๊ยะ อายุ 49 ปี คนขับ สามารถหนีรอดมา แต่นางนกแก้ว บุษบาสระน้อย ภรรยา ติดไปกับรถยนต์นั้น ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ช่วยกันออกค้นหา และพบรถคันดังกล่าวอยู่ในคลองไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุมากนัก เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงเข้าพื้นที่เร่งดำเนินการกู้รถ แต่ด้วยสภาพฝนที่ตกหนักและน้ำในคลองกำลังไหลเชี่ยว ทำให้ดำเนินการเป็นไปด้วยความยากลำบาก จนเมื่อเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่สามารถกู้รถขึ้นมาได้ แต่เมื่อเข้าไปตรวจสอบภายในรถกลับไม่พบร่างของนางนกแก้ว ผู้สูญหาย เจ้าหน้าที่จึงระดมกำลังกันออกค้นหาผู้สูญหายต่อไป ทั้งทางเรือและตลอดริมฝั่งคลอง
ส่วนที่ จ.เพชรบุรี ขณะที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และทหารชุดเฉพาะกิจจงอางศึก ตชด.ที่ 145 ลาดตระเวน สุดแนวชายแดนไทย-เมียนมาร์ เพื่อบล็อกขบวนการทำไม้หอมและเส้นทางข้ามไปประเทศเมียนมา และช้างป่า 15-20 ตัว ที่จะเดินทางข้ามไปมาระหว่างไทยกับเมียนมา แต่ระหว่างทาง เจอฝนตกหนักและมีน้ำป่าไหลหลาก ทำให้ต้องติดค้างอยู่ 1 วัน เพื่อรอน้ำลง จึงเดินทางกลับออกมาได้ แต่พบอุปกรณ์ GPS และกล้องดิจิทัลจมน้ำเสียหาย ซึ่งเบื้องต้นยังไม่พบร่องรอยผู้กระทำผิด ล่าสุดยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง จนน้ำป่าไหลหลากถนนเส้นเข้าบ้านโป่งลึก-บางกลอยขาด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานประกาศปิดการท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย.2561 ไปจนกว่าจะกลับสู่สภาวะปกติ
เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ประจำเกาะปอดะ ทะเลแหวก เกาะไม้ไผ่ และตามแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลต่างๆ ในเขตอุทยานฯ ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ได้ปักธงแดงชายหาด เตือนนักท่องเที่ยวระวังอันตรายจากคลื่นลมแรง ห้ามลงเล่นน้ำทะเล เพื่อความปลอดภัย หลังเกิดคลื่นลมแรงพัดเข้าฝั่งต่อเนื่อง
ส่วนผู้นำชุมชน ต.เขาคราม ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายของบ้านเรือนของประชาชน หมู่ที่ 1 ต.เขาคราม เพื่อให้การช่วยเหลือ หลังจากฝนตกหนัก ลมพัดแรง ต้นไม้หักโค่น ทับหลังคา กระเบื้องหลังคาถูกลมพัดแตก ปลิว เสียหาย รวม 3 หลัง เจ้าของบ้านต้องย้ายไปอยู่บ้านญาติชั่วคราว พร้อมแจ้งให้ อ.เมืองกระบี่ ทราบและเร่งซ่อมแซมเร่งด่วน เนื่องจากมีฝนตกต่อเนื่อง ด้านป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ ประกาศแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้ง 8 อำเภอ โดยรอบเทือกเขาพนมเบญจา เฝ้าระวังอันตรายจากฝนที่เพิ่มขึ้นและฝนที่ตกสะสม อาจเกิดน้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ ส่วนบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-4 เมตร เรือขนาดเล็กงดออกจากฝั่งโดยเด็ดขาดถึงวันที่ 20 มิถุนายนนี้
ขณะที่ จ.ภูเก็ต ฝนที่ตกเกือบตลอดทั้งวัน อ.เมือง อ.ถลาง และ อ.กะทู้ ทำให้มีต้นไทรขนาดใหญ่อายุมากกว่า 100 ปี ล้มขวาง ถ.นริศร บริเวณแยกศาลาประชาคม ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ทำให้รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เจ้าหน้าที่ต้องเร่งนำเครื่องจักรลงตัดต้นไทรดังกล่าวออกจากพื้นที่ พร้อมสำรวจความเสียหายบ้านเรือนประชาชน นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่มีต้นไม้ล้มทับถนนและบางจุดทับบ้านเรือนประชาชน เช่น ต.วิชิต อ.เมือง พื้นที่ ต.ป่าครอก อ.ถลาง และพื้นที่ ต.กมลา อ.กะทู้ ส่วนตามชายหาต่างๆ ปรากฏว่าคลื่นขนาดใหญ่ชัดเอาขยะในทะเลขึ้นมาบนชายฝั่ง เทศบาลต้องนำเจ้าหน้าที่เข้าทำความสะอาด
ที่ชุมพร เกิดอุบัติเหตุบริเวณหัวเกาะทะลุ จ.ชุมพร เมื่อเรือนำเที่ยวหลบเรือประมง ก่อนจะพุ่งชนหินโสโครก ทำให้นักท่องเที่ยว 11 ราย และเจ้าหน้าที่ดูแลและกัปตันเรือโดดลงน้ำ แต่ทั้งหมดปลอดภัย หลังได้รับการช่วยเหลือจากเรือตรวจประมงทะเล 324 ด้านผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชุมพร สรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เรือท่องเที่ยวได้นำนักท่องเที่ยวไปดำน้ำบริเวณเกาะง่าม และไปชนกับโขดหินบริเวณเกาะ ทำให้เรือรั่ว จึงรีบนำเรือกลับเข้าฝั่งแต่ไม่ทัน จมลงในทะเล แต่ทีมช่วยเหลือที่มีการเตรียมการไว้อยู่แล้ว สามารถช่วยเหลือได้ ทำให้รอดตายแบบหวุดหวิด.-สำนักข่าวไทย