รัฐสภา 15 มิ.ย.-ที่ประชุมสนช.ตั้งกมธ. 38 คนศึกษาร่างยุทธศาสตร์ชาติภายใน 22 วัน หลังสมาชิกติงยังขาดรายละเอียด กรอบทำงานกว้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่รัฐบาลเสนอร่างยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งมี 6 ด้าน คือ 1.ยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง 2.ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน 3.ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 4.ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม 5.ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ 6.ยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐแล้ว ได้เปิดโอกาสให้สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) อภิปรายอย่างกว้างขวาง
พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร สมาชิกสนช.และประธานคณะทำงานศึกษาแผนยุทธศาสตร์ชาติล่วงหน้า กล่าวถึงผลศึกษาเบื้องต้น ว่า อยากให้เพิ่มรายละเอียดเกี่ยวกับความมั่นคงทางด้านจิตใจในรายละเอียด้านต่าง ๆ นอกจากนั้นคือต้องการให้นำแผนแม่บทและแผนปฏิบัติการที่เตรียมเขียนรายละเอียดเข้าสู่สนช.อีกครั้ง เพื่อให้ความมั่นใจว่าข้อเสนอจากสนช.ถูกบรรจุในแผนดังกล่าวอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม ร่างยุทธศาสตร์ชาติเขียนโดยเจตนารมณ์ของผู้เขียน แต่ยังมีกรอบทำงานที่กว้างเกินไป ดังนั้น ผลอาจไม่เป็นไปตามที่ต้องการ จึงมีข้อเสนอให้นำโครงการที่เป็นภารกิจหลักที่คาดว่าจะมีความสำเร็จร้อยละ 60 เขียนในร่างยุทธศาสตร์
“แผนแม่บทจำเป็นต้องทำโดยเร็วภายในเวลา 2 เดือนถือว่าเหมาะสม และเมื่อทำเสร็จต้องเผยแพร่และสร้างความเข้าใจกับข้าราชการอันดับแรก ต่อด้วยเผยแพร่ต่อสาธารณะเพื่อให้เกิดการบูรณาการทำงาน พร้อมกับตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนร่วมกัน นอกจากนั้นร่างยุทธศาสตร์ชาติควรแก้ไขและปรับปรุงได้ตั้งแต่ในชั้นของสนช. และเวลาที่ยังเหลืออีก 20 วันก่อนครบกำหนดควรตั้งกมธ.พิจารณา ซึ่งมีตัวแทนของกมธ.สามัญ ประจำสนช.พิจารณาให้ความเห็น” พล.อ.วรพงษ์ กล่าว
นายธานี อ่อนละเอียด สมาชิกสนช. กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ชาติเปรียบเสมือนหางเสือเรือที่จะทำให้เกิดแรงผลักดันไปสู่เป้าหมาย ดังนั้น รัฐบาลต้องทุ่มเทสร้างการรับรู้ให้ประชาชนได้เห็นความสำคัญของยุทธศาสตร์ชาติ
นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ สมาชิกสนช. กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ชาติจะต้องมีความละเอียด อ่อนตัว ความพอเหมาะพอดี เพื่อให้รัฐบาลชุดต่อไปสามารถทำงานได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญยุทธศาสตร์ชาติจะมีผลต่อทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาสังคม หากเขียนคับแคบหรือหละหลวมเกินไปจะเกิดทั้งผลดีและเสีย จึงควรเขียนด้วยความละเอียดรอบคอบ นึกถึงส่วนรวมเป็นหลัก
นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิกสนช. กล่าวว่า หากร่างยุทธศาสตร์ชาติผ่านความเห็นชอบแล้วสามารถแก้ไขได้ แต่ควรมีแผนแม่บทในยุทธศาสตร์ชาติด้วย เนื่องจาก เป็นการดำเนินงานในระยะ 20 ปี เพราะแผนแม่บทจะส่งผลต่อจำนวนประชากรที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งหากอัตราเกิดน้อยลงจะทำให้จำนวนประชากรกลุ่มผู้สูงอายุสูงขึ้นจนกลายเป็นภาระของประเทศ ดังนั้น ต้องบัญญัติเกี่ยวกับวาระของประชากรและการพัฒนาไว้ในร่างยุทธศาสตร์ชาติด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากใช้เวลาอภิปรายร่างยุทธศาสตร์ชาติประมาณ 4 ชั่วโมง ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบตามที่นายสมชาย แสวงการ เลขานุการวิปสนช. เสนอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญจำนวน 38 คนขึ้นมาศึกษาภายในเวลา 22 วัน นับตั้งแต่วันนี้ (15 มิ.ย.) ก่อนที่สนช.จะให้ความเห็นชอบต่อไป โดยร่างยุทธศาสตร์ชาตินี้ สนช.มีเวลาพิจารณาทั้งสิ้นภายใน 30 วันและจะครบกำหนดกรอบเวลาในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้.- สำนักข่าวไทย
