นนทบุรี 15 มิ.ย. – เอกชนยังคงมั่นใจเศรษฐกิจไทยที่เริ่มฟื้นตัวต่อเนื่อง ทำให้มีการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนพฤษภาคม 2561 รวมกว่า 31,000 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 5
นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยสถิติการยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน บริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศเดือนพฤษภาคม 2561 พบว่า มี 5,865 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มูลค่าทุนจดทะเบียน รวม 21,090 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร ซึ่งเป็นทิศทางที่สอดคล้องกับภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวอย่างชัดเจน จากภาคการส่งออกและภาคการท่องเที่ยว ที่ส่งผลดีต่อธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคาร รวมทั้งการเร่งกระบวนการก่อสร้างโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ที่ส่งผลดีต่อธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์
ทั้งนี้ ภาครัฐยังให้ความสำคัญส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอี เพื่อใช้เป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยส่งเสริมศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมทั้งพัฒนาตลาดผ่านช่องทางอี-คอมเมิร์ซ รวมทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน มีโอกาสเติบโตจากผลของมาตรการและโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐ อาทิ มาตรการดูแลผู้มีรายได้น้อยผ่านโครงการไทยนิยมยั่งยืน ทำให้ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.- พ.ค.61) มีการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทสูงถึง 31,034 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาและยังมั่นใจว่ามาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาลจะเป็นปัจจัยที่ช่วยผลักดันให้การจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ปีนี้ไม่น้อยกว่า 80,000 ราย จากปี 2560 มีจำนวน 74,517 ราย
ส่วนธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการเดือนพฤษภาคม 2561 มีเพียง 1,014 ราย ลดลงร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และระยะ 5 เดือนแรกของปีนี้ รวมธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการ 4,897 ราย ส่งผลให้จนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2561 มีธุรกิจที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ 703,770 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนรวมกว่า 17 ล้านล้านบาท.-สำนักข่าวไทย