กรุงเทพฯ 14 มิ.ย.- ผู้ค้าลอตเตอรี่ ดูภาพตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาครหมดทั้งโรงพักแล้ว ยืนยันไม่ใช่กลุ่มชายฉกรรจ์แอบอ้างเป็นตำรวจรีดทรัพย์ผู้ค้าหากพบขายลอตเตอรี่เกินราคา
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงเหตุ คนร้าย 4 คน แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรียกรับเงินผู้ค้าสลากินแบ่งรัฐบาล ที่จำหน่ายเกินราคา ในพื้นที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร ว่าได้รับรายงานจาก กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสารคร ว่า ผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ถูกชาย 4 คน อ้างต้นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ล่อซื้อลอตเตอรี่ เมื่อพบว่ามีการขายเกินราคาที่กฏหมายกำหนด ก็จะนำตัวขึ้นรถยนต์กระบะและขับพาวนไปเพื่อเจรจาต่อรองให้เสียค่าปรับบนรถ หากไม่ทำตามจะถูกส่งตัวดำเนินคดี ซึ่งมีพ่อค้าแม่ค้าลอตเตอรี่หลายรายถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าว ใช้วิธีการเดียวกัน โดยพ่อค้าแม่ค้าลอตเตอรี่ต้องยอมจ่ายเงินตั้งแต่ 2,000 – 3,000 บาท เพื่อยอมให้จบเรื่อง โดยมีผู้เสียหาย จำนวน 3 คน เกิดเหตุในพื้นที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร
จากการสอบสวน ผู้เสียหายทั้ง 3 คน แจ้งข้อมูลรถยนต์กระบะ ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุว่าเป็น รถยนต์กระบะ โตโยต้า วีโก้ สีดำ ทะเบียน กฉ 6140 ระยอง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นป้ายทะเบียนปลอม เนื่องจากป้ายทะเบียนดังกล่าวเป็นของรถยนต์เก๋ง ฮอนด้า ซีวิค และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ให้ผู้เสียหายทั้ง 3 คนดูภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา จำนวน 4 นาย และภาพบอร์ด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร แล้วไม่ใช่คนร้าย ผู้เสียหายทั้ง 3 คน ยืนยันว่าลักษณะคนร้ายไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปรากฏตามรูปภาพดังกล่าวแต่อย่างใด จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ตรวจสอบกล้องวงจรปิด บริเวณที่เกิดเหตุและตามเส้นทาง
รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นผู้ใด ซึ่งหากพี่น้องประชาชนพบการกระทำในลักษณะดังกล่าว สามารถขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงตัว เพื่อความบริสุทธิ์ใจ หรือขอตรวจสอบบัตรประจำตัว เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงหรือไม่ เพื่อเป็นการป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการมาโดยตลอด ตำรวจต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ใช่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วไปปฏิบัติหน้าที่เหลื่อมล้ำกับกฎหมาย โดยหากเป็นผู้กระทำความผิดเสียเอง ทาง ผบ.ตร.ยอมรับไม่ได้ ไม่เลี้ยงไว้อยู่แล้ว ซึ่งหากพบการกระทำความผิดสร้างความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนต้องเอาผิดให้ถึงที่สุด ทั้งทางวินัยและอาญา แต่หากเป็นกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าตำรวจ คอยสร้างความเดือดร้อนต่อพี่น้อง ประชาชน อีกทั้งเป็นการทำลายภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นต่อองค์กร ต้องเร่งสืบสวน ติดตาม จับกุม ให้ได้โดยเร็ว เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับตำรวจและความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจในการทำงานเพื่อพิสูจน์ทราบผู้กระทำความผิดเป็นผู้ใด หากพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายจากการกระทำในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งความร้องทุกข์เพื่อเอาผิดกับคนร้ายรายนี้ได้ อีกทั้งขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในการสอดส่องดูแลและร่วมแจ้งเบาะแส ข้อมูลของผู้กระทำความผิด โดยสามารถแจ้งข้อมูลมายังสถานีตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงหรือแจ้งหมายังหมายเลข สายด่วน 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย