ทำเนียบ 11 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี ขอบคุณนักการเมือง สร้างอนาคตและทำให้ประชาธิปไตยเข้มแข็ง ย้ำยุทธศาสตร์ชาติไม่ใช่การสืบทอดอำนาจขออย่ากังวลอนาคตทางการเมืองของคนชื่อ “พลเอกประยุทธ์”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเสร็จสิ้นการนั่งรถไฟขบวนพิเศษจากสถานีรถไฟชุมแสง ไปยังสถานีรถไฟนครสวรรค์ ต.หนองปลิง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เพื่อตรวจโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ (ช่วงลพบุรี–ปากน้ำโพ) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังอาคารเอนกประสงค์สัมมนาและจัดแสดงนิทรรศการ บึงบอระเพ็ด โดยมีประชาชน อดีต ส.ส. ส.ว.และนักการเมืองท้องถิ่น มารอต้อนรับนายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีเป็นประธานสักขีพยานมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ หรือ อยู่อาศัย ในพื้นที่เป้าหมาย การจัดที่ดินทำกินพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าปลายห้วยกระเสียวและเป็นพยานมอบเงินกู้ตามโครงการยุ้งฉางของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธกส.
นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณ นักการเมืองที่มาร่วมรับฟังแนวทางการแก้ปัญหาในวันนี้ ซึ่งย้ำว่า ทุกคนจะต้องร่วมมือกัน เพื่อทำให้วันข้างหน้าเมื่อไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ มียุทธศาสตร์ชาติแล้ว จะเดินหน้าร่วมกันอย่างไร เพราะต้องยอมรับว่า เมื่อโลกเปลี่ยน ประเทศไทยก็ต้องเปลี่ยนตาม พร้อมขอร้องให้เข้าถึงความจำเป็นที่ต้องมียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อเป็น กรอบในการขับเคลื่อนประเทศ ไม่ใช่การสืบทอดอำนาจ ซึ่งตามข้อเท็จจริง แม้รัฐบาลจะมีอำนาจในการบริหารราชการแผ่นดิน แต่ต้องยอมรับว่ายังมีปัญหาการทุจริต ที่คอยบั่นทอนความเจริญของประเทศอยู่ เชื่อว่าเรื่องนี้ทุกคนเข้าใจตรงกัน แต่ติดที่ว่าจะทำอย่างไรให้ปัญหาหมดไปให้ได้ ที่สำคัญอีกประการ คือต้องไม่ให้ความขัดแย้ง รุนแรง เกิดขึ้นมาอีก เพราะวันนี้เรากำลังก้าวไปสู่ประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง ทั้งนี้ยืนยันว่่า สิ่งรัฐบาลชุดนี้ทำมาจะไม่สูญเปล่า และขออย่ากังวลกับตัวเองมากนักในเรื่องการเมือง
นายกรัฐมนตรีย้ำว่า กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 โดยเฉพาะนครสวรรค์ ถือว่ามีศักยภาพสูง ทั้งในแง่การผลิต พืชเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น อ้อย มันสำปะหลัง และผลไม้หลายชนิด ดังนั้น จะต้องสร้างความร่วมมิอ เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการที่ดี ทั้งในเรื่องของน้ำ พื้นที่ทางการเกษตร และที่ดินทำกินให้กับประชาชน และจากการที่นครสวรรค์มีบึงบอระเพ็ดที่มีทะเลสาบใหญ่ที่สุดในประเทศ รัฐบาลจึงเน้นที่จะให้มีโครงการเพื่อเป็นแหล่งกักเก็บน้ำ ของการกระจายน้ำไปยังพื้นที่อื่นๆ เพื่อประโยชน์ในการทำการเกษตรทุกประเภท ทั้ง เกษตรกรที่อยู่ในภาคการผลิต หรือการเพราะปลูก และในส่วนที่เป็นเกษตรแปรรูป
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงงบประมาณโครงการไทยนิยม ที่จัดเตรียมไว้ประมาณ 2 แสนล้านบาทนั้น ไม่ใช่งบที่ใช้สำหรับการหาเสียง แต่เป็นงบที่ใช้ในการสร้างประชาธิปไตยในพื้นที่ โดยให้แต่ละพื้นที่เลือกตัวแทนผู้นำหมู่บ้าน ในการสร้างความเข้าใจในประชาธิปไตย พร้อมยืนยัน เรื่องประชารัฐหรือไทยนิยมไม่ใช่เรื่องของการเมือง แจ่ทุกคนต้องเตรียมความพร้อมไปสู่ประชาธิปไตยวันข้างหน้า โดยไม่อยากให้กังวลกับตัวเองมากนัก
ตอนท้ายนายกรัฐมนตรี ขอบคุณบรรดานักการเมืองกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 พร้อมขอให้สัญญาในเรื่องของการเดินหน้าประเทศไปด้วยกัน เพราะวันข้างต้องเดินไปสู่ประชาธิปไตย ตนเองต้องเข้าสู่คูหาเลือกตั้ง เช่นเดียวกับทุกคน จึงขอให้ประชาชนเลือกให้ดี เลือกให้ถูก ให้ได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล เข้ามาดูแลประชาชนทั่วถึงทุกพื้นที่
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ลงจากเวทีแนะนำคณะรัฐมนตรี และหัวหน้าส่วนราชการที่ลงพื้นที่ ก่อนจะทักทายกับอดีตนักการเมืองอย่างเป็นกันเอง โดยกล่าวว่า พี่ๆนักการเมืองทั้งหลาย สวัสดีนะพี่นะ ขอให้ช่วยกันทำเพื่อประเทศไทย ทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าให้ได้ เราต้องเชื่อมั่นในคนไทยด้วยกันเอง ก่อนจะเดินผ่านกลุ่มประชาชน ที่มาต้อนรับ โดยประชาชนสอบถามถึงป้ายทะเบียนรถที่นายกฯใช้ในการลงพื้นที่ นายกฯจึงตอบกลับว่า อย่สไปซื้อหวยมากนัก เพราะรถในการลงพื้นที่ ทางพื้นที่จัดเตรียมไว้ให้ ไม่ใช่รถของตัวเอง จากนั้น นายกฯ ได้ทำการปลูกต้น รวงผึ้ง ต้นไม้ประจำรัชกาลที่ 10.-สำนักข่าวไทย