กรุงเทพฯ 25 ก.ย.- ตำรวจประชุมแบ่งงานเพื่อขยายผลทั้งคดีปลอมแปลงเอกสารและฆ่าหั่นศพแช่แข็งของแก๊งต่างชาติ ก่อนนำมารายงานผลในที่ประชุมอีกครั้งวันพรุ่งนี้ พร้อมเชิญตัวแทนจากสถานทูตอเมริกาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูล หลังพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลยังระบุชิ้นส่วนศพไม่ได้ว่าคือใคร
พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวภายหลังประชุมความคืบหน้า คดีพบชิ้นส่วนศพ ในตู้แช่แข็ง บนอาคารพาณิชย์ซอยสุขุมวิท 56 ระหว่างขยายผลจับกุมแก๊งต่างชาติปลอมพาสปอร์ต เมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมาว่า การพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลของศพ ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นบุคคลสัญชาติใดและอาจไม่ใช่สัญชาติฝรั่งเศส ตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ ซึ่งการทำงาน ตำรวจได้นำภาพไปเปรียบเทียบเชิงซ้อนกับบุคคลต่างชาติที่สูญหายแล้ว แต่ยังต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมเชิญผู้เชี่ยวชาญ ด้านต่าง ๆ รวมถึงตัวแทนจากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริการ่วมหาความชัดเจนเกี่ยวกับการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ส่วนที่ทีมสืบสวนจะลงพื้นที่ขยายผลก่อนนำมาประชุมพร้อมกันบ่ายวันพรุ่งนี้
ส่วนแนวทางการสืบสวนพบว่านายปีเตอร์ แอนดริว โคลเตอร์ เข้ามาเคลื่อนไหวในประเทศไทยนานกว่า 5 ปี เป็นตัวการหลักในการทำหนังสือเดินทางปลอม คาดว่าเจ้าตัวไม่ได้ถือเอกสารยืนยันตัวบุคคลจริง ส่วนบ้านหลังที่ตำรวจเข้าจับกุม ผู้ทำสัญญาเช่าคือ นายเจมส์ ดักกลาส เอ็กเกอร์ ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2558 โดยแจ้งต่อเจ้าของอาคารว่าเช่าเพื่อทำธุรกิจ ส่วนสารเคมีที่พบบางรายการเป็นสารต้องห้ามซื้อขายในประเทศไทย เชื่อว่ากลุ่มผู้ต้องหานำเข้ามาเพื่อใช้ในการปลอมแปลงหนังสือเดินทาง
สำหรับตู้แช่ชิ้นส่วนศพน่าจะเคลื่อนย้ายจากที่พักย่านเอกมัยซอย 12 มาที่พักซอย สุขุมวิท 56 ส่วนตู้แช่รุ่นดังกล่าวเลิกผลิตมานานแล้ว กลุ่มผู้ต้องหาอาจซื้อตู้มือ 2 มาใช้ และเตรียมนำกำลังดำเนินการเข้าตรวจสอบบ้านพักย่านเอกมัยเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม.-สำนักข่าวไทย