ปีเตอร์รับหั่นศพแช่แข็งเองปัดฆ่า

กรุงเทพฯ 1 ต.ค.- ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ คำให้การของปีเตอร์ที่รับเป็นคนลงมือหั่นศพแช่แข็งแต่ปฏิเสธฆ่า อ้างเคลียร์หนี้สินไม่ลงตัว


พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยเปิดเผยความคืบหน้าคดีฆ่าหั่นศพแช่แข็งในตู้แช่ที่อาคารพาณิชย์ซอยสุขุมวิท 56 ว่า ได้สอบปากคำนนายปีเตอร์ แอนดรูว์ โคลเตอร์ หรือนายเฮอร์เบิร์ต เครก ลาฟอง ถึงเวลา 3 นาฬิกา รับสารภาพแต่เพียงว่าได้ทำการหั่นศพจริง แต่ไม่ได้ฆ่าชายชาวฮังกาเรียน ส่วนสาเหตุอ้างเรื่องปัญหาเคลียร์หนี้สิน ซึ่งตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ  และอยู่ระหว่างหาพยานหลักฐานมามัดตัวผู้กระทำผิด จึงยังไม่ได้ออกหมายจับในคดีฆ่า เบื้องต้นเชื่อว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุ 2-3 คน

ส่วนผลชันสูตรชิ้นส่วนศพที่ได้จากแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ที่ระบุอัตลักษณ์บุคคลของผู้เสียชีวิตในคดีฆ่าหั่นศพแช่แข็ง ว่าเป็นชายชาวฮังกาเรียน อายุ 40-50 ปี สูงประมาณ 179.5 ซม. เชื้อชาติฮังการี่ สาเหตุการเสียชีวิต ขาดอากาศหายใจและหรือการใช้ยาหรือสารพิษร่วมด้วยนั้น ตรงกับแนวทางการสืบสวนของตำรวจ ซึ่งขณะนี้ตำรวจทราบแล้วว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร รอเพียงผลตรวจฟัน และลายนิ้วมือ อย่างเป็นทางการ และนายปีเตอร์ ได้ชี้ยืนยันภาพถ่ายผู้เสียชีวิตแล้ว และคาดว่าผู้เสียชีวิตถูกฆาตกรรม ในช่วงปี 2551 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับการซื้อตู้เย็น ส่วนลายนิ้วมือแฝงที่พบบนถุงดำห่อศพพบว่าเป็นของหนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้


ขณะที่ช่วงบ่ายวันนี้จะเชิญพยานปากสำคัญที่เคยมีความสัมพันธ์กับนายปีเตอร์ เข้าให้ปากคำที่ สน.พระโขนง เพื่อยืนยันพฤติการณ์ชอบใช้ความรุนแรงทำร้ายผู้อื่น และเหตุการณ์กักขังหน่วงเหนี่ยวทำร้ายร่างกาย ที่เคยทำกับตัวพยานในอดีต รวมถึงพฤติกรรมชอบดูภาพยนตร์แนวทริลเลอร์,สยองขวัญ ซึ่งเชื่อว่าเป็นหนึ่งในแรงจูงใจในคดีนี้

ทั้งนี้นายปีเตอร์ แอนดรูว์ โคลเตอร์ หรือนายเฮอร์เบิร์ต เครก ลาฟอง ผู้ต้องสงสัยในคดีนี้  ยังอยู่ในระหว่างการพักรักษาตัว และควบคุมตัวชั่วคราวไว้ที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งหากได้รับการรักษาจนหายดีแล้ว ก็จะส่งตัวไปฝากขังต่อศาลต่อไป.-สำนักข่าวไทย

 


 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง