รร.ดิแอทธินี 11 มิ.ย. – คมนาคม-วิทยุการบินฯ จัดประชุมผู้ให้บริการจราจรทางอากาศทั่วโลก เร่งหารือแนวทางนำบิ๊กดาต้ามาใช้บริหารจัดการจราจรทางอากาศแบบไร้รอยต่อ รองรับผู้โดยสารที่จะสูงขึ้น 200 ล้านคน ใน 3 สนามบินหลัก
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง คมนาคม เป็นประธานเปิดการประชุม CANSO Asia Pacific Conference, CANSO Global ATM Summit, Annual General Meeting (AGM) และการประชุมที่เกี่ยวข้องด้านการให้บริการจราจรทางอากาศ ระหว่างวันที่ 7 – 14 มิถุนายน 2561 จัดโดยบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด
ภายหลังเป็นประธานการประชุม CANSO Asia Pacific Conference นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญของประเทศไทยที่ได้แสดงศักยภาพในเวทีการบินโลก ซึ่งมี 150 ประเทศสมาชิกเข้าร่วม โดยเป็นการหารือเพื่อปรับปรุงการประสานความร่วมมือกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชีย-แปซิฟิก เพื่อมุ่งไปสู่การบริหารจราจรทางอากาศแบบไร้รอยต่อ
สำหรับปีนี้มีการหารือ 2 ประเด็นหลัก คือ ยุทธศาสตร์ใหม่วิทยุการบินของโลกที่เติบโตขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งอุตสาหกรรมการบินของไทยเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ปริมาณเที่ยวบินปี 2561 สูงถึง 1 ล้านเที่ยวบิน คิดเป็นอัตราการเติบโตผู้โดยสารร้อยละ 6 และอีก 10 ปีข้างหน้าคาดการณ์ว่าปริมาณเที่ยวบินรวมจะสูงถึง 2 ล้านเที่ยวบิน ขณะที่การเติบโตมากกว่าร้อยละ 50 ซึ่งมีการเติบโตอย่างมากในกลุ่มเอเชีย-แปซิฟิก จึงต้องมียุทธศาตร์การใช้ห้วงอากาศ เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ยังมีการแลกเปลี่ยนและเชื่อมโยงข้อมูล เพื่อบริหารต้นทุนและบริหารจัดการด้านความปลอดภัยมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสให้หน่วยงานการบินของไทยได้ร่วมกำหนดทิศทางการดำเนิงานด้านการบิน เพื่อพร้อมรองรับการเติบโตและความท้าทายต่าง ๆ ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันไทยมีท่าอากศยาน 3 แห่ง คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง และอู่ตะเภา ซึ่งสามารถรองรับผู้โดยสารเต็มประสิทธิภาพ 200 ล้านคน ส่วนสนามบินในต่างจังหวัด เช่น เชียงใหม่ และภูเก็ต ซึ่งมีปริมาณผู้โดยสารมาใช้บริการจำนวนมาก ซึ่งต้องเร่งจัดการจราจรทางอากาศร่วมกัน เพื่อใช้ทั้งด้านพาณิชย์และความมั่นคงให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) สนับสนุนให้มีการจัดการจราจรทางอากาศร่วมกัน เพื่อความมั่นคงด้านอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาไทยอยู่ระหว่างติดธงแดงได้มอบหมายให้บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ทำงานร่วมกับบริษัทให้คำปรึกษาด้านการบินของสหราชอาณาจักร หรือซีเอเอไอ เนื่องจากมีประสบการณ์จัดการจราจรทางอากาศของสนามบินฮีทโธร์วที่มีความหนาแน่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนของไทยมองว่าปัญหาจราจรด้านอากาศที่หนาแน่นจะลดลง หากเปิดใช้อีก 1 รันเวย์ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
สำหรับการประชุมนี้เป็นเวทีที่ผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานให้บริการจราจรทางอากาศจากทุกภูมิภาคทั่วโลกหารือเกี่ยวกับปัญหา ข้อจำกัด แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและหารือแนวทางในการปฏิบัติที่ดีที่สุด รวมทั้งร่วมกันกำหนดทิศทางด้านการให้บริการจราจรทางอากาศที่มุ่งเน้นเรื่องการแลกเปลี่ยนและเชื่อมโยงข้อมูล (Big Data) เพื่อบริหารต้นทุนและบริหารจัดการด้านความปลอดภัยมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและเป็นโอกาส สำคัญที่ไม่เพียงแต่วิทยุการบินฯ เท่านั้นหน่วยงานการบินของไทยได้ร่วมกำหนดทิศทางการดำเนิงานด้านการบิน เพื่อพร้อมรองรับการเติบโตและความท้าทายต่าง ๆ
นอกจากนี้ ยังมีบริษัทผู้ผลิตระบบอุปกรณ์ /เทคโนโลยีด้านการบิน ผู้ผลิตระบบติดตามอากาศยาน ผู้ผลิตเทคโนโลยีการบริหารจราจรทางอากาศ รวมทั้งผู้แทนจากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) สมาพันธ์ผู้ควบคุมจราจรทางอากาศนานาชาติ (IFATCA)สมาพันธ์นักบินนานาชาติ(IFALPA) และสายการบินเข้าร่วมด้วย.-สำนักข่าวไทย