fbpx

คปพ. บุก ก.พลังงาน 13 มิ.ย.ยื่นปรับโครงสร้างราคาทั้งระบบ

กรุงเทพฯ 7 มิ.ย. – เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) เตรียมยื่นหนังสือ ก.พลังงาน 13 มิ.ย.ปรับโครงสร้างราคาหน้าโรงกลั่นฯ,น้ำมัน,ก๊าซครัวเรือน,เอทานอล เลิกอิงค่าขนส่งจากต่างประเทศ ด้าน โรงกลั่นฯแจงราคาส่งออกต่ำกว่าราคาในประเทศเพราะเป็นน้ำมันเกรดต่ำกว่าการขายในประเทศ


คปพ.นำโดย นางสาวรสนา โตสิตระกูลและเครือข่ายได้จัดอภิปรายเรื่องโครงสร้างราคาพลังงาน พร้อมชี้ว่ารัฐบาลควรปรับปรุงหลายประเด็น เพื่อทำให้ราคาในประเทศต่ำลง โดยจะมายื่นหนังสือถึงกระทรวงพลังงานวันที่ 13 มิ.ย. นี้มีหลากหลายข้อเสนอ เช่น ให้โรงกลั่นน้ำมันกำหนดราคาขายในประเทศเช่นเดียวกับการส่งออกไปสิงคโปร์ โดยไม่ต้องมีการเปรียบเทียบต้นทุนการนำเข้าจากสิงคโปร์เพราะราคาส่งออกจำหน่ายในราคาต่ำกว่าการขายในประเทศ,ให้ยกเลิกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และใช้ภาษีสรรพสามิตเข้ามาเป็นกลไกดูแลราคาน้ำมันแทน โดยช่วงราคาน้ำมันสูงก็ควรลดภาษีลงมา,ให้งดการจัดเก็บกองทุนส่งเสริมเพื่อการอนุรักษ์พลังงานที่จัดเก็บ 10 สต./หน่วย เพราะขณะนี้เงินกองทุนมีสูงถึง 41,000 ล้านบาท และมีการใช้อุดหนุนข้ามประเภทที่นำเงินจากผู้ใช้น้ำมันไปอุดหนุนด้านไฟฟ้า ,ส่วนราคาก๊าซหุงต้มเฉพาะภาคครัวเรือนควรกลับไปใช้สูตรในอดีตที่อ้างอิงราคาตะวันออกกลางไม่เกิน 333 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน เพื่อทำให้ราคาภาคครัวเรือนไม่เกิน 10 บาท/กก. 

ส่วนราคาเอทานอล ก็ควรปรับสูตรให้ราคาแพงกว่าราคาอ้างอิงตลาดโลกไม่เกินร้อยละ 10 จะช่วยทำให้ราคาลดลงได้อย่างน้อย 3-4 บาท/ลิตร จากที่ปัจจุบันราคาไทยสูงกว่า บราซิลประมาณ 9 บาท/ลิตร ก็ควรจะสูงกว่าไม่กิน 6-7 บาทต่อลิตร นอกจากนี้ ในส่วนของภาษีมูลค่าเพิ่มในสูตรน้ำมันก็ควรจะคิดเฉพาะเนื้อน้ำมันเท่านั้นไม่ควรคำนวณราคาสุดท้ายที่รวมภาษีอื่นๆและเงินกองทุนฯต่างๆเข้าไปด้วย


นายสมภพ พัฒนอริยางกูล โฆษกกระทรวงพลังงาน  กล่าวว่า ข้อเรียกร้องในหนังสือที่ส่งมากนั้น หากเกี่ยวข้องกับหน่วยงานใด ทางกระทรวงพลังงานจะมอบหมายให้หน่วยงานนั้นพิจารณา หรือ ชี้แจงตามความเหมาะสมต่อไป อย่างไรก็ตามในส่วนการข้อสงสัยเกี่ยวกับทำไมประเทศไทยต้องอิงราคาน้ำมันจากตลาดสิงคโปร์นั้น ทางสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) ได้จัดทำข้อเท็จจริงเผยแพร่อยู่ในเว็บไซต์ สนพ. แล้ว ประชาชนสามารถเข้าไปดูข้อเท็จจริงได้

นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยออยล์  กล่าวว่า โรงกลั่นไทยออยล์ส่งออกร้อยละ 13 และขายในประเทศร้อยละ 87 การที่ราคาส่งออกต่ำกว่าในประเทศ ก็เนื่องจากว่าเป็นน้ำมันคุณภาพต่ำกว่าข้อกำหนดคุณภาพมาตรฐานของภาครัฐ เช่น ดีเซล ในเมืองไทยกำหนดต้องขายมาตรฐาน ยูโร 4 แต่ส่วนที่ส่งออก เป็นน้ำมันคุณภาพที่ต่ำกว่ายูโร 4  ซึ่งขายไม่ได้ในไทย เผาทิ้งก็ไม่เกิดประโยชน์ และผู้ซื้อ เช่นสิงคโปร์ก็ต้องซื้อไปเพื่อผสมกับน้ำมันอื่นๆเพื่อจำหน่ายต่อ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องปกติทางการค้าที่ของราคาคุณภาพต่ำกว่าก็ต้องขายในราคาถูกกว่า 

ในขณะเดียวกัน ค่าขนส่งในโรงกลั่นฯไม่ใช่ค่าขนส่งเทียม เพราะ โรงกลั่นมีต้นทุนขนส่งนำเข้าน้ำมันดิบเข้ามากลั่น มีค่าประกันและสูญเสียอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ทางภาครัฐได้กำหนดสูตรราคาอ้างอิงการนำเข้าจากสิงคโปร์ก็เพื่อติดตามการดำเนินการให้เหมาะสม ส่วนราคาขายของโรงกลั่นก็ขึ้นกับช่วงเวลานั้นว่าความต้องการของตลาดเป็นอย่างไร สะท้อนกลไกลตลาดเป็นหลัก 


“โรงกลั่นไทยออยล์ผลิตมากว่า 50ปี  ธุรกิจการกลั่นต้องเดินเครื่องให้สูงสุด เพื่อให้คุ้มค่าเชิงเศรษฐกิจและให้ต้นทุนราคาต่ำ โดยโรงกลั่นเก่าจำเป็นต้องมีกำไรเพื่อมาปรับปรุงคุณภาพการผลิตให้เดินเครื่องอย่างมั่นคงและได้คุณภาพตามที่รัฐกำหนดและให้แข่งขันกับการนำเข้าให้ได้ ต้องเพิ่มประสิทิภาพตลอดเวลา ไม่ใช่มีค่าเสื่อมแล้วต้องปล่อยให้โรงงานเสื่อมไปตามเวลา ซึ่ง ธุรกิจค้าน้ำมันทั้งปั๊มน้ำมันและโรงกลั่น เสรีมาตั้งแต่ปี 2534 โดยผู้ค้าก็สามารถนำเข้ามาได้ หากเห็นว่าต้นทุนต่ำกว่าโรงกลั่นในประเทศ แต่ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ก็ซื้อจากโรงกลั่นในประเทศเพราะต้นทุนแข่งขันได้”นายอธิคมกล่าว

นายอธิคม กล่าวด้วยว่า โรงกลั่นของสิงคโปร์นั้นตั้งขึ้นมาเพื่อส่งออกเป็นหลัก แต่ของไทยตั้งขึ้นมาเพื่อใช้ในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า โดยโรงกลั่นสิงคโปร์มี 3 แห่ง รวม กำลังกลั่น 1.4 ล้านบาร์/วัน หรือ 4 แสนบาร์เรล/วัน/โรง แต่ ของไทยมี 6 โรงกลั่น กำลังผลิตรวมเพียง 1.1-1.2 ล้านบาร์เรล/วัน กำลังกลั่น 1-2 แสนบาร์เรล/วัน/โรง  ในขณะที่สิงคโปร์ไม่มีการสำรองน้ำมันทางกฏหมาย แต่ของไทยสำรองสูงถึงร้อยละ 6 อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องที่ดีที่รัฐบาลจะลดสำรองลงบ้าง ก็จะทำให้ต้นทุนในส่วนนี้ลดลง -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้