คปพ. บุก ก.พลังงาน 13 มิ.ย.ยื่นปรับโครงสร้างราคาทั้งระบบ

กรุงเทพฯ 7 มิ.ย. – เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) เตรียมยื่นหนังสือ ก.พลังงาน 13 มิ.ย.ปรับโครงสร้างราคาหน้าโรงกลั่นฯ,น้ำมัน,ก๊าซครัวเรือน,เอทานอล เลิกอิงค่าขนส่งจากต่างประเทศ ด้าน โรงกลั่นฯแจงราคาส่งออกต่ำกว่าราคาในประเทศเพราะเป็นน้ำมันเกรดต่ำกว่าการขายในประเทศ


คปพ.นำโดย นางสาวรสนา โตสิตระกูลและเครือข่ายได้จัดอภิปรายเรื่องโครงสร้างราคาพลังงาน พร้อมชี้ว่ารัฐบาลควรปรับปรุงหลายประเด็น เพื่อทำให้ราคาในประเทศต่ำลง โดยจะมายื่นหนังสือถึงกระทรวงพลังงานวันที่ 13 มิ.ย. นี้มีหลากหลายข้อเสนอ เช่น ให้โรงกลั่นน้ำมันกำหนดราคาขายในประเทศเช่นเดียวกับการส่งออกไปสิงคโปร์ โดยไม่ต้องมีการเปรียบเทียบต้นทุนการนำเข้าจากสิงคโปร์เพราะราคาส่งออกจำหน่ายในราคาต่ำกว่าการขายในประเทศ,ให้ยกเลิกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และใช้ภาษีสรรพสามิตเข้ามาเป็นกลไกดูแลราคาน้ำมันแทน โดยช่วงราคาน้ำมันสูงก็ควรลดภาษีลงมา,ให้งดการจัดเก็บกองทุนส่งเสริมเพื่อการอนุรักษ์พลังงานที่จัดเก็บ 10 สต./หน่วย เพราะขณะนี้เงินกองทุนมีสูงถึง 41,000 ล้านบาท และมีการใช้อุดหนุนข้ามประเภทที่นำเงินจากผู้ใช้น้ำมันไปอุดหนุนด้านไฟฟ้า ,ส่วนราคาก๊าซหุงต้มเฉพาะภาคครัวเรือนควรกลับไปใช้สูตรในอดีตที่อ้างอิงราคาตะวันออกกลางไม่เกิน 333 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน เพื่อทำให้ราคาภาคครัวเรือนไม่เกิน 10 บาท/กก. 

ส่วนราคาเอทานอล ก็ควรปรับสูตรให้ราคาแพงกว่าราคาอ้างอิงตลาดโลกไม่เกินร้อยละ 10 จะช่วยทำให้ราคาลดลงได้อย่างน้อย 3-4 บาท/ลิตร จากที่ปัจจุบันราคาไทยสูงกว่า บราซิลประมาณ 9 บาท/ลิตร ก็ควรจะสูงกว่าไม่กิน 6-7 บาทต่อลิตร นอกจากนี้ ในส่วนของภาษีมูลค่าเพิ่มในสูตรน้ำมันก็ควรจะคิดเฉพาะเนื้อน้ำมันเท่านั้นไม่ควรคำนวณราคาสุดท้ายที่รวมภาษีอื่นๆและเงินกองทุนฯต่างๆเข้าไปด้วย


นายสมภพ พัฒนอริยางกูล โฆษกกระทรวงพลังงาน  กล่าวว่า ข้อเรียกร้องในหนังสือที่ส่งมากนั้น หากเกี่ยวข้องกับหน่วยงานใด ทางกระทรวงพลังงานจะมอบหมายให้หน่วยงานนั้นพิจารณา หรือ ชี้แจงตามความเหมาะสมต่อไป อย่างไรก็ตามในส่วนการข้อสงสัยเกี่ยวกับทำไมประเทศไทยต้องอิงราคาน้ำมันจากตลาดสิงคโปร์นั้น ทางสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) ได้จัดทำข้อเท็จจริงเผยแพร่อยู่ในเว็บไซต์ สนพ. แล้ว ประชาชนสามารถเข้าไปดูข้อเท็จจริงได้

นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยออยล์  กล่าวว่า โรงกลั่นไทยออยล์ส่งออกร้อยละ 13 และขายในประเทศร้อยละ 87 การที่ราคาส่งออกต่ำกว่าในประเทศ ก็เนื่องจากว่าเป็นน้ำมันคุณภาพต่ำกว่าข้อกำหนดคุณภาพมาตรฐานของภาครัฐ เช่น ดีเซล ในเมืองไทยกำหนดต้องขายมาตรฐาน ยูโร 4 แต่ส่วนที่ส่งออก เป็นน้ำมันคุณภาพที่ต่ำกว่ายูโร 4  ซึ่งขายไม่ได้ในไทย เผาทิ้งก็ไม่เกิดประโยชน์ และผู้ซื้อ เช่นสิงคโปร์ก็ต้องซื้อไปเพื่อผสมกับน้ำมันอื่นๆเพื่อจำหน่ายต่อ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องปกติทางการค้าที่ของราคาคุณภาพต่ำกว่าก็ต้องขายในราคาถูกกว่า 

ในขณะเดียวกัน ค่าขนส่งในโรงกลั่นฯไม่ใช่ค่าขนส่งเทียม เพราะ โรงกลั่นมีต้นทุนขนส่งนำเข้าน้ำมันดิบเข้ามากลั่น มีค่าประกันและสูญเสียอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ทางภาครัฐได้กำหนดสูตรราคาอ้างอิงการนำเข้าจากสิงคโปร์ก็เพื่อติดตามการดำเนินการให้เหมาะสม ส่วนราคาขายของโรงกลั่นก็ขึ้นกับช่วงเวลานั้นว่าความต้องการของตลาดเป็นอย่างไร สะท้อนกลไกลตลาดเป็นหลัก 


“โรงกลั่นไทยออยล์ผลิตมากว่า 50ปี  ธุรกิจการกลั่นต้องเดินเครื่องให้สูงสุด เพื่อให้คุ้มค่าเชิงเศรษฐกิจและให้ต้นทุนราคาต่ำ โดยโรงกลั่นเก่าจำเป็นต้องมีกำไรเพื่อมาปรับปรุงคุณภาพการผลิตให้เดินเครื่องอย่างมั่นคงและได้คุณภาพตามที่รัฐกำหนดและให้แข่งขันกับการนำเข้าให้ได้ ต้องเพิ่มประสิทิภาพตลอดเวลา ไม่ใช่มีค่าเสื่อมแล้วต้องปล่อยให้โรงงานเสื่อมไปตามเวลา ซึ่ง ธุรกิจค้าน้ำมันทั้งปั๊มน้ำมันและโรงกลั่น เสรีมาตั้งแต่ปี 2534 โดยผู้ค้าก็สามารถนำเข้ามาได้ หากเห็นว่าต้นทุนต่ำกว่าโรงกลั่นในประเทศ แต่ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ก็ซื้อจากโรงกลั่นในประเทศเพราะต้นทุนแข่งขันได้”นายอธิคมกล่าว

นายอธิคม กล่าวด้วยว่า โรงกลั่นของสิงคโปร์นั้นตั้งขึ้นมาเพื่อส่งออกเป็นหลัก แต่ของไทยตั้งขึ้นมาเพื่อใช้ในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า โดยโรงกลั่นสิงคโปร์มี 3 แห่ง รวม กำลังกลั่น 1.4 ล้านบาร์/วัน หรือ 4 แสนบาร์เรล/วัน/โรง แต่ ของไทยมี 6 โรงกลั่น กำลังผลิตรวมเพียง 1.1-1.2 ล้านบาร์เรล/วัน กำลังกลั่น 1-2 แสนบาร์เรล/วัน/โรง  ในขณะที่สิงคโปร์ไม่มีการสำรองน้ำมันทางกฏหมาย แต่ของไทยสำรองสูงถึงร้อยละ 6 อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องที่ดีที่รัฐบาลจะลดสำรองลงบ้าง ก็จะทำให้ต้นทุนในส่วนนี้ลดลง -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากระเบิดกัมพูชา ทำพิธีลอยอังคาร

ชลบุรี 24 ส.ค. – 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุกัมพูชายิงจรวดตกใส่ ทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณกลางอ่าวสัตหีบ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดของกัมพูชา เมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม ประกอบด้วย ครอบครัวประชัน ซึ่งสูญเสียนางสาวรุ่งรัศ เด็กหญิงทักษพร และเด็กชายพงศภัค ครอบครัวเด็กชายกิตติศักดิ์ คำวัง ครอบครัวนางสาวอรุณรัตน์ วันศรี ครอบครัวนายสมศรี ลาภบุญ และครอบครัวนางสาวสาวิตรี อ่อนทรวง นำอัฐิผู้เสียชีวิต เดินทางจากจังหวัดศรีสะเกษ มายังกองเรือยุทธการ ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก สนับสนุนที่พัก รวมทั้ง จัดเรือกร.702 นำครอบครัวผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกลางอ่าวสัตหีบ พิธีเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมเกียรติ ทุกคนต่างบอกว่า แม้จะผ่านมา 1 เดือน แต่ก็ยังทำใจไม่ได้ โดยเฉพาะครอบครัวประชัน ที่ต้องภรรยาและลูกอีก 2 คนไปพร้อมกัน.-สำนักข่าวไทย

ทบ. ตรวจสอบสาเหตุพลทหารเสียชีวิตที่ปราสาทตาเมือนธม

24 ส.ค. – กองทัพบกได้รับรายงานการเสียชีวิตของกำลังพลบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิอย่างครบถ้วน กองทัพบกขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของ พลทหาร พิทยุตท์ โสดา กำลังพลสังกัด กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 18.15 น. โดยพบร่างผู้เสียชีวิตภายในห้องสุขา บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พลทหารพิทยุตท์ โสดา อายุ 20 ปี เป็นทหารกองประจำการ รุ่นปี 1/67 จากการสมัครใจเข้ามารับราชการในโครงการพลทหารออนไลน์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พลปืนเล็ก หมู่ปืนเล็กที่ 2 หมวดปืนเล็กที่ 1 สังกัด กองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติเสพยาเสพติด ไม่มีภาวะความเครียด […]

แจงปมเลขบัตรประชาชน “หลวงพ่ออลงกต” ซ้ำคนตาย

กทม. 24 ส.ค.-กรมการปกครอง แจงปม “เลขประจำตัวประชาชน” หลวงพ่ออลงกต ซ้ำกับคนตาย ส่วนการเปิดพร้อมเพย์ เลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ตาย ซึ่งตรงกับบัญชีกองทุนอาทรประชานาถ เป็นการดำเนินการโดยธนาคารพาณิชย์ กรณีมีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งมีชื่อเดิมว่า นายอลงกต พูลมุข มีชื่อซ้ำกับ นายอลงกต พลมุข ที่มีภูมิลำเนาที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น รวมทั้งวันเดือนเกิดยังตรงกัน ต่างกันเพียงปีเกิด ล่าสุดเฟซบุ๊ก กรมการปกครอง fanpage ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า “กรมการปกครอง ชี้แจงกรณีเลขบัตรประจำตัวประชาชนของหลวงพ่ออลงกต ตามที่ปรากฏข้อมูลจากสื่อมวลชนว่า ‘หลวงพ่ออลงกต มีเลขประจำตัวประชาชนตรงกับนายอลงกต พลมุข ซึ่งเป็นบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว’ นั้น สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง พบว่า พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เลขประจำตัวประชาชน x-xxxx-xxx036-50-7 ชื่อจริง อลงกต พูลมุข นามสกุล พูลมุข มีสระอู เกิดปี […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]