คปพ. บุก ก.พลังงาน 13 มิ.ย.ยื่นปรับโครงสร้างราคาทั้งระบบ

กรุงเทพฯ 7 มิ.ย. – เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) เตรียมยื่นหนังสือ ก.พลังงาน 13 มิ.ย.ปรับโครงสร้างราคาหน้าโรงกลั่นฯ,น้ำมัน,ก๊าซครัวเรือน,เอทานอล เลิกอิงค่าขนส่งจากต่างประเทศ ด้าน โรงกลั่นฯแจงราคาส่งออกต่ำกว่าราคาในประเทศเพราะเป็นน้ำมันเกรดต่ำกว่าการขายในประเทศ


คปพ.นำโดย นางสาวรสนา โตสิตระกูลและเครือข่ายได้จัดอภิปรายเรื่องโครงสร้างราคาพลังงาน พร้อมชี้ว่ารัฐบาลควรปรับปรุงหลายประเด็น เพื่อทำให้ราคาในประเทศต่ำลง โดยจะมายื่นหนังสือถึงกระทรวงพลังงานวันที่ 13 มิ.ย. นี้มีหลากหลายข้อเสนอ เช่น ให้โรงกลั่นน้ำมันกำหนดราคาขายในประเทศเช่นเดียวกับการส่งออกไปสิงคโปร์ โดยไม่ต้องมีการเปรียบเทียบต้นทุนการนำเข้าจากสิงคโปร์เพราะราคาส่งออกจำหน่ายในราคาต่ำกว่าการขายในประเทศ,ให้ยกเลิกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และใช้ภาษีสรรพสามิตเข้ามาเป็นกลไกดูแลราคาน้ำมันแทน โดยช่วงราคาน้ำมันสูงก็ควรลดภาษีลงมา,ให้งดการจัดเก็บกองทุนส่งเสริมเพื่อการอนุรักษ์พลังงานที่จัดเก็บ 10 สต./หน่วย เพราะขณะนี้เงินกองทุนมีสูงถึง 41,000 ล้านบาท และมีการใช้อุดหนุนข้ามประเภทที่นำเงินจากผู้ใช้น้ำมันไปอุดหนุนด้านไฟฟ้า ,ส่วนราคาก๊าซหุงต้มเฉพาะภาคครัวเรือนควรกลับไปใช้สูตรในอดีตที่อ้างอิงราคาตะวันออกกลางไม่เกิน 333 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน เพื่อทำให้ราคาภาคครัวเรือนไม่เกิน 10 บาท/กก. 

ส่วนราคาเอทานอล ก็ควรปรับสูตรให้ราคาแพงกว่าราคาอ้างอิงตลาดโลกไม่เกินร้อยละ 10 จะช่วยทำให้ราคาลดลงได้อย่างน้อย 3-4 บาท/ลิตร จากที่ปัจจุบันราคาไทยสูงกว่า บราซิลประมาณ 9 บาท/ลิตร ก็ควรจะสูงกว่าไม่กิน 6-7 บาทต่อลิตร นอกจากนี้ ในส่วนของภาษีมูลค่าเพิ่มในสูตรน้ำมันก็ควรจะคิดเฉพาะเนื้อน้ำมันเท่านั้นไม่ควรคำนวณราคาสุดท้ายที่รวมภาษีอื่นๆและเงินกองทุนฯต่างๆเข้าไปด้วย


นายสมภพ พัฒนอริยางกูล โฆษกกระทรวงพลังงาน  กล่าวว่า ข้อเรียกร้องในหนังสือที่ส่งมากนั้น หากเกี่ยวข้องกับหน่วยงานใด ทางกระทรวงพลังงานจะมอบหมายให้หน่วยงานนั้นพิจารณา หรือ ชี้แจงตามความเหมาะสมต่อไป อย่างไรก็ตามในส่วนการข้อสงสัยเกี่ยวกับทำไมประเทศไทยต้องอิงราคาน้ำมันจากตลาดสิงคโปร์นั้น ทางสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) ได้จัดทำข้อเท็จจริงเผยแพร่อยู่ในเว็บไซต์ สนพ. แล้ว ประชาชนสามารถเข้าไปดูข้อเท็จจริงได้

นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยออยล์  กล่าวว่า โรงกลั่นไทยออยล์ส่งออกร้อยละ 13 และขายในประเทศร้อยละ 87 การที่ราคาส่งออกต่ำกว่าในประเทศ ก็เนื่องจากว่าเป็นน้ำมันคุณภาพต่ำกว่าข้อกำหนดคุณภาพมาตรฐานของภาครัฐ เช่น ดีเซล ในเมืองไทยกำหนดต้องขายมาตรฐาน ยูโร 4 แต่ส่วนที่ส่งออก เป็นน้ำมันคุณภาพที่ต่ำกว่ายูโร 4  ซึ่งขายไม่ได้ในไทย เผาทิ้งก็ไม่เกิดประโยชน์ และผู้ซื้อ เช่นสิงคโปร์ก็ต้องซื้อไปเพื่อผสมกับน้ำมันอื่นๆเพื่อจำหน่ายต่อ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องปกติทางการค้าที่ของราคาคุณภาพต่ำกว่าก็ต้องขายในราคาถูกกว่า 

ในขณะเดียวกัน ค่าขนส่งในโรงกลั่นฯไม่ใช่ค่าขนส่งเทียม เพราะ โรงกลั่นมีต้นทุนขนส่งนำเข้าน้ำมันดิบเข้ามากลั่น มีค่าประกันและสูญเสียอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ทางภาครัฐได้กำหนดสูตรราคาอ้างอิงการนำเข้าจากสิงคโปร์ก็เพื่อติดตามการดำเนินการให้เหมาะสม ส่วนราคาขายของโรงกลั่นก็ขึ้นกับช่วงเวลานั้นว่าความต้องการของตลาดเป็นอย่างไร สะท้อนกลไกลตลาดเป็นหลัก 


“โรงกลั่นไทยออยล์ผลิตมากว่า 50ปี  ธุรกิจการกลั่นต้องเดินเครื่องให้สูงสุด เพื่อให้คุ้มค่าเชิงเศรษฐกิจและให้ต้นทุนราคาต่ำ โดยโรงกลั่นเก่าจำเป็นต้องมีกำไรเพื่อมาปรับปรุงคุณภาพการผลิตให้เดินเครื่องอย่างมั่นคงและได้คุณภาพตามที่รัฐกำหนดและให้แข่งขันกับการนำเข้าให้ได้ ต้องเพิ่มประสิทิภาพตลอดเวลา ไม่ใช่มีค่าเสื่อมแล้วต้องปล่อยให้โรงงานเสื่อมไปตามเวลา ซึ่ง ธุรกิจค้าน้ำมันทั้งปั๊มน้ำมันและโรงกลั่น เสรีมาตั้งแต่ปี 2534 โดยผู้ค้าก็สามารถนำเข้ามาได้ หากเห็นว่าต้นทุนต่ำกว่าโรงกลั่นในประเทศ แต่ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ก็ซื้อจากโรงกลั่นในประเทศเพราะต้นทุนแข่งขันได้”นายอธิคมกล่าว

นายอธิคม กล่าวด้วยว่า โรงกลั่นของสิงคโปร์นั้นตั้งขึ้นมาเพื่อส่งออกเป็นหลัก แต่ของไทยตั้งขึ้นมาเพื่อใช้ในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า โดยโรงกลั่นสิงคโปร์มี 3 แห่ง รวม กำลังกลั่น 1.4 ล้านบาร์/วัน หรือ 4 แสนบาร์เรล/วัน/โรง แต่ ของไทยมี 6 โรงกลั่น กำลังผลิตรวมเพียง 1.1-1.2 ล้านบาร์เรล/วัน กำลังกลั่น 1-2 แสนบาร์เรล/วัน/โรง  ในขณะที่สิงคโปร์ไม่มีการสำรองน้ำมันทางกฏหมาย แต่ของไทยสำรองสูงถึงร้อยละ 6 อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องที่ดีที่รัฐบาลจะลดสำรองลงบ้าง ก็จะทำให้ต้นทุนในส่วนนี้ลดลง -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชาวแม่อายกังวลพบสารหนูในร่างกาย สธ.ยันไม่เกินมาตรฐาน

เชียงใหม่ 8 ก.ค. – หลังชาวบ้านริมลำน้ำกก บริเวณชายแดนด้าน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เครียดและกังวลกับปัญหาสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐานในลำน้ำกก ส่งผลต่อวิถีชีวิตและการใช้น้ำมานานกว่า 3 เดือน ตอนนี้ชาวบ้านยิ่งตื่นกลัวมากขึ้น หลังมีกระแสข่าวการสุ่มตรวจปัสสาวะเด็กในชุมชนอย่างน้อย 2 คน พบสารหนูในร่างกาย ขณะที่สาธารณสุขเชียงใหม่ ยอมรับการสุ่มตรวจกลุ่มเสี่ยง 10 ราย พบสารหนู 9 ราย แต่ไม่เกินมาตรฐาน.-สำนักข่าวไทย

ค้นรัง “ก๊กอาน” เจ้าพ่อคราวน์กาสิโน คนสนิท “ฮุนเซน”

8 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการ “ปิดตึกบัญชีม้า ล่านายทุนเขมร” ค้น 19 จุด 3 จังหวัด เครือข่าย “ก๊กอาน” เจ้าพ่อคราวน์กาสิโน คนสนิท “สมเด็จฮุน เซน” ตามหมายจับสมคบกันก่ออาชญากรรมข้ามชาติ พัวพันในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในปอยเปต กัมพูชา.-สำนักข่าวไทย

ทบ.พาสื่อทัวร์ปราสาทตาเมือนธม ปัดโต้กัมพูชากล่าวหาไทยรุกราน

สุรินทร์ 8 ก.ค.- ทบ. พาสื่อทัวร์ปราสาทตาเมือนธม หวังเรียกนักท่องเที่ยวดูโบราณสถาน มองเป็นเรื่องดี หลังประชาชนทะลักเข้าชมปราสาท เผยไม่โต้กัมพูชากล่าวหาไทยรุกราน มุ่งยึดการสื่อสาร ไทย-กัมพูชา ไม่พัฒนาไปสู่ความตึงเครียด พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก (ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการพาสื่อมวลชนลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม ว่า พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) อยากให้พาสื่อมวลชนส่วนกลางมาลงพื้นที่ ทั้ง จ.สุรินทร์ จ.บุรีรัมย์ จ.อุบลราชธานี โดยอยากให้สื่อสัมผัสกับพื้นที่จริง 2 ส่วน โดยส่วนที่ 1 คือทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ ส่วนที่ 2 เรื่องของพื้นที่ส่วนหลังในเรื่องความพร้อมต่าง ๆ ที่ทางทหารและฝ่ายปกครองได้เตรียมความพร้อมกันไว้ ซึ่งปราสาทตาเมือนธมเป็นจุดแรกที่เป็นจุดที่มาลงพื้นที่หลังฟังคำบรรยายของกองกำลังสุรนารี โดยส่วนหนึ่งที่เดินทางมาในวันนี้เพื่อเยี่ยมชมโบราณสถาณที่สำคัญ ตามจริงเราขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปากรเมื่อปี พ.ศ. 2478 รวมถึงได้มีการมอบสิ่งของบำรุงขวัญและให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่แห่งนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีที่ผ่านมามีปากเสียงกันในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ได้มีการรับรายงานเรื่องนี้หรือไม่ พล.ต.วินธัย กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ได้รับรายงาน ส่วนที่ผ่านมาก็เป็นไปตามที่สื่อมวลชนได้รับข้อมูล ถือว่าไม่ได้อยู่ในจุดที่น่ากังวล ผู้ปฏิบัติงานทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา ก็สามารถใช้ความสัมพันธ์ในลักษณะที่เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ […]

“แพทองธาร” ชูแนวคิดวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ยกระดับสู่เวทีโลก

ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 8 ก.ค.- “แพทองธาร” เปิดโครงการการประชุมนานาชาติด้านซอฟต์พาวเวอร์ SPLASH – Soft Power Forum 2025 ชี้วัฒนธรรมไทยมีครบถ้วนทุกองค์ประกอบที่จะทำให้ต่างชาติหลงรัก กำลังกลายเป็นเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ ชูแนวคิดวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ยกระดับสู่เวทีโลก ตั้งเป้าส่งออกอัญมณีให้ถึง 1 ล้านล้านบาท ภายใน 5 ปี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการการประชุมนานาชาติด้านซอฟต์พาวเวอร์ (SPLASH – Soft Power Forum 2025) ณ เวทีกลาง Exhibition Hall 4 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ โดยมีรัฐมนตรี คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ หน่วยงานภาครัฐภาคเอกชนเข้าร่วม โดยนางสาวแพทองธาร กล่าวว่า รู้สึกดีใจอย่างมากที่มีโอกาสได้มางานนี้อีกครั้ง ซึ่งปีที่แล้วเป็นปีที่แรก และปีนี้งานยิ่งใหญ่กว่าเดิม มีคนให้ความสนใจจำนวนมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าชื่นใจ ทุกวันนี้เราอยู่ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมีสิ่งที่เราคาดการณ์ไม่ได้เกิดขึ้นมากมายทั้งในเรื่องของสภาพเศรษฐกิจและอีกหลายปัจจัยทั่วโลก ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆที่เข้ามาทำให้เราต้องมีการปรับตัวที่เพิ่มมากขึ้น ตนเชื่อว่าการเข้าสู่บริบทของการเปลี่ยนแปลงนั้น การเข้าใจเป็นสิ่งที่สำคัญมาก […]